เป็นทริปสองวัน หนึ่งคืนที่ประทับใจมาก การเดินทางครั้งนี้ก็ชิลล์มากเช่นกัน เนื่องจากโชคดีได้ตั๋วโปรของพี่สิงโตปีกส้ม ทำให้สองผัวเมียได้ตั๋วไปกลับกรุงเทพเชียงรายราคาไม่ถึงสองพัน ตอนแรกกะเฟี้ยวจะเป็นแว๊นเกิร์ลกับสก๊อยบอย ขี่มอไซด์ลัดเลาะขึ้นภูชี้ฟ้า แต่สังขารไม่ให้แล้วดันมาไข้ซะก่อนหน้าวันเดินทาง ก็เลยต้องเช่ารถในสนามบิน สำหรับการเดินทางในเชียงรายการเช่ารถจากสนามบินก็ถือว่าเป็นอะไรที่สะดวกมากนะตัวเทอ อัตราค่าเช่ารถวันละ 1100 บาท เพียงแค่ใช้บัตรเครดิต บัตรประชาชน แล้วก็ใบขับขี่ เท่านี้ก็ได้รถมาขับสบายๆ ประเดิมที่แรกของการเดินทางครั้งนี้ของเรากันที่วัดพระสิงห์ เป็นวัดเล็กๆที่อยู่ในตัวเมือง ด้านในมีความวิจิตรสวยงามมาก หลังจากที่เอาฤกษ์เอาชัยในการเดินทางแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง เราไปถึงไร่ชาช่วงบ่ายโมง ตอนไปถึงเห็นเหมือนชาวเขาวิ่งลงมาอย่างแตกฮือ ตอนแรกก็ตกใจว่ามีเหตุการณ์ไรหว่า พอเข้าไปดูใกล้ๆ คนงานวิ่งลงมาเก็บยอดชา เพิ่งจะรู้ว่ายอดชานี่เค้าเก็บช่วงบ่าย นึกว่าเก็บตอนเช้า มาถึงฉุยฟงแล้วก็คงไม่มีกิจกรรมไหนที่จะเหมาะไปกว่าการกิน สั่งสิครัชรออัลไร เค้กชาเขียว ชาเขียวปั่น หมั่นโถ หมี่ผัด บลาๆๆ หลังจากที่จัดหนักซัดชาเขียวไปหมดไร่ เราก็ออกเดินทางไปภูชี้ฟ้า ระยะทางจากไร่ชาฉุยฟงไปภูชี้ฟ้าประมาณร้อยกว่าโล บรรยากาศสองข้างทางนี่ฟินมากครัชพี่น้องครัช ทุ่งนาข้าวสีเขียว สลับกับภูเขาสูง ถึงภูชี้ฟ้าซะค่ำก็เพราะวิวข้างทางนี่แหละ ทำให้หยุดลั่นชัตเตอร์ไปหลายรอบ ด้วยความที่ขับไปตาม GPS บวกกับไม่ศึกษาเส้นทางให้ดี เราขึ้นภูชี้ฟ้าเส้นเก่า  อุแม่เจ้ามันทั้งสูงทั้งชัน แต่บรรยากาศสองข้างทางขึ้นภูฟินมาก ขับไปนานทีจะมีรถผ่านซักคัน ตอนนั้นนึกในใจดีนะที่เช่ารถเก๋งนี่ถ้าขี่มอไซด์คงถอดใจตั้งแต่ตีนภูหล่ะ คืนนี้เรานอนค้างบนภูชี้ฟ้าเป็นรีสอร์ทเล็กๆชื่อ บ้านเหนือเมฆ เจ้าของที่พักน่ารักมาก อากาศนี่ไม่ต้องพูดถึงอย่างกะติดแอร์ เย็นหรอยเว้อ... หัวรุ่งวันอาทิตย์เราเหมารถให้มารับขึ้นจุดชมวิวภูชี้ฟ้าในราคา 200 บาท ช่วงนี้ไม่ใช่เทศกาลเค้ารอจนกว่าเราจะลงมาจากภูกี่โมงก็ได้ ระยะทางจากที่พักไปจุดชมวิว ประมาณสองกิโล ก่อนขึ้นภูแนะนำให้หาอะไรกินไปก่อนนะคร๊าบ เดี๋ยวจะหิว แล้วก็อย่าลืมไฟฉายด้วยหล่ะ เพราะเส้นทางมันมืด ระยะทางขึ้นภูประมาณ 750 เมตร ถ้าร่างกายแข็งแรงก็ประมาณ 15 นาที แต่ถ้าเดินไปพักไปก็คูณสองคูณสามก็ว่ากันไป ณ จุดนี้มาถึงบนยอดภูแล้ว บอกเลยว่าพี่นี่ฟินมาก ที่นี่เห็นดาวชัดมาก ทะเลหมอกตัดยอดภู แสงแดดสาด โอ่วววว หิวข้าวอีกรอบ ลงจากยอดภูประมาณเกือบแปดโมง เช็คเอาท์ออกจากที่พัก เกือบ 10 โมง ขากลับนี่ชิลล์ นึกว่ามีทางขึ้นลงเส้นเดียวปรากฏว่าหลงครัชมาออกเส้นอำเภอเทิง แต่ก็ดีนะไม่ลาดชันเหมือนเส้นเก่าขับง่าย (แนะนำเลยนะครัชว่าถ้าใครมา ให้วิ่งเส้นอ.เทิงทั้งไปและกลับ เส้นทางสะดวก) วันนี้เราเที่ยวในตัวเมืองซึ่งจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่วัดร่องขุ่น วัดนี้สวยมาก เสียดายที่เกิดเหตุการณแผ่นดินไหวทำให้อยู่ในช่วงบูรณะวัด ออกจากวัดก็แวะไปถ่ายรูปกับพี่สิงห์ที่ไร่แป๊บนึง แล้วก็มาเก็บหอนาฬิกาที่สวยที่สุดในประเทศไทย จากนั้นก็ไปนั่งชิลล์กินกาแฟตามวิสัยคนมีสไตล์ ใครมาเชียงรายพี่นี่แนะนำเลยนะครัช ร้านกาแฟชื่อ **ชีวิตธรรมดา***ร้านตั้งอยู่ใกล้สนามบิน ถ้ามาก็อย่าลืมมานั่งชิลล์ก่อนขึ้นเครื่องกลับนะคร๊าบ ถึงเวลามณีต้องบอกลาเจียงฮายแล้ว บึ่งราชรถมาเทียบท่าที่สนามบิน พร้อมโทรนัดเจ้าหน้าที่บริษัทรถเพื่อตรวจความเรียบร้อย....จบแล้วครัชทริปเจียงฮาย