ใครบ้างในตอนนี้....กำลังร้องไห้ กำลังคิดมาก กำลังเริ่มท้อ เข้ามาคุยกันหน่อยได้มั้ย

😓 เเค่อยากพูดคุยสิ่งที่เหนื่อยอยู่ในใจ รู้ว่าท้อไม่ได้ เเต่เเค่อยากระบาย เพื่อที่จะได้มีพื้นที่หายใจกับปัญหาของชีวิต
อยากเกริ่นเเนะนำตัวกันก่อนว่าปีนี้อายุ20เเล้ว เเน่นอนว่าเรียนไม่จบเพราะออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน เนื่องด้วยไปต่อไม่ไหว จึงหันชีวิตเข้าสู่ความคิดที่ว่าต้องทำงานเต็มตัว เต็มเวลา เรามีพี่น้องกันอยู่3คน คนโตก็เรียนมหาวิทยาลัยเเต่ออกมาเเล้ว ส่วนน้องปีนี้ต้องขึ้นมัธยมปลาย พี่เราเรียนมหาลัยกับเราคนละที่ เเต่ก็มาเช่าหออยู่กับเราเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าหอนับว่าเป็นราคาที่ถูกมากในเเถบนั่นคือ2500บาท เดินถึง2-3วันกว่าจะหาเจอ เราจะไม่ขอเอ่ยถึงครอบครัว เพราะชีวิตที่เราสามคนได้รับมามันค่อนข้างเเย่พอสมควร เราสามคนถึงต้องหาทางใช้ชีวิตกันเอง เราเป็นคนกลางเเต่เหมือนจะเป็นพี่ใหญ่ในบ้าน เพราะพี่สาวเราค่อนข้างไม่สู้คนเท่าไหร่ มาเข้าเรื่องกันว่าทำไมเราถึงชอบบ่นว่าเราท้อบ่อยๆ เราไม่ได้มองว่าชีวิตตัวเองเเย่ที่สุด เเต่เเค่เราคิดว่าชีวิตเรามันอยู่ในจุดที่ต้องรับเรื่องเดิมๆซ้ำๆจนบ่อยเกินไปมั้ย ตอนเราเรียนมหาวิทยาลัยเทอมเเรก ตารางเรียนยังไม่เเน่น เราก็รีบหางานทำเลย เพราะคิดว่าอย่างน้อยต้องมีเก็บสำรองยามฉุกเฉินของเราสามคน งานจัดเรียงสินค้า สามทุ่มถึงเช้าบ้าง งานทำขนมบ้าง เย็บผ้าวนบ้าง จัดว่าทำสารพัดงาน เเม้เเต่รับจ้างทำงานเพื่อนบ้างเราก็ยินดีทำหมด ตอนเเรกเราตั้งใจว่าถ้าจบมัธยมปลายเเล้วอาจจะไม่เรียนต่อ เเต่มหาลัยที่เราตั้งใจจะเข้าตั้งเเต่เด็ก ตั้งเเต่ยังไม่รู้ความว่ามหาวิทยาลัยคืออะไร เห็นว่ามีชื่อเราประกาศ เรานี้ลิงโลดเเล้วเฝ้ามองหาอนาคตจากมหาวิทยาลัยเเห่งนี้ คิดว่าถ้าเรียนต่อ เราจะสามารถสานต่อหลายๆอย่างได้มากกว่านี้ หลังจากยืนยันการเข้าเรียนเรียบร้อย งานดันเข้าเพราะเราไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ที่เราคิดว่าอีก1เดือนมีเวลาหาทันเเน่ๆ เเต่ตารางการชำระเงินดันบอกว่าเราต้องชำระอีก5วันข้างหน้า เรานั่งร้องไห้หน้าหอพักยันเช้าทุกวัน จนวันสุดท้ายตัดใจเเล้วจึงไปโพสต์ขอบคุณพี่ๆที่คณะที่เข้ามาทำความรู้จักมาทักทาย เเต่ก็มีพี่ที่ใจดีมากๆเข้ามาช่วยเหลือ มาช่วยทำเรื่องให้เรียนต่อได้ ผ่านโครงการผู้กู้รายเก่า กยศ.เเละขอ ขอบคุณคุณครูที่โรงเรียนที่มาช่วยเป็นธุระให้ จนเราได้เข้าเรียนต่อ หลังจากนั่นเงินเก็บที่เราเก็บมาก็หมดไปกับค่าชุด ค่าหอเเละค่าจิปาถะต่างๆ รวมทั้งพี่เราด้วยเช่นกัน พี่เรากลับมาเรียนต่อหลังจากทำงานเก็บเงิน1ปีเต็มๆบางคนคิดว่าทำไมไม่เรียนเเค่คนเดียวไปก่อน พี่เราเป็นคนขยันเเละใฝ่ฝันอยากจะเข้ามหาลัย เราจึงไม่ห้ามปราม เเต่พร้อมจะช่วยเหลือกันไป เทอมเเรกตารางเรียนเราไม่เเน่น เราจึงพอมีเวลาว่างทำงาน รับเสื้อผ้าที่ไปเห็นตอนรับจ้างเย็บผ้าวนมาซัก มารีดขาย จนสภาพเหมือนใหม่ เพราะเป็นเสื้อผ้าที่ขายไม่ออกจากโรงงาน หรือตกค้าง หรือสภาพไม่สมบูรณ์ มาซักมาซ่อมเเซมเอง ขนาดเพื่อนมาหอจากที่เคยเห็นห้องเราสะอาดๆกลายเป็นกองเสื้อผ้ายักษ์เต็มห้อง เราขายเสื้อผ้าเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์บ้าง ทั้งๆที่โซนตรงนั่บางร้านขายไม่ออก เเต่เราเเค่ตั้งขายสองล็อกเเต่สามารถขายได้ถึงวันละ5,000เมื่อหักค่าล็อก ค่าเเท็กซี่ไป มันอาจจะดูเหมือนเยอะเเต่พอนานไปกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น พี่สาวเราเริ่มมีงานที่มหาวิทยาลัยมากขึ้น ค่าใช้จ่ายยิ่งมากขึ้นตาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่