พอดีมีเพื่อนคนนึงอยากให้ยิ้มเล่าเรื่องของโยฮันให้ฟังค่ะ ยิ้มก็เลยคิดว่าเขียนไว้ในพันทิปดีกว่า
เผื่อจะมีคนชอบโยฮันเหมือนกันเข้ามาอ่านด้วย ^^v
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงรู้จักบยอนโยฮันกันมาบ้างแล้วจากบทซอกยูล จากซีรีส์แห่งปี 2014 ของช่อง TvN
แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จัก หรือไม่รู้ว่าพ่อซอกยูลคนนี้ เข้าวงการมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่แก่แล้ว
เอ้ย ไม่ใช่ ไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมพึ่งมาเข้าวงการ
วันนี้ จขกท. จะมาเล่าเรื่องราวของบยอนโยฮันให้ฟังค่ะ
เกิด : 29 เมษายน 1986 (ปีนี้ 29 แล้ว ถ้านับแบบเกาหลีคือ 30 ใช่ไหมคะ)
การศึกษา : Korea national University of Arts (Acting Major)
เอเจนซี่ : Saram Entertainment (เอเจนซี่เดียวกับ Lee Ha Nui (ฮันนี่ลี) องค์หญิงโยวอนแ่ห่ง shine or go crazy)
เดบิ้ว : บยอนโยอันเริ่มเดบิ้วครั้งแรกด้วยการเล่นภาพยนต์เรื่อง Working on Saturday (토요근무) ในปี 2011
บยอนโยฮันเริ่มต้นในวงการด้วยการแสดงภาพยนต์มาตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งในปี 2014 บยอนโยฮัน
ร่วมแสดงซีรีส์ชื่อดังอย่างเรื่อง Misaeng ซีรีส์ตีแผ่ชีวิตคนทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยเขาแสดงในบทฮันซอกยูล
และในเรื่องนี้เองทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา แต่จริง ๆ แล้ว โยฮันเริ่มต้นการแสดงในวงการหนังอินดี้
มาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาพอสมควร ก่อนที่จะมาเล่นซีรีส์ในปี 2014 ซึ่งซีรีส์เรื่อง Miseang
ถือเป็นซีรีส์เรื่องแรกของเขา
บยอนโยฮัน เกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นบาทหลวง ส่วนคุณแม่ของโยฮันนั้นฝันจะเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก
ความฝันของโยฮันคือการได้เป็นนักแสดงแต่ว่าชีวิตมันไม่ง่ายเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะพ่อของโยฮันไม่เห็นด้วย
ที่เขาจะเป็นนักแสดง คุณพ่อส่งโยฮันไปเรียนเมืองนอกแต่โยฮันก็ยังไม่ทิ้งความฝัน จนวันหนึ่งคุณพ่อโทรหาโยฮัน
และบอกให้กลับเกาหลี โยฮันดีใจสุด ๆ เพราะเข้าใจว่าพ่อยอมรับที่จะให้ลูกเป็นนักแสดงได้แล้วแต่จริงๆ แล้ว พ่อให้กลับมาเพราะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กลับมาเกณฑ์ทหาร
หลังจากเกณฑ์ทหารแล้วโยฮันตัดสินใจสอบเข้ามหาวิทยาลัย Korea National University of Arts
ซึ่งคุณพ่อได้ให้สัตยาบันไว้แล้วว่า ถ้าสอบไม่ติดจะไม่ส่งให้เรียน ในที่สุดโยฮันก็สอบติดมหาวิทยาลัย
Korea National University of Arts ในวัย 24 ปี หลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัย โยฮันก็ได้มีโอกาสได้เล่นหนังอินดี้มากมาย
จนได้รับฉายาว่า ซงจุงกิแห่งวงการหนังอินดี้ (ทำไมต้องซงจุงกิ อันนี้ไม่เข้าใจ )
จากนั้นโยฮันก็ได้มีโอกาสแสดงซีรีส์ยอดเยี่ยมแห่งปีของวงการเคเบิลทีวีซีรีส์เรื่อง Misaeng นั่นเอง
ซีรีส์เรื่อง Misaeng ประสบความสำเร็จมาก ๆ ในฐานะซีรีส์ที่ฉายทางเคเบิ้ลที่มีเรตติ้งสูงและได้รับกระแสตอบรับจาก
แฟน ๆ เกาหลีเป็นอย่างดีหลังจากจบมิแซง โยฮันลับไปบ้าน พ่อแม่บอกโยฮันว่าได้ดูมิแซงแล้วชอบมาก พ่อถึงกับกล่าวชื่นชมโยฮัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาตื่นตันใจเป็นอย่างมาก ท้ายสุดโยฮันได้กล่าวว่าหลังจาก Misaeng จบแล้วมี 2 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ
1. ได้รับการยอมรับจากที่บ้าน
2. เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ (ประมาณว่าโยฮันทำได้เราก้ต้องทำได้!!)
โยฮันมีเพื่อนมากมาก นอกจากจะเป็นรุ่นพี่แล้ว ก็ยังให้กำลังใจน้อง ๆ เสมอ ๆ ว่าง ๆ ก็นัดเจอกันตลอด ๆ
ปล. มีทั้งจองบง จองฮวันเลยอ่ะ 5555
ผลงานที่ผ่านมา
ซีรีส์
- Six Flying Dagon (2015)
- Ex-Girlfriend Club (2015)
- Misaeng (2014)
ภาพยนต์
2014
- Madonna
- Socialphobia
- No Tears for the Dead as Joon Gi
2013
- Tinker Ticker
- 세개의 거울
- old Eyes as M3
2012
- 마귀 소년
- The Night of the Witness
2011
- Dear Catastrophe
- Working on Saturday
โยฮันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ และเพื่อน ๆ เสมอ ทั้งในเรื่องของความพยายาม ความตั้งใจและยังเป็นแรงใจให้น้อง ๆ อีกด้วย
ปล. เผื่อมีใครถามว่าลูกสาวยังรักไหม ตอบได้เลย รักเหมือนเดิม เพิ่มเติมเรื่อย ๆ 5555
มาทำความรู้จัก Byun Yo Han (บยอนโยฮัน) ซอกยูลแห่งมิแซง และ อีบังจีแห่ง Six Flying Dragon ^^
เผื่อจะมีคนชอบโยฮันเหมือนกันเข้ามาอ่านด้วย ^^v
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงรู้จักบยอนโยฮันกันมาบ้างแล้วจากบทซอกยูล จากซีรีส์แห่งปี 2014 ของช่อง TvN
แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จัก หรือไม่รู้ว่าพ่อซอกยูลคนนี้ เข้าวงการมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่แก่แล้ว
เอ้ย ไม่ใช่ ไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมพึ่งมาเข้าวงการ
วันนี้ จขกท. จะมาเล่าเรื่องราวของบยอนโยฮันให้ฟังค่ะ
เกิด : 29 เมษายน 1986 (ปีนี้ 29 แล้ว ถ้านับแบบเกาหลีคือ 30 ใช่ไหมคะ)
การศึกษา : Korea national University of Arts (Acting Major)
เอเจนซี่ : Saram Entertainment (เอเจนซี่เดียวกับ Lee Ha Nui (ฮันนี่ลี) องค์หญิงโยวอนแ่ห่ง shine or go crazy)
เดบิ้ว : บยอนโยอันเริ่มเดบิ้วครั้งแรกด้วยการเล่นภาพยนต์เรื่อง Working on Saturday (토요근무) ในปี 2011
บยอนโยฮันเริ่มต้นในวงการด้วยการแสดงภาพยนต์มาตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งในปี 2014 บยอนโยฮัน
ร่วมแสดงซีรีส์ชื่อดังอย่างเรื่อง Misaeng ซีรีส์ตีแผ่ชีวิตคนทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยเขาแสดงในบทฮันซอกยูล
และในเรื่องนี้เองทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา แต่จริง ๆ แล้ว โยฮันเริ่มต้นการแสดงในวงการหนังอินดี้
มาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาพอสมควร ก่อนที่จะมาเล่นซีรีส์ในปี 2014 ซึ่งซีรีส์เรื่อง Miseang
ถือเป็นซีรีส์เรื่องแรกของเขา
บยอนโยฮัน เกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นบาทหลวง ส่วนคุณแม่ของโยฮันนั้นฝันจะเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก
ความฝันของโยฮันคือการได้เป็นนักแสดงแต่ว่าชีวิตมันไม่ง่ายเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะพ่อของโยฮันไม่เห็นด้วย
ที่เขาจะเป็นนักแสดง คุณพ่อส่งโยฮันไปเรียนเมืองนอกแต่โยฮันก็ยังไม่ทิ้งความฝัน จนวันหนึ่งคุณพ่อโทรหาโยฮัน
และบอกให้กลับเกาหลี โยฮันดีใจสุด ๆ เพราะเข้าใจว่าพ่อยอมรับที่จะให้ลูกเป็นนักแสดงได้แล้วแต่จริงๆ แล้ว พ่อให้กลับมาเพราะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากเกณฑ์ทหารแล้วโยฮันตัดสินใจสอบเข้ามหาวิทยาลัย Korea National University of Arts
ซึ่งคุณพ่อได้ให้สัตยาบันไว้แล้วว่า ถ้าสอบไม่ติดจะไม่ส่งให้เรียน ในที่สุดโยฮันก็สอบติดมหาวิทยาลัย
Korea National University of Arts ในวัย 24 ปี หลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัย โยฮันก็ได้มีโอกาสได้เล่นหนังอินดี้มากมาย
จนได้รับฉายาว่า ซงจุงกิแห่งวงการหนังอินดี้ (ทำไมต้องซงจุงกิ อันนี้ไม่เข้าใจ )
จากนั้นโยฮันก็ได้มีโอกาสแสดงซีรีส์ยอดเยี่ยมแห่งปีของวงการเคเบิลทีวีซีรีส์เรื่อง Misaeng นั่นเอง
ซีรีส์เรื่อง Misaeng ประสบความสำเร็จมาก ๆ ในฐานะซีรีส์ที่ฉายทางเคเบิ้ลที่มีเรตติ้งสูงและได้รับกระแสตอบรับจาก
แฟน ๆ เกาหลีเป็นอย่างดีหลังจากจบมิแซง โยฮันลับไปบ้าน พ่อแม่บอกโยฮันว่าได้ดูมิแซงแล้วชอบมาก พ่อถึงกับกล่าวชื่นชมโยฮัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาตื่นตันใจเป็นอย่างมาก ท้ายสุดโยฮันได้กล่าวว่าหลังจาก Misaeng จบแล้วมี 2 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ
1. ได้รับการยอมรับจากที่บ้าน
2. เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ (ประมาณว่าโยฮันทำได้เราก้ต้องทำได้!!)
โยฮันมีเพื่อนมากมาก นอกจากจะเป็นรุ่นพี่แล้ว ก็ยังให้กำลังใจน้อง ๆ เสมอ ๆ ว่าง ๆ ก็นัดเจอกันตลอด ๆ
ปล. มีทั้งจองบง จองฮวันเลยอ่ะ 5555
ผลงานที่ผ่านมา
ซีรีส์
- Six Flying Dagon (2015)
- Ex-Girlfriend Club (2015)
- Misaeng (2014)
ภาพยนต์
2014
- Madonna
- Socialphobia
- No Tears for the Dead as Joon Gi
2013
- Tinker Ticker
- 세개의 거울
- old Eyes as M3
2012
- 마귀 소년
- The Night of the Witness
2011
- Dear Catastrophe
- Working on Saturday
โยฮันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ และเพื่อน ๆ เสมอ ทั้งในเรื่องของความพยายาม ความตั้งใจและยังเป็นแรงใจให้น้อง ๆ อีกด้วย
ปล. เผื่อมีใครถามว่าลูกสาวยังรักไหม ตอบได้เลย รักเหมือนเดิม เพิ่มเติมเรื่อย ๆ 5555