ตอนแรกๆก็มั่นใจว่าไม่มีอะไร แต่หลังๆก็เริ่มลังเลหลังจากที่อ่านข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แนวร่วมปัตตานียันต้องการรัฐเอกราช | เดลินิวส์
แนวร่วมปัตตานียันต้องการรัฐเอกราช คณะผู้แทนเจรจาของแนวร่วมสภาที่ปรึกษาปัตตานียัน เป้าหมายสุดท้ายของการต่อสู้คือ การแยก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเป็นรัฐเอกราช พร้อมขู่ความรุนแรงจะมีมากขึ้นอีก จนกว่าสิทธิในการตัดสินใจตนเองของชาวมุสลิมในพื้นที่จะได้รับการรับประกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันพฤหัสที่ 27 สิงหาคม 2558 เวลา 22:41 น. สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า ตัวแทนแนวร่วม 6 กลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ในนาม สภาที่ปรึกษาปัตตานี ที่เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพอย่างไม่เป็นทางการ กับผู้แทนของรัฐบาลไทย เป็นเวลา 3 วัน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ สิ้นสุดลงเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวย้ำความต้องการรัฐเอกราช และพร้อมจะเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา นายอาบู ฮาเฟซ อัล-ฮาคิม ตัวแทนของสภาฯ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจา ว่า พวกตนต้องการย้ำว่า พวกตนไม่ละทิ้งข้อเรียกร้อง ความต้องการเป็นรัฐเอกราช ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการต่อสู้เพื่อปัตตานี แต่พวกตนพร้อมที่จะนั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางออก ที่จะทำให้ชาวมุสลิมมีสิทธิในการตัดสินใจอนาคตของตนเอง การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่มีคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลไทยเข้าร่วมการแถลงด้วย รัฐบาลไทยของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกลงในปี 2556 ที่จะเปิดการเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการ กับกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มหนึ่ง แต่การเจรจาไม่เคยเกิดขึ้น หลังจากไทยเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพ นายอัล-ฮาคิม กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุดชาวปัตตานีจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า ทางแก้ไขปัญหาคือรัฐเอกราช หรือเขตปกครองตนเองภายใต้รัฐบาลไทย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 ศพ จากการก่อความไม่สงบนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ส่วน นายอาหวัง จาบัต ประธานสภาที่ปรึกษาปัตตานี กล่าวว่า แนวร่วมสภาฯ ต้องการให้รัฐบาลไทยบรรจุการเจรจาสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อรับประกันความต่อเนื่อง หากรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมามีอำนาจ และว่า ระหว่างการเจรจา แนวร่วมได้ขอเอกสิทธิคุ้มครอง สำหรับคณะผู้เจรจา เพื่อรับประกันเสรีภาพในการเดินทางในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย ขณะที่รัฐบาลไทยได้หยิบยกประเด็นการก่อตั้งเขตปลอดภัย และการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งของหลายประเด็นที่นำเสนอในที่เจรจา นายจาบัต กล่าวอีกว่า แนวร่วมฯ ได้เชิญผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการ เพื่อรวมความพยายามเป็นหนึ่งเดียว สำหรับการตัดสินใจด้วยตนเอง พวกตนต้องการรับประกันว่า กฎหมายและกฎเกณฑ์ของอิสลามจะถูกบังคับใช้ และอัตลักษณ์ของชาวมุสลิมจะได้รับการปกป้อง ในแง่ของภาษาและอักษรยาวี นายจาบัตยังได้กล่าวเตือนว่า จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอีก จนกว่าสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองของชาวมุสลิมจะได้รับการรับประกัน ยังไม่มีการตัดสินใจ สำหรับกำหนดวันนัดเจรจารอบต่อไป.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/344472 พออ่านจบก็ปวดตับเลยครับ เริ่มเครียดว่าจะไปเรียนที่นั่นดีไหม ยังไงความปลอดภัยของตัวผมเองและพ่อกับแม่ที่บอกว่าจะมาเยี่ยมผมบ่อยๆก็สำคัญที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นม.อ.สำหรับผมก็เป็นม.คุณภาพที่ผมอยากไปเรียน รบกวนผู้รู้ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับว่าเป็นไปได้แค่ไหนที่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นอีก
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เรียนที่ ม.อ.ปัตตานี จะปลอดภัยหรือเปล่าครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ