http://ppantip.com/topic/34492629 (เที่ยวต่อในโตเกียว) ต่อจากอันนี้นะคะ
เช้าของวันที่ 3 ในโตเกียว จริงๆเรามีแผนที่จะไปกินบุฟเฟ่ขาปูยักษ์กันค่ะ แต่เราต้องเปลี่ยนแผนอีกแล้ว เพราะต้องซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ เพราะกระเป๋าของเราล้อหัก 2 ล้อตอนเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ และวันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางออกจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ เราจึงต้องหากระเป๋าใส่เสื้อผ้าแทนใบเดิมที่แตก -*- ซวยมากๆเลย
เริ่มต้นเข้านี้ที่ตลาด Ameyoko กันเลยค่ะ
อะเมะโยโกะ (Ameyoko) ถนนสายช้อปปิ้งยอดฮิตแห่งย่านอุเอโนะ (Ueno) กลางโตเกียว นี้ทอดยาวใต้แนวรางรถไฟตั้งแต่สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi
Ameyoko
ที่ตั้ง : สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi, ย่านอุเอโนะ, เขตไทโตะ, โตเกียว เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-19.00 น.
*** สำหรับเราพักใกล้ สถานี Mikawashima เลยมาถึง Ueno ไม่กี่นาที (ที่พักใกล้สถานีทำให้การเดินทางสะดวกมากๆนะคะ)****************** ค่าเดินทางมาที่นี้ถ้าไม่มี JR Pass ค่าโดยสารก็ 160 yen ค่ะ
พอมาถึง Ueno Station เราก็หาทางออก Central Gate ค่ะ ก็จะมาเจอตรงนี้เลย
พอออกมาแล้วก็เดินข้ามถนนมาพร้มที่จะตะลุย ตลาดอะเมะโยโกะ (Ameyoko) กันจ้า
ตลาดนี้มีสินค้าหลากหลายชนิดทั้ง ของสด ของใช้ เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าทั้งของญี่ปุ่น และของนำเข้าที่ส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าในห้างบางร้านอาจจะต่อราคาเพิ่มได้อีก อาหารทะเล ผลไม้ ผักสด ร้านขนมของกินเล่น เช่น ทาโกะยากิยักษ์ โมจิ ขนมเค้ก ช็อคโกแลต ไอศครีม ชานมไข่มุก และร้านอาหารญี่ปุ่น อย่างราเม็ง ซูชิ ข้าวหน้าปลาไหล พื้นที่ตลาดกินขนาดใหญ่กินพื้นที่ไปหลายซอย รวมถึงใต้ดิน ส่วนใหญ่จะเปิดร้านประมาณ 10 โมงเช้าไปจนถึงช่วงเย็นๆ และมักจะปิดทุกวันพุธ (ข้อมูลจาก
http://www.talonjapan.com/ameyoko-market/)
เป้าหมายของเราที่มาตลาดนี้ก็จะมาหาซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องขอเติมพลังก่อน
เรามาทานราเม็งกันค่ะเช้านี้ สำหรับร้านนี้พอเข้าไปถึง เขาก็จะมีตู้สำหรับสั่งอาหารอยู่ทางเข้าเลย เราก็ไปเลือกอาหารแล้วก็ใส่เงินตามราคาจากนั้นใบสั่งอาหารก็จะออกมา แล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยจ้า
นี่คือน่าตาเมนูอาหารที่เราสั่ง ขอบอกว่าชามใหญ่มากๆเลยค่ะ ราคาชามนี้ประมาณ 980 เยนค่ะ
เครื่องปรุงของเขาก็มีน้าาา
รสชาดอาหารร้านี้อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ทานราเม็งตอนเช้ากับอากาศเย็นๆ ฟินมากๆเลย
เขาบอกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง พอท้องอิ่มแล้วก็พร้อมตะลุยตลาดกันค่ะ
เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ร้านค้าต่างๆก็ทยอยเปิดกันแล้วว ร้านขายของสดก็มา...
ร้านของเท้าก็มีเยอะมาก
ตลาดนี้ของขายเยอะมากจริงๆค่ะ ร้านเกมใหญ่ๆก็หลายร้านเลย เครื่องสำอางค์เอย น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เยอะจุใจ ราคาก็ถูกด้วยค่ะ และใกล้ตลาดนี้ เดินออกไปนิดเดียวก็จะเจอกับตึกม่วงหรือ Takenya ตึกขายของฝากที่เป็นที่นิยมของคนไทยที่ไปซื้อของกัน
เราเดินช๊อปกันสักพัก เราก็ตามหากระเป็าเดินทางเจอ Completed แล้วจ้าาาาาา แต่จริงๆแล้วกระเป๋าไม่น่าพังเลยยยยเน๊อะ T-T แงๆ
ราคากระเป๋า อยู่ที่ 9800+ เยน แต่เราต่อเขา เหลือ 8,500 เยน 555+ อยู่เมืองนอกก็ต่อราคาได้ เกร๋ไปอีก
*******************************************
พอได้กระเป๋าเดินทางแล้ว ก็เอากระเป๋าไปเก็บห้อง เพื่อจะเดินทางไปตามหา รองเท้า onitsuka tiger จริงที่ตลาด Ameyoko ก็มีค่ะ แต่ยังไม่เจอที่ Made in Japan ส่วนใหญ่ ก็มีแต่ เมดอินเวียดนาม กับ อินโดนีเซีย เราเลยจะไปดูย่าน Ginza กัน ว่าจะมี Nippon Made หรือป่าว
ไปกันต่อเลยจ้าาาา
การเดินทางไป Ginza คลิ๊กที่นี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับเรา ใช้รถไฟขอ JR จาก Ueno - Yurakucho ค่าโดยสารในส่วนของไม่มี JR pass เท่ากับ 160 เยนค่ะ เดินทางประมาน 9 นาทีถึง
***********************************************
ภาพนี้เป็น ตึก Ginza Wako เป็นอาคารแบบยุโรปมีหอ นาฬิกาที่ยอดตึกถือเป็นสัญลักษณ์ของ GinZa เลยค่ะ
กินซ่า (Ginza 銀座) เป็นย่านแหล่งชอปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม สินค้าหรูหรา ร้านอาหาร ในโตเกียว ตึกและร้านค้าในย่านนี้ตกแต่งหรูหรา บรรยากาศคล้ายเมืองในยุโรป มีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ที่มาเปิดร้านอยู่ในย่านนี้ เช่น Giorgio Armani, Chanel, Carolina Herrera, Dior, Gucci และ Louis Vuitton ค่ะ
- - - - - - เ ร า ก็ ไ ม่ พ ล า ด ที่ จ ะ แ ช ะ รู ป คู่ กั บ เ จ้ า ตึ ก นี้ ค่ ะ ^ ^ - - - - - -
ด้านหลังคือ สถานีโตเกียวค่ะ คือเราเดินจากสถานี Yurakucho เพื่อตามหา Shop รองเท้า onitsuka tiger ตาม Google map มา อยู่ๆก็มาโผล่ที่หน้าสถานีโตเกียวเลย ระยะทางประมาณ 850 m. คือ Shop ขายรองเท้าอยู่ ตึก Kitty นะคะ คือมันอยู่หน้าสถานีโตเกียวเลย ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกเราคงลงที่สถานีโตเกียวแล้วล่ะคะ เดินเมื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 555555 +
และแล้วเราก็ได้มาจ้าาาา.... Completed ไปอีก 1 อย่างสำหรับวันนี้ ^^
สำหรับเพื่อนๆที่ตามหารองเท้า onitsuka tiger ที่เป็นของ Nippon made มาที่ตึกนี้เลยนะคะ แต่ตัวเลือกเหลือไม่เยอะแล้ว ตอนที่แฟนเราไปซื้อมี 10 กว่าคู่เองมั้งที่เป็นของ Nippon made
************************************
หลังจากได้รองเท้าย่านนี้แล้ว เราก็จะไป Tokyo Skytree มองดู วิว 360 ของโตเกียวกันจ้ะ
- ตามมากันเลย -
สำหรับ หอโทรทัศน์โตเกียวสกายทรี(Tokyo Skytree) เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ (Asakusa) โตเกียวสกายทรีเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้นด้วยค่ะ
โตเกียวสกายทรีถูกแบ่งเป็นสองขั้น โดยชั้นแรกสูง 350 เมตร และชั้นบนสูง 450 เมตร เป็นจุดชมวิวเมืองโตเกียวที่สวยที่สุดอีกจุดนึงเนื่องจากสามารถชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา ภายในชั้นแรกจะมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร Musashi Sky Restaurant ซึ่งเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั้นญี่ปุ่นผสมฝรั่งเศส (ข้อมูลจาก
http://www.talonjapan.com/tokyo-skytree)
** วิธีเดินทางก็ไปทางเดียวกับ วัด Asakusa / วัดเซ็นโซจิ คือ เริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดิน Ueno สาย Ginza line ไปลงที่ Asakusa จากนั้นก็ต่อ สาย Tobu skytree local ไป ก็จะถึง Tokyo Skytree เลยจ้า ค่าโดยสาร จาก Ueno ถึง Asakusa 160 yen และ จาก Asakusa ไป Tokyo Skytree อีก 150 yen ค่ะ
เมื่อมาถึงแล้วเราก็ขึ้นไปด้านบนของตึก จะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ เพื่อเราจะไปซื้อตั๋วขึ้นชมวิว 360 ของโตเกียวกันค่ะ
สำหรับราคาตั๋ว จะอยู่ที่ 2,060 yen ต่อคนค่ะ อันนี้จะอยู่ที่ความสูง 350 เมตรนะคะ ถ้าจะขึ้นสูงกว่านี้ก็ไปซื้อตั๋วอีก 1000 yen เพื่อที่จะขึ้นไปที่ความสูง 450 เมตรค่ะ
นี่คือหน้าตาของตั๋วจ้า
พร้อมแล้วเราขึ้นไปอยู่ที่ความสูง 350 เมตรกันเลย (นี่คือภาพถ่ายตอนอยู่ในลิฟต์ ค่ะ เขาก็จะบอกเราว่าตอนนี้เราอยู่ที่ความสูงเท่าไหร่แล้ว)
- - - - แ ล ะ ภ า พ ต่ อ ไ ป นี้ คื อ บ ร ร ย า ก าศ บ น โ ต เ กี ย ว ส ก า ย ท รี น ะ ค ะ - - - - -
เห็นวิวแบบ 360 องศาของโตเกียวเลยค่ะ ขอบอกว่าสวยมากๆเลย
ตรงจอนี้เราสามารถวิวแผนที่ของโตเกียวได้ แต่จอนี้ห้ามแตะนะคะ เขาจะมีอีก 1 จอที่สามารถแตะและซูมดูพื้นที่ต่างๆในโตเกียวได้ เจ๋งมากๆค่ะ
เราสองคนรู้สึกประทับใจมากที่ได้ขึ้นมาอยู่บนหอคอยที่สูงที่สุดในโลก เป็นความทรงจำที่ดีของเรามากๆเลย...
- - - - จ บ ท ริ ป ที่ โ ต เ กี ย ว ส ำ ห รั บ วั น นี้ เ ต รี ย ม ตั ว อ อ ก ไ ป น อ ก เ มื อ ง กั น ต่ อ พ รุ่ ง นี้ ค่ ะ - - - - -
ต่อวันที่ 4 ค่ะ********* Kawaguchiko (ใบไม้เปลี่ยนสี - ฟูจิซัง) --->>>
http://ppantip.com/topic/34492706
วิธีเดินทางไปตลาด Ameyoko : คลิ๊กดูตามนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้>วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno หรือ Okachim
" H o n e y m o o n" นี้ ที่ J A P A N เที่ยวญี่ปุ่นไปกับ "สองเรา" (Part4 :Day3 (Ameyoko - Ginza - Tokyo Skytree)
เช้าของวันที่ 3 ในโตเกียว จริงๆเรามีแผนที่จะไปกินบุฟเฟ่ขาปูยักษ์กันค่ะ แต่เราต้องเปลี่ยนแผนอีกแล้ว เพราะต้องซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ เพราะกระเป๋าของเราล้อหัก 2 ล้อตอนเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ และวันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางออกจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ เราจึงต้องหากระเป๋าใส่เสื้อผ้าแทนใบเดิมที่แตก -*- ซวยมากๆเลย
เริ่มต้นเข้านี้ที่ตลาด Ameyoko กันเลยค่ะ
อะเมะโยโกะ (Ameyoko) ถนนสายช้อปปิ้งยอดฮิตแห่งย่านอุเอโนะ (Ueno) กลางโตเกียว นี้ทอดยาวใต้แนวรางรถไฟตั้งแต่สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi
Ameyoko
ที่ตั้ง : สถานี JR Ueno ไปจนถึงสถานี JR Okachimachi, ย่านอุเอโนะ, เขตไทโตะ, โตเกียว เปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-19.00 น.
*** สำหรับเราพักใกล้ สถานี Mikawashima เลยมาถึง Ueno ไม่กี่นาที (ที่พักใกล้สถานีทำให้การเดินทางสะดวกมากๆนะคะ)****************** ค่าเดินทางมาที่นี้ถ้าไม่มี JR Pass ค่าโดยสารก็ 160 yen ค่ะ
เรามาทานราเม็งกันค่ะเช้านี้ สำหรับร้านนี้พอเข้าไปถึง เขาก็จะมีตู้สำหรับสั่งอาหารอยู่ทางเข้าเลย เราก็ไปเลือกอาหารแล้วก็ใส่เงินตามราคาจากนั้นใบสั่งอาหารก็จะออกมา แล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยจ้า
การเดินทางไป Ginza คลิ๊กที่นี้ค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับเรา ใช้รถไฟขอ JR จาก Ueno - Yurakucho ค่าโดยสารในส่วนของไม่มี JR pass เท่ากับ 160 เยนค่ะ เดินทางประมาน 9 นาทีถึง
ภาพนี้เป็น ตึก Ginza Wako เป็นอาคารแบบยุโรปมีหอ นาฬิกาที่ยอดตึกถือเป็นสัญลักษณ์ของ GinZa เลยค่ะ
กินซ่า (Ginza 銀座) เป็นย่านแหล่งชอปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม สินค้าหรูหรา ร้านอาหาร ในโตเกียว ตึกและร้านค้าในย่านนี้ตกแต่งหรูหรา บรรยากาศคล้ายเมืองในยุโรป มีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ที่มาเปิดร้านอยู่ในย่านนี้ เช่น Giorgio Armani, Chanel, Carolina Herrera, Dior, Gucci และ Louis Vuitton ค่ะ
ด้านหลังคือ สถานีโตเกียวค่ะ คือเราเดินจากสถานี Yurakucho เพื่อตามหา Shop รองเท้า onitsuka tiger ตาม Google map มา อยู่ๆก็มาโผล่ที่หน้าสถานีโตเกียวเลย ระยะทางประมาณ 850 m. คือ Shop ขายรองเท้าอยู่ ตึก Kitty นะคะ คือมันอยู่หน้าสถานีโตเกียวเลย ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกเราคงลงที่สถานีโตเกียวแล้วล่ะคะ เดินเมื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 555555 +
- ตามมากันเลย -
สำหรับ หอโทรทัศน์โตเกียวสกายทรี(Tokyo Skytree) เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ (Asakusa) โตเกียวสกายทรีเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้นด้วยค่ะ
โตเกียวสกายทรีถูกแบ่งเป็นสองขั้น โดยชั้นแรกสูง 350 เมตร และชั้นบนสูง 450 เมตร เป็นจุดชมวิวเมืองโตเกียวที่สวยที่สุดอีกจุดนึงเนื่องจากสามารถชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา ภายในชั้นแรกจะมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร Musashi Sky Restaurant ซึ่งเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั้นญี่ปุ่นผสมฝรั่งเศส (ข้อมูลจาก http://www.talonjapan.com/tokyo-skytree)
** วิธีเดินทางก็ไปทางเดียวกับ วัด Asakusa / วัดเซ็นโซจิ คือ เริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดิน Ueno สาย Ginza line ไปลงที่ Asakusa จากนั้นก็ต่อ สาย Tobu skytree local ไป ก็จะถึง Tokyo Skytree เลยจ้า ค่าโดยสาร จาก Ueno ถึง Asakusa 160 yen และ จาก Asakusa ไป Tokyo Skytree อีก 150 yen ค่ะ
เมื่อมาถึงแล้วเราก็ขึ้นไปด้านบนของตึก จะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ เพื่อเราจะไปซื้อตั๋วขึ้นชมวิว 360 ของโตเกียวกันค่ะ
สำหรับราคาตั๋ว จะอยู่ที่ 2,060 yen ต่อคนค่ะ อันนี้จะอยู่ที่ความสูง 350 เมตรนะคะ ถ้าจะขึ้นสูงกว่านี้ก็ไปซื้อตั๋วอีก 1000 yen เพื่อที่จะขึ้นไปที่ความสูง 450 เมตรค่ะ
พร้อมแล้วเราขึ้นไปอยู่ที่ความสูง 350 เมตรกันเลย (นี่คือภาพถ่ายตอนอยู่ในลิฟต์ ค่ะ เขาก็จะบอกเราว่าตอนนี้เราอยู่ที่ความสูงเท่าไหร่แล้ว)
ต่อวันที่ 4 ค่ะ********* Kawaguchiko (ใบไม้เปลี่ยนสี - ฟูจิซัง) --->>> http://ppantip.com/topic/34492706
วิธีเดินทางไปตลาด Ameyoko : คลิ๊กดูตามนี้ค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้