เมื่อวันศุกร์ ที่ 20 ช่วงเวลา 11 โมง รู้สึกท้องอืดไม่สบายตัว นอนพักก็รู้สึกปวดใต้ลิ้นปี่ ซํกพักก็ปวดร้าวไปหลัง
อาการแบบนี้เคยเป็นมาก่อน 2-3 ครั้งเวลา จัดมือเย็นหนักๆ หรือกินพวกขนมปังหรือ มาม่าตอนเย็น
(ผมไม่ทานอาหารเย็นมาหลายเดือนแล้วเนื่องจากกำลังลดน้ำหนักอยู่ แต่บางทีเวลามีปาตี้ก็มีมื้อหนักๆบ้าง)
ผมหนัก 132 เริ่มลดตั้งแต่ราวๆ เดือน มีนา - เมษาปีนี้ ตอนนี้ น้ำหนักเหลือ 106 แต่ช่วงที่ปวดท้องน้ำหนักก็ลดไป3-4โล เพราะต้นเดือน พย. น้ำหนักยัง 112 อยู่เลย ตอนต้นเดือน ไม่สบายเป็นไข้ไปรอบนึงแล้ว
การลดน้ำหนักของผมคือเข้าฟิตเนส อาทิตย์ละ 3- 5 วัน บางอาทิตย์ก็ไปทุกวัน แต่เรื่องการกินไม่ได้ควบคุมเลยก็คือกินตามปกติ แต่เย็นจะไม่กิน หรือถ้ากินก็พวกแตงโม มะละกอ นิดหน่อย น้ำหนักก็ลดราวๆเดือนละ 2-4 กิโล
มาเริ่มมีอาการ ปวดท้องร้าวไปหลัง นี่ราวๆ 2 เดือนมานี้เอง แต่ปวดไม่มาก และ 2-3 ชมก็จะหาย จะเป็นแค่ตอนกลางคืนหรือ ดึกๆ ตี 2 ถึงตี 4 ไปเลย
แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พอเริ่มเป็นก็ไปร้านขายยาซื้อพวกยาขับลม ลดกรด ยาน้ำมากิน พอกินได้ซํกพักก็อาเจียนแล้วปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ
เลยไปหาหมอคลินิคที่ใกล้ที่สุด หมอฉีดยาระงับปวดให้ ตอนบ่ายโมง จน 4 โมงก็ยังปวดอยู่ หมอเลยฉีดยาลดกรด ให้อีกเข็ม ซํกพักก็เอาถุงน้ำร้อนมาประคบร้อนให้ ก็เลยดีขึ้น
พอวันอาทิตย์ก็เลยไปหาหมอที่จุฬา หมอกดท้องดู ปรากฏว่าจุดที่ปวด ปัจจุบันคือใต้ชายโครงด้านขวา หมอก็เลย ให้ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ แล้วให้มาดูอาการอาทิตย์หน้า 29 พย. แล้วหมอก็เขียนใบให้ไปอัลตราซาว ให้ไปยื่นห้องนัดแล้วเขียนลงไปในใบว่าขอด่วน ปรากฏว่า ห้องนัดนัดให้ 28 ธค.
หลังจากนั้นก็ รู้สึกปวดตึงที่หลังมาตลอด แต่ไม่มาก กดท้องเจ็บแต่ไม่มาก ไม่ถึงกับสะดุ้ง
วันพุธ ที่ 25 รู้สึกว่าดีขึ้นมากแล้ว ก็เลยไปฟิตเนส แต่ก็เล่นนิดหน่อยราวๆ 50 -60 นาที ซิทอัพไป 100ที (ปกติจะทำ300-500ที) ยกเหล็ก 70 ที แล้วก็ปั่นจักรยาน 30 นาที ตอนนั้น ยังรู้สึกปวดตึงอยู่แต่ไม่มาก
วันพฤหัส ก็ไปทำงานตามปกติ เช้าทานข้าวกับปลานิลทอด ถั่วฝักยาวผัดไข่ ผัดผักกาดขาวไม่มีเนื้อสัตว์ กลางวันกิน ข้าวผัดกุ้ง + ปูอัดทอด บ่ายๆกินเม็ดมะม่วงไปนิดหน่อย พอซํก บ่าย 4 เริ่มมีอาการปวด แล้วก็มากขึ้นเรื่อยๆ
พอ ช่วง 3 ทุ่มเริ่มไม่ไหว เลยไปเข้าห้องฉุกเฉินที่จุฬาตอน4ทุ่ม หมอดูค่าเลือดที่ตรวจไปก็บอกว่าค่าเลือดปกติ ปัสสาวะมีโปรตีนปนนิดหน่อย ก็เลยเจาะเลือดไปตรวจอีกรอบ แล้วให้ยาแก้ปวดมา 2 แบบให้กินเฉพาะเวลาปวด
หลังจากนั้นก็ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ กินยาแก้ปวดแล้วไม่หาย ตี3เลยไปเข้าฉุกเฉินที่กล้วยน้ำไทอีกรอบ เพราะคิดว่าไปจุฬาอีกคงไม่ไหวเพราะคนเยอะมากก
หมอก็ฉีดยาลดการบีบตัวให้ แล้วให้กินยาที่หมอจุฬาให้อีกเม็ดนึง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จนเช้าก็ยังปวดอยู่แต่ก็ปวดน้อยลงนิดหน่อยเลยกลับบ้าน
พอ ช่วง 9 โมงเช้า ก็ยังปวดอยู่เลยกินยาแก้ปวดไปอีกรอบ แล้วก็กินยาลดกรด ขับลม ที่ต้องกินทุกวัน
จน9.30 น.ก็ยังไม่หาย ก็เลยไปไหว้พระที่ห้องพระ แล้วก็บนไว้ให้หายปวด จากนั้น ก็เอาน้ำมนต์ของหลวงปู่ที่นับถือทาท้อง
ซักพักก็หลับไป ตื่นมาอีกทีช่วงบ่ายแก่ๆเลย อาการก็ดีขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังมีอาการปวดตึงที่หลัง และใต้ชายโครงอยู่แต่ปวดไม่มาก
พรุ่งนี้ หมอที่จุฬาก็นัดอีกรอบ
อยากทราบว่าอาการแบบนี้ ผมเป็นอะไรได้บ้างครับเนี่ย
ปล. หมอที่คลินิควิเคราะห์ว่าเป็นกะเพราะ
ปล.2 มีไข้ต่ำมาตลอดอาทิตย์นะครับ ตัวร้อน เวลานอน ปากจะแห้งจมูกแห้ง
เวลาปวดหนัก ยืนจะปวดน้อยที่สุด นอนหงายพอได้ ตะแคงซ้ายจะปวดน้อย ถ้าตะแคงขวาจะปวดมาก ถ้านอนคว่ำจะรู้สึกเหมือนทับอะไรอยู่ แต่ก็จะปวดน้อยลง
ปวดบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา เข้าห้องฉุกเฉินไป 2 รอบแล้ว ยังหาสาเหตุไม่ได้ ช่วยทีครับ
อาการแบบนี้เคยเป็นมาก่อน 2-3 ครั้งเวลา จัดมือเย็นหนักๆ หรือกินพวกขนมปังหรือ มาม่าตอนเย็น
(ผมไม่ทานอาหารเย็นมาหลายเดือนแล้วเนื่องจากกำลังลดน้ำหนักอยู่ แต่บางทีเวลามีปาตี้ก็มีมื้อหนักๆบ้าง)
ผมหนัก 132 เริ่มลดตั้งแต่ราวๆ เดือน มีนา - เมษาปีนี้ ตอนนี้ น้ำหนักเหลือ 106 แต่ช่วงที่ปวดท้องน้ำหนักก็ลดไป3-4โล เพราะต้นเดือน พย. น้ำหนักยัง 112 อยู่เลย ตอนต้นเดือน ไม่สบายเป็นไข้ไปรอบนึงแล้ว
การลดน้ำหนักของผมคือเข้าฟิตเนส อาทิตย์ละ 3- 5 วัน บางอาทิตย์ก็ไปทุกวัน แต่เรื่องการกินไม่ได้ควบคุมเลยก็คือกินตามปกติ แต่เย็นจะไม่กิน หรือถ้ากินก็พวกแตงโม มะละกอ นิดหน่อย น้ำหนักก็ลดราวๆเดือนละ 2-4 กิโล
มาเริ่มมีอาการ ปวดท้องร้าวไปหลัง นี่ราวๆ 2 เดือนมานี้เอง แต่ปวดไม่มาก และ 2-3 ชมก็จะหาย จะเป็นแค่ตอนกลางคืนหรือ ดึกๆ ตี 2 ถึงตี 4 ไปเลย
แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พอเริ่มเป็นก็ไปร้านขายยาซื้อพวกยาขับลม ลดกรด ยาน้ำมากิน พอกินได้ซํกพักก็อาเจียนแล้วปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ
เลยไปหาหมอคลินิคที่ใกล้ที่สุด หมอฉีดยาระงับปวดให้ ตอนบ่ายโมง จน 4 โมงก็ยังปวดอยู่ หมอเลยฉีดยาลดกรด ให้อีกเข็ม ซํกพักก็เอาถุงน้ำร้อนมาประคบร้อนให้ ก็เลยดีขึ้น
พอวันอาทิตย์ก็เลยไปหาหมอที่จุฬา หมอกดท้องดู ปรากฏว่าจุดที่ปวด ปัจจุบันคือใต้ชายโครงด้านขวา หมอก็เลย ให้ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ แล้วให้มาดูอาการอาทิตย์หน้า 29 พย. แล้วหมอก็เขียนใบให้ไปอัลตราซาว ให้ไปยื่นห้องนัดแล้วเขียนลงไปในใบว่าขอด่วน ปรากฏว่า ห้องนัดนัดให้ 28 ธค.
หลังจากนั้นก็ รู้สึกปวดตึงที่หลังมาตลอด แต่ไม่มาก กดท้องเจ็บแต่ไม่มาก ไม่ถึงกับสะดุ้ง
วันพุธ ที่ 25 รู้สึกว่าดีขึ้นมากแล้ว ก็เลยไปฟิตเนส แต่ก็เล่นนิดหน่อยราวๆ 50 -60 นาที ซิทอัพไป 100ที (ปกติจะทำ300-500ที) ยกเหล็ก 70 ที แล้วก็ปั่นจักรยาน 30 นาที ตอนนั้น ยังรู้สึกปวดตึงอยู่แต่ไม่มาก
วันพฤหัส ก็ไปทำงานตามปกติ เช้าทานข้าวกับปลานิลทอด ถั่วฝักยาวผัดไข่ ผัดผักกาดขาวไม่มีเนื้อสัตว์ กลางวันกิน ข้าวผัดกุ้ง + ปูอัดทอด บ่ายๆกินเม็ดมะม่วงไปนิดหน่อย พอซํก บ่าย 4 เริ่มมีอาการปวด แล้วก็มากขึ้นเรื่อยๆ
พอ ช่วง 3 ทุ่มเริ่มไม่ไหว เลยไปเข้าห้องฉุกเฉินที่จุฬาตอน4ทุ่ม หมอดูค่าเลือดที่ตรวจไปก็บอกว่าค่าเลือดปกติ ปัสสาวะมีโปรตีนปนนิดหน่อย ก็เลยเจาะเลือดไปตรวจอีกรอบ แล้วให้ยาแก้ปวดมา 2 แบบให้กินเฉพาะเวลาปวด
หลังจากนั้นก็ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ กินยาแก้ปวดแล้วไม่หาย ตี3เลยไปเข้าฉุกเฉินที่กล้วยน้ำไทอีกรอบ เพราะคิดว่าไปจุฬาอีกคงไม่ไหวเพราะคนเยอะมากก
หมอก็ฉีดยาลดการบีบตัวให้ แล้วให้กินยาที่หมอจุฬาให้อีกเม็ดนึง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จนเช้าก็ยังปวดอยู่แต่ก็ปวดน้อยลงนิดหน่อยเลยกลับบ้าน
พอ ช่วง 9 โมงเช้า ก็ยังปวดอยู่เลยกินยาแก้ปวดไปอีกรอบ แล้วก็กินยาลดกรด ขับลม ที่ต้องกินทุกวัน
จน9.30 น.ก็ยังไม่หาย ก็เลยไปไหว้พระที่ห้องพระ แล้วก็บนไว้ให้หายปวด จากนั้น ก็เอาน้ำมนต์ของหลวงปู่ที่นับถือทาท้อง
ซักพักก็หลับไป ตื่นมาอีกทีช่วงบ่ายแก่ๆเลย อาการก็ดีขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังมีอาการปวดตึงที่หลัง และใต้ชายโครงอยู่แต่ปวดไม่มาก
พรุ่งนี้ หมอที่จุฬาก็นัดอีกรอบ
อยากทราบว่าอาการแบบนี้ ผมเป็นอะไรได้บ้างครับเนี่ย
ปล. หมอที่คลินิควิเคราะห์ว่าเป็นกะเพราะ
ปล.2 มีไข้ต่ำมาตลอดอาทิตย์นะครับ ตัวร้อน เวลานอน ปากจะแห้งจมูกแห้ง
เวลาปวดหนัก ยืนจะปวดน้อยที่สุด นอนหงายพอได้ ตะแคงซ้ายจะปวดน้อย ถ้าตะแคงขวาจะปวดมาก ถ้านอนคว่ำจะรู้สึกเหมือนทับอะไรอยู่ แต่ก็จะปวดน้อยลง