เมื่อเพื่อนมีธุระที่เพชรบูรณ์ การเดินทางสู่ "ภูทับเบิก" ของเราก็เริ่มขึ้น



ทริปนี้ใช้เวลาตัดสินใจแค่ 2 วัน ไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรมาก
เราเดินทางกันในวันที่ 19 กันยายน 2558 มีเวลาแค่ 2 วัน เสาร์-อาทิตย์  

เที่ยวก็อยากเที่ยว ธุระก็ต้องทำ เอาไงดี ?

Plan A - ไปธุระคืนวันเสาร์แล้วขับขึ้นภูตอนกลางคืน
Plan B - ขึ้นภูก่อนขากลับค่อยแวะทำธุระคืนวันอาทิตย์

ไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ เราพุ่งไป Plan B อะไรไม่รู้ขอเที่ยวไว้ก่อน ฮ่าๆ



การเดินทาง:
เราเดินทางด้วยรถยนต์ เราใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง
ออกจากบ้าน 9.30 น. ถึงที่หมายประมาน 4 โมงกว่าๆ
นานหน่อยเพราะรถติดแหง็กตรงวิภาวดี แถมเราแวะกินแวะพักแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ก่อนออกเดินทางทำการบ้านเรื่องเส้นทางเยอะมาก
แต่พอไปถึงจริงๆ ก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะ จะมีทางเป็นหลุมๆแค่บางจุดเท่านั้นเอง

เส้นทาง :
เส้นทางที่ใช้วิ่งก็ไม่ซับซ้อนเลย แรกๆยิงยาวอย่างเดียว
ขอเขียนคร่าวๆว่าเราต้องมุ่งหน้าไปตามถนนหมายเลขไหนบ้าง ยังไงเพื่อนๆลอง google map ประกอบน๊า
มาเริ่มล้อหมุนเลยดีกว่า คิดซะว่าเล่นเกมส์ขับรถมองหาป้ายเส้นทาง เริ่ม!...

วิ่งตามถนนหมายเลข 1 - จากวิภาวดีวิ่งตามทางหลวงหมายเลข1ไปเรื่อยๆ แล้วมองหาป้ายถนนหมายเลข 21
วิ่งเข้าถนนหมายเลข 21 เพชรบูรณ์ - พอเข้าถนน 21 แล้วเส้นนี้จะวิ่งยาวเลย สบายๆค่ะ ต่อไปมองหาป้ายถนนหมายเลข 12
วิ่งเข้าถนนหมายเลข 12 พิษณุโลก - เบี่ยงซ้ายไปตามเส้น 12 แล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆ ต่อไปให้มองหาป้ายถนนหมายเลข 2327
เลี้ยวขวาเข้าาถนนหมายเลข 2327 ภูทับเบิก - จากถนนหมายเลข 12 วิ่งมาจะเจอสี่แยกที่มีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไป 2327 เลี้ยวโลด
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 2331 - ขับตาม 2331 มาเรื่อยๆจะเจอป้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าด้ายซ้ายมือ
ถ้าจะไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็ตรงขึ้นไป ถ้าไปภูทับเบิกให้เลี้ยวขวา
จากนั้นอีกนิดเดียวก็จะเห็นป้ายทางขึ้นภูทับเบิกในที่สุดก็ขับไปต่ออีกไม่ไกลค่ะ ค่อยๆขับมาเส้นทางไม่ยากอย่างที่คิด



ที่พัก :
เราเช่าเต๊นท์ที่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ราคา 700 บาท (สำหรับ 3 คน แต่เราไปกัน 2 คน นอนสบายๆ)
มีหมอนกับผ้าห่มให้เพียงพอ ซักมาหอมฉุยเลย
พอจ่ายตังค์อะไรเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราไปเลือกทำเล พอได้แล้วเค้าก็มากางเต๊นท์ให้เสร็จเลย
อ้อ! ถ้าอยากได้ผ้าใบเผื่อฝนตก ที่นี่เค้าก็มีให้เช่า




ได้เวลากินแล้วแหละ คนอื่นเค้ามีชุดปิคนิคนั่งกินหมูกระทะกันหน้าเต๊นท์
เราสองคนไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ก็เลยไปนั่งกินหมูกระทะที่ร้านกัน
แล้วก็จิ้นกันเองว่าเกาหลีสุดๆเลยเนอะแกกกก ฮ่าๆ
ราคาชุดละ 300.- อิ่มพุงกางเลยล่ะ
แถมการอุดหนุนร้านมันปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง ท่ามกลางอากาศเย็นบนนั้นยังช่วยกระตุ้นฟีลลิ่งได้เยอะเลย



เที่ยวมาทั้งวัน จะไม่อาบน้ำก็รังเกียจตัวเองสุดๆ ห้องอาบน้ำก็ตามสภาพป่าเขาค่ะ
เรามาธรรมชาตินี่เนอะห้ามบ่น ลุย!! น้ำเย็นยะเยือกมากกก
ความสะอาดเราจะไม่พูดถึง ก็หลับตาปี๋อาบน้ำสระผมเอ็นจอยกับมันเต็มที่
ซาดิสม์อยากให้หนาวอีก หนาวอีก และหนาวอีก ฮ่าๆ


(นี่คือภาพในห้องน้ำ เรา 2 คน ไม่มีรองเท้าแตะไป ก็เลยต้องแขวนเอาแบบนี้)

เราโชคดีที่ไปวันที่อากาศเป็นใจท้องฟ้าเป็นมิตร เราเช่าเสื่อผ้าใบมานอนเหยียดตัวยาว
ดูดาวหน้าเต๊นท์ มันดีที่สุดเลย ดาวส่งตาปิ๊งๆให้เราเต็มฟ้า
คนที่ใช้กล้องใหญ่เก็บภาพวันนั้นเค้าได้ภาพทางช้างเผือกกันด้วยแหละ


(เปิดเต๊นท์ออกมา เจอภาพนี้อยู่ตรงหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฟินขนาดไหน)

ฮัลโหลล!! เช้าแล้วไง เด้งตัวมาสัมผัสทะเลหมอกด่วนสิ
ช่วงเช้าตรู่อากาศชื้น หมอกก็เลยหนาๆฟุ้งๆ
ถ้าให้สวยจากที่เราสังเกตต้องรออีกซักแป้บให้ความชื้นหายก่อน
แล้วทะเลหมอกจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนเมฆฟูๆปุยๆ เลอค่ามาก





จุดชมวิวนี้ดี๊ดี...เราไม่ได้ไปแย่งดูวิวแบบเบียดๆฝูงชนตรงจุดชมวิว
ออกเดินสำรวจไปเรื่อยๆที่อื่นก็สวยไม่แพ้กัน แถมไม่แออัดด้วยได้บรรยากาศมากๆๆๆ






(ก่อนออกจากภูทับเบิก ตั้งกล้องถ่ายรูปเล่นกันซะหน่อย)


(ทางไปลานจอดรถ หมอกลงหนามากวันนี้)

เสร็จสิ้นภารกิจพิชิตทะเลหมอกเช้านี้ เราขับรถเบนขวาไปภูหินร่องกล้า
จ่ายค่าเข้าไป 40 บาทถือว่าคุ้มมากกก
ระหว่างทางวิวสวยจนต้องจอดถ่ายรูปกลางถนนไปเรื่อยๆ
แต่ก็มีรถสวนไปสวนมาที่เราคอยระวังอยู่นะ



ที่อุทยานภูหินร่องกล้ามีจุดชมวิวอยู่หลายจุดแต่ที่พีคๆก็คงจะเป็นลานหินปุ่ม และผาชูธง
จะขึ้นไปให้ถึงผาชูธงก็ใช้เวลานิดนึงค่ะ อารมณ์เดินป่าทัศนศึกษาขนาดย่อม
เหนื่อยไม่มากแต่วิวสวยถือว่าคุ้ม


(ระหว่างทางเดินไปลานหินปุ่ม)


(ธรรมชาติระหว่างทาง)






ถึงแล้ว ผาชูธง


บรรยากาศที่ผาชูธง


ได้เวลาบอกลาความสนุก ต้องไปธุระในตัวเมืองแล้ว...

ทริปนี้เราหมดค่าใช้จ่ายกันไปคนละประมาณ 1,000 บาทค่ะ (รถกับค่าน้ำมันมีผู้ใหญ่ใจดีออกให้เรา ^^)

ทริปหน้าจะมาแชร์ประสบการณ์ทริปไปเรื่อยๆที่ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
สถานที่ดีๆที่คนยังไม่แห่กันไปจนหนาแน่น นั่งรถไฟฟรี นอนเต๊นท์ โบกรถ หมดไปคนละไม่ถึง 1,000 บาท

ใครที่อยากคุยเรื่องทริปกับพวกเราลองตามไปดูที่เพจ THE NEVER LONELY JOURNEY ได้ (กำลังจะเริ่มทำค่า)
https://www.facebook.com/theneverlonelyjourney/

เราอยากแชร์เรื่องท่องเที่ยวกับทุกคนเลย ขอบคุณที่อ่านจนจบ
เจอกันทริปหน้า บ๊ายบายค่า