เรื่องนี้เราเคยโพสไปแล้ว แต่อยากจะสรุปสั้นๆ หน่อยฮะ
เราเป็นคนตรงๆ เปิดเผย ทุกวันนี้ถ้าเราชอบใคร หรือ ปลื้มใครเราก็จะบอกเขานะ เราจะเห้ ให้เห็นแต่แรกเลย ว่าเราชอบเที่ยว กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดเพื่อน(อันนี้เพราะเราก็โสดมาเกือบจะ 6 ปีได้แล้ว) ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็พูด ก็บอกตลอด รวมถึงเรื่องความรัก เราไม่ชอบคนโกหก ยิ่งโกหก ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เรานี่จะเกลียดเลยก็ว่าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ถ้าคนมีแฟนแล้วเรานี่ไม่ยุ่งเลย ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะ จะเลิกกัน ห่างๆกัน ระหอง ระแหง เพราะเราคิดว่าจะเป็นช่วงที่คนอ่อนแอ และ สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับมือที่สาม
เริ่มเรื่องเลย เราจีบน้องในออฟฟิศ เราเปิดเผยมากๆ เรื่องว่าเรากับแฟนเก่า กับคนที่เคยจีบๆ หรือ คุยๆ เราก็เล่าหมด เที่ยวเลาจน์ แบบหมดเปลือก แล้วเราถามน้องนะ ว่ามีแฟนหรือยัง เพราะเราก็ชอบๆ น้องอยู่ เพราะดูเป็นคนตรงๆ ห้าวๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง ติ๊งต๊อง ซึ่งเราก็เห็นการเคลื่อนไหวน้องมาเกือบๆ หนึ่งปีแล้ว คำโกหกที่เราได้มา ตามนี้เลย
ครั้งที่ 1 โสดค่ะ เลิกกับแฟนได้สามเดือนแล้ว ***ระหว่างที่คุย เราก็สังเกตุว่านางแปลกๆ ชอบแอบๆกดโทรศัพท์ เวลาโทรศัพท์เข้าก็จะวิ่งหายไปคุยที่อื่น จนเราเริ่มคบกันได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีคนเฟซข้อความมาหาเรา ซึ่งเป็นพี่สาวของแฟนน้อง ถามว่าเราเป็นใคร อะไรยังไง บอกเราว่าน้องอ่ะโกหกคุณ เขายังไม่ได้เลิกกับแฟน น้องมาหายไป ไม่คุยกะแฟน ซึ่งแฟนน้องเขาบวชอยู่ เริ่มขาดการติดต่อ กับช่วงเวลาที่เราเข้ามาพอดี เราก็เริ่มจับใจความได้แล้ว
เราก็ของขึ้นเลย ไม่คิดเลยว่าจะเจอเรื่องบัดซบแบบนี้กับตัวเอง แต่เราก็ให้อภัย แล้วการโกหกครั้งที่สองก็เริ่มขึ้นอีก
ครั้งที่ 2 น้องบอกว่า แฟนน้องเขาไม่ยอมเลิก ส่วนที่พี่สาวแฟน บอกเรามาแบบนี้เพราะ แฟนน้องเขาไม่ได้บอกใครว่า ห่างกันหรือเลิกกันแล้ว ที่ไปงานบวชก็เพราะ เขาขอให้ไป ไปเฉยๆ เกรงใจพ่อแม่แฟน *** เราก็เชื่อใจ เพราะเราให้ใจ คิดว่าน้องจะพูดความจริงกับเราแล้ว แต่เราก็ยังไม่สนิทใจ เราเริ่มย้อนกลับไปไล่ลำดับเหตุการณ์ในเฟซน้อง ซึ่งเราพบว่า น้องยังไปงานบวชแฟน แล้วก็อยู่ด้วยกันกับแฟนก่อนจะบวช ระยะหนึ่ง แต่เราก็เก็บเรื่องที่เราสงสัยมาตลอด จนมาวันหนึ่ง เราเริ่มไม่ไหวแล้วขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน แล้วเราก็ถามอีกครั้ง และได้การโกหกอีกครั้ง
ครั้งที่ 3 คำตอบบิดเบือนไปจากเดิม น้องบอกว่า ห่างๆกับแฟนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็มีคุยกันบ้าง *** ตอนนี้เราหาหลักฐานมาหมด และถามจนหมดนางก็ยังไม่พูด ว่ามันคืออะไร เราตั้งข้อสังเกตุว่า คนจะเลิกกัน คนห่างกัน ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกัน ทำไมถึงไปงานบวช ซึ่งเราเห็นรูปว่าน้องดูมีความสุขมาก และเราก็เห็นว่าก่อนบวช น้องใช้บัตรเครดิตผ่อนของให้แฟน ซึ่งเรื่องนี้ น้องก็โกหกเราว่าซื้อนานมากแล้ว แต่เราไปเห็นบิลเรียกเก็บเงิน เพิ่งเรียกเดือนที่แล้วเอง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด มันไม่สอดคล้องกันสักนิด และเราก็รู้มาจากคนรอบข้าง ว่าจริงๆ แล้วน้องน่ะ ยังดีๆ กับแฟนของน้องอยู่ แต่พอเราเข้ามานี่แหละ เริ่มขาดการติดต่อกับแฟน แล้วทุกอย่างก็เริ่มเข้าร่องเข้ารอย เราก็เลยเปิดฉากอีกรอบ
ครั้งที่ 4 น้องยอมสารภาพ ว่ายังคบกันอยู่ แล้วที่มาเลิกกันก็วันที่ พี่สาวเขาติดต่อเรามา เป็นอย่างที่เราคิดมาตลอด
บางคนก็บอกเราว่า ช่างมันเถอะ ยังไงเขาก็เคลียร์กะแฟนมาคบกะเราแล้ว แต่เรากลับไม่ได้คิดแบบนั้น เราไม่ชอบการเป็นมือที่สาม ไม่ชอบไปยุ่งกับคนที่มีแฟนอยู่แล้ว ถึงได้มา สักวันมันก็ทำแบบนี้อีกก็เป็นได้
กับคนบางคน ความจริงใจ ความเชื่อใจ มันใช้ใจแลกมาไม่ได้จริงๆ
ใจแลกใจ แต่ได้การโกหกกลับมา!!!
เราเป็นคนตรงๆ เปิดเผย ทุกวันนี้ถ้าเราชอบใคร หรือ ปลื้มใครเราก็จะบอกเขานะ เราจะเห้ ให้เห็นแต่แรกเลย ว่าเราชอบเที่ยว กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดเพื่อน(อันนี้เพราะเราก็โสดมาเกือบจะ 6 ปีได้แล้ว) ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็พูด ก็บอกตลอด รวมถึงเรื่องความรัก เราไม่ชอบคนโกหก ยิ่งโกหก ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เรานี่จะเกลียดเลยก็ว่าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ถ้าคนมีแฟนแล้วเรานี่ไม่ยุ่งเลย ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะ จะเลิกกัน ห่างๆกัน ระหอง ระแหง เพราะเราคิดว่าจะเป็นช่วงที่คนอ่อนแอ และ สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับมือที่สาม
เริ่มเรื่องเลย เราจีบน้องในออฟฟิศ เราเปิดเผยมากๆ เรื่องว่าเรากับแฟนเก่า กับคนที่เคยจีบๆ หรือ คุยๆ เราก็เล่าหมด เที่ยวเลาจน์ แบบหมดเปลือก แล้วเราถามน้องนะ ว่ามีแฟนหรือยัง เพราะเราก็ชอบๆ น้องอยู่ เพราะดูเป็นคนตรงๆ ห้าวๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง ติ๊งต๊อง ซึ่งเราก็เห็นการเคลื่อนไหวน้องมาเกือบๆ หนึ่งปีแล้ว คำโกหกที่เราได้มา ตามนี้เลย
ครั้งที่ 1 โสดค่ะ เลิกกับแฟนได้สามเดือนแล้ว ***ระหว่างที่คุย เราก็สังเกตุว่านางแปลกๆ ชอบแอบๆกดโทรศัพท์ เวลาโทรศัพท์เข้าก็จะวิ่งหายไปคุยที่อื่น จนเราเริ่มคบกันได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีคนเฟซข้อความมาหาเรา ซึ่งเป็นพี่สาวของแฟนน้อง ถามว่าเราเป็นใคร อะไรยังไง บอกเราว่าน้องอ่ะโกหกคุณ เขายังไม่ได้เลิกกับแฟน น้องมาหายไป ไม่คุยกะแฟน ซึ่งแฟนน้องเขาบวชอยู่ เริ่มขาดการติดต่อ กับช่วงเวลาที่เราเข้ามาพอดี เราก็เริ่มจับใจความได้แล้ว
เราก็ของขึ้นเลย ไม่คิดเลยว่าจะเจอเรื่องบัดซบแบบนี้กับตัวเอง แต่เราก็ให้อภัย แล้วการโกหกครั้งที่สองก็เริ่มขึ้นอีก
ครั้งที่ 2 น้องบอกว่า แฟนน้องเขาไม่ยอมเลิก ส่วนที่พี่สาวแฟน บอกเรามาแบบนี้เพราะ แฟนน้องเขาไม่ได้บอกใครว่า ห่างกันหรือเลิกกันแล้ว ที่ไปงานบวชก็เพราะ เขาขอให้ไป ไปเฉยๆ เกรงใจพ่อแม่แฟน *** เราก็เชื่อใจ เพราะเราให้ใจ คิดว่าน้องจะพูดความจริงกับเราแล้ว แต่เราก็ยังไม่สนิทใจ เราเริ่มย้อนกลับไปไล่ลำดับเหตุการณ์ในเฟซน้อง ซึ่งเราพบว่า น้องยังไปงานบวชแฟน แล้วก็อยู่ด้วยกันกับแฟนก่อนจะบวช ระยะหนึ่ง แต่เราก็เก็บเรื่องที่เราสงสัยมาตลอด จนมาวันหนึ่ง เราเริ่มไม่ไหวแล้วขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน แล้วเราก็ถามอีกครั้ง และได้การโกหกอีกครั้ง
ครั้งที่ 3 คำตอบบิดเบือนไปจากเดิม น้องบอกว่า ห่างๆกับแฟนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็มีคุยกันบ้าง *** ตอนนี้เราหาหลักฐานมาหมด และถามจนหมดนางก็ยังไม่พูด ว่ามันคืออะไร เราตั้งข้อสังเกตุว่า คนจะเลิกกัน คนห่างกัน ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกัน ทำไมถึงไปงานบวช ซึ่งเราเห็นรูปว่าน้องดูมีความสุขมาก และเราก็เห็นว่าก่อนบวช น้องใช้บัตรเครดิตผ่อนของให้แฟน ซึ่งเรื่องนี้ น้องก็โกหกเราว่าซื้อนานมากแล้ว แต่เราไปเห็นบิลเรียกเก็บเงิน เพิ่งเรียกเดือนที่แล้วเอง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด มันไม่สอดคล้องกันสักนิด และเราก็รู้มาจากคนรอบข้าง ว่าจริงๆ แล้วน้องน่ะ ยังดีๆ กับแฟนของน้องอยู่ แต่พอเราเข้ามานี่แหละ เริ่มขาดการติดต่อกับแฟน แล้วทุกอย่างก็เริ่มเข้าร่องเข้ารอย เราก็เลยเปิดฉากอีกรอบ
ครั้งที่ 4 น้องยอมสารภาพ ว่ายังคบกันอยู่ แล้วที่มาเลิกกันก็วันที่ พี่สาวเขาติดต่อเรามา เป็นอย่างที่เราคิดมาตลอด
บางคนก็บอกเราว่า ช่างมันเถอะ ยังไงเขาก็เคลียร์กะแฟนมาคบกะเราแล้ว แต่เรากลับไม่ได้คิดแบบนั้น เราไม่ชอบการเป็นมือที่สาม ไม่ชอบไปยุ่งกับคนที่มีแฟนอยู่แล้ว ถึงได้มา สักวันมันก็ทำแบบนี้อีกก็เป็นได้
กับคนบางคน ความจริงใจ ความเชื่อใจ มันใช้ใจแลกมาไม่ได้จริงๆ