***กระทู้นี้ พูดถึง การดิวงาน กับ โรงพิมพ์ดิจิทัล และพิมพ์แบบ ออนดีมาน (พิมพ์น้อย)***
สวัสดีค่ะ นักเขียนและผู้สนใจไทยมุงทุกท่าน
เราเป็นนักเขียนนิยายรัก โนเนม ประสบการณ์ทำงานเขียน 3 ปี และเพิ่งทำนิยายทำมือเป็นครั้งแรก
กระทู้นี้เล่าเรื่องราวส่วนที่ดิวงานกับโรงพิมพ์ดิจิทัล พิมพ์หนังสือนิยายแบบ ออนดีมาน ค่ะ
งานพิมพ์ออนดีมาน คือ การพิมพ์จำนวนน้อย หลายเจ้าพิมพ์เล่มเดียวก็รับ หลักสิบหลักร้อยเล่มเป็นจำนวนปกติ
แต่ถ้าพิมพ์สัก 500 เล่ม จะเริ่มๆ เป็นเรื่องของโรงพิมพ์ออฟเซตแทนค่ะ ยิ่งพันเล่มนี่คือออฟเซตเลยล่ะ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงกัน
เพราะเราพิมพ์น้อย!
ปัญหาอย่างหนึ่งที่เราประสบตั้งแต่ต้น
คือเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโรงพิมพ์มากนัก ไม่รู้เนเจอร์โรงพิมพ์ ไม่รู้การดิวงาน ไม่รู้ว่าต้องระวังอะไร
พอจะมีรุ่นพี่นักเขียนที่พอจะถามได้ แต่ก็ไม่สะดวกใจถามเขาทุกเรื่อง ขี้เกรงใจนั่นเอง
ในโลกของนักเขียน โดยเฉพาะนักเขียนที่ไม่ค่อยเจ๊าะแจ๊ะกับใครอย่างเรา มันยากระดับหนึ่งที่จะคุยเรื่องลึกซึ้ง
ใครล่ะจะกล้าพูดความจริงหมดเปลือกในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าวงการนี้มันแคบนิดเดียว
ขนาดเจอแจ็กพ็อตจนต้องโพสด่ากระเจิงบางทียังไม่บอกชื่อโรงพิมพ์เลย
เพื่อเลี่ยงความซวยจากคำพูด คนส่วนใหญ่จึงเลือกบอกเฉพาะส่วนที่ไม่อันตราย
โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ “ตั้งราคาเท่าไหร่ดี” “บวกกำไรไปเท่าไหร่”
แม้แต่ “พิมพ์กับที่ไหน” “เจออะไรมาบ้าง” “แล้วทำยังไงต่อ” ก็เป็นเรื่องที่ใช่ว่าจะบอกคนแปลกหน้าได้โต้งๆ
เพราะงั้นเราจึงไม่ค่อยเจอกระทู้แนะนำสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
แต่ถ้าบ่นก็เห็นเยอะล่ะ สำหรับเรานั่นไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่
เราต้องการคำเตือน ป้องกันการช็อกโดยไม่ทันตั้งตัว และวิธีรับมือ!
ไม่อยากจะช็อกแล้วสมองขาวโพลนค่ะ!!
ในเมื่อเซวฟ์จะลุยเอง ก็ลุยมันซะเลย
เราตัดสินใจเผชิญโลกกว้าง ทำมันซะทั้งที่ไม่ค่อยรู้อะไรนี่แหละ
เราค้นข้อมูลจากปู่เกิ้ล ก็ตามคาด...มีแต่เรื่องพื้นๆ
กระทู้นี้เองก็เกิดจากความต้องการของเราอะนะ
ก่อนเราจะพิมพ์ เราอยากรู้อะไรเพิ่มเติมอย่างที่เรากำลังจะบอกคุณนี่แหละ
เราอาจเจออะไร จะแก้ยังไง ต้องคุยยังไง
ดังนั้นเราจะข้ามๆ เรื่องทั่วไปที่คุณหาได้ในอินเทอร์เน็ต เช่นเรื่องการทำปก การทำไฟล์สำหรับพิมพ์ อันนี้คือไม่พูดถึงเลย
เราจะพูดแต่ของที่เราไม่เจอในเน็ต หรือไม่ก็เพิ่งมาเจอกับตัวนะ
อย่างที่บอก ขอคำเตือน ไม่อยากตกใจกะทันหัน
อยู่สาย ป้องกันหายนะบังเกิด นั่นเอง
จะทำทุกอย่างเพื่อให้งานสมูทมากที่สุด!
อนึ่ง กระทู้นี้เน้นปัญหา
ความคิดเห็นส่วนตัวของเราจึงมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของโรงพิมพ์ ซึ่งที่จริงเขาน่าเชื่อถือนะ
เพราะพูดแต่ส่วนที่มีปัญหา เลยอาจจะทำให้โรงพิมพ์ดูไม่ดี เราจะบอกข้อดีไปด้วย แต่ไม่เน้นเท่า
ดังนั้นเพื่อเลี่ยงการพาดพิง เราจึงไม่บอกนะว่าเราดิวงานกับที่ไหน ถือซะว่าเหมารวมไปทุกโรงพิมพ์นั่นแหละ
เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกันมากหรอก ปัญหาเกิดได้เสมอ เล็กใหญ่ก็ว่ากันไป ไม่มีทางราบเรียบตลอดเส้นทางแน่นอน
เราจะมาดูกันว่าต้องทำยังไง ระวังอะไร ทุกอย่างถึงจะโอเคที่สุด
เราอยากจะเล่าจากสายตาที่เป็นมิตรทั้งกับเพื่อนนักเขียนและโรงพิมพ์
และปัญหาบางส่วนไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา แต่ได้ยินมา หรือไม่ก็เห็นว่าอาจเกิดขึ้นได้
เพื่อจะนำไปสู่การแนะนำว่า เจอแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี อย่างครบถ้วน
จะว่าไป เราค่อนข้างบ้าบิ่นที่ดิวงานกับโรงพิมพ์ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง (โรงพิมพ์ไม่ใช่ปลาฉลามกินคนนะเออ)
ส่วนหนึ่งที่กล้าคงเพราะเคยทำงานในตำแหน่งที่ต้องติดต่อคนต่างแผนกมาก่อน
เจอมาแล้วทั้งฝ่ายผลิต การตลาด ออกแบบ จัดซื้อ เซลล์ และแน่นอน...ซัพพลายเออร์
ซึ่งโรงพิมพ์อยู่ในหมวดซัพพลายเออร์
คือเราต้องอาศัยเขาช่วยผลิต นักเขียนและโรงพิมพ์จึงมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไม่มีใครสูงกว่าใคร ต่อให้เราจ่ายเงินให้เขาก็ตามที
ไม่เหมือนตอนดิวงานกับเซลล์ที่เขาจะนอบน้อมเราสุดฤทธิ์เพื่อให้เราซื้อของ เพราะเราไม่ซื้อของเขา เราก็ไม่ตาย เขาจึงง้อ
แต่โรงพิมพ์จะไม่อ่อนข้อให้เราขนาดนั้น เพราะเราอยากได้เล่มจากเขาน่ะสิ!
ดังนั้นตอนที่คุยกับโรงพิมพ์ คุณต้องคิดเสมอว่าอย่าไปข่มเขาและอย่าให้เขาข่ม
ช่วยๆ กันไปว่างั้นเถอะ
อารัมภบทยาว มาเริ่มกันเลย
[CR] [deep review]การดิวงานกับโรงพิมพ์ดิจิทัล รวมทุกหายนะที่อาจเกิดขึ้นกับนิยายทำมือครั้งแรก พร้อมวิธีจัดการ!!
สวัสดีค่ะ นักเขียนและผู้สนใจไทยมุงทุกท่าน
เราเป็นนักเขียนนิยายรัก โนเนม ประสบการณ์ทำงานเขียน 3 ปี และเพิ่งทำนิยายทำมือเป็นครั้งแรก
กระทู้นี้เล่าเรื่องราวส่วนที่ดิวงานกับโรงพิมพ์ดิจิทัล พิมพ์หนังสือนิยายแบบ ออนดีมาน ค่ะ
งานพิมพ์ออนดีมาน คือ การพิมพ์จำนวนน้อย หลายเจ้าพิมพ์เล่มเดียวก็รับ หลักสิบหลักร้อยเล่มเป็นจำนวนปกติ
แต่ถ้าพิมพ์สัก 500 เล่ม จะเริ่มๆ เป็นเรื่องของโรงพิมพ์ออฟเซตแทนค่ะ ยิ่งพันเล่มนี่คือออฟเซตเลยล่ะ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงกัน
เพราะเราพิมพ์น้อย!
ปัญหาอย่างหนึ่งที่เราประสบตั้งแต่ต้น
คือเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโรงพิมพ์มากนัก ไม่รู้เนเจอร์โรงพิมพ์ ไม่รู้การดิวงาน ไม่รู้ว่าต้องระวังอะไร
พอจะมีรุ่นพี่นักเขียนที่พอจะถามได้ แต่ก็ไม่สะดวกใจถามเขาทุกเรื่อง ขี้เกรงใจนั่นเอง
ในโลกของนักเขียน โดยเฉพาะนักเขียนที่ไม่ค่อยเจ๊าะแจ๊ะกับใครอย่างเรา มันยากระดับหนึ่งที่จะคุยเรื่องลึกซึ้ง
ใครล่ะจะกล้าพูดความจริงหมดเปลือกในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าวงการนี้มันแคบนิดเดียว
ขนาดเจอแจ็กพ็อตจนต้องโพสด่ากระเจิงบางทียังไม่บอกชื่อโรงพิมพ์เลย
เพื่อเลี่ยงความซวยจากคำพูด คนส่วนใหญ่จึงเลือกบอกเฉพาะส่วนที่ไม่อันตราย
โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ “ตั้งราคาเท่าไหร่ดี” “บวกกำไรไปเท่าไหร่”
แม้แต่ “พิมพ์กับที่ไหน” “เจออะไรมาบ้าง” “แล้วทำยังไงต่อ” ก็เป็นเรื่องที่ใช่ว่าจะบอกคนแปลกหน้าได้โต้งๆ
เพราะงั้นเราจึงไม่ค่อยเจอกระทู้แนะนำสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
แต่ถ้าบ่นก็เห็นเยอะล่ะ สำหรับเรานั่นไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่
เราต้องการคำเตือน ป้องกันการช็อกโดยไม่ทันตั้งตัว และวิธีรับมือ!
ไม่อยากจะช็อกแล้วสมองขาวโพลนค่ะ!!
ในเมื่อเซวฟ์จะลุยเอง ก็ลุยมันซะเลย
เราตัดสินใจเผชิญโลกกว้าง ทำมันซะทั้งที่ไม่ค่อยรู้อะไรนี่แหละ
เราค้นข้อมูลจากปู่เกิ้ล ก็ตามคาด...มีแต่เรื่องพื้นๆ
กระทู้นี้เองก็เกิดจากความต้องการของเราอะนะ
ก่อนเราจะพิมพ์ เราอยากรู้อะไรเพิ่มเติมอย่างที่เรากำลังจะบอกคุณนี่แหละ
เราอาจเจออะไร จะแก้ยังไง ต้องคุยยังไง
ดังนั้นเราจะข้ามๆ เรื่องทั่วไปที่คุณหาได้ในอินเทอร์เน็ต เช่นเรื่องการทำปก การทำไฟล์สำหรับพิมพ์ อันนี้คือไม่พูดถึงเลย
เราจะพูดแต่ของที่เราไม่เจอในเน็ต หรือไม่ก็เพิ่งมาเจอกับตัวนะ
อย่างที่บอก ขอคำเตือน ไม่อยากตกใจกะทันหัน
อยู่สาย ป้องกันหายนะบังเกิด นั่นเอง
จะทำทุกอย่างเพื่อให้งานสมูทมากที่สุด!
อนึ่ง กระทู้นี้เน้นปัญหา
ความคิดเห็นส่วนตัวของเราจึงมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของโรงพิมพ์ ซึ่งที่จริงเขาน่าเชื่อถือนะ
เพราะพูดแต่ส่วนที่มีปัญหา เลยอาจจะทำให้โรงพิมพ์ดูไม่ดี เราจะบอกข้อดีไปด้วย แต่ไม่เน้นเท่า
ดังนั้นเพื่อเลี่ยงการพาดพิง เราจึงไม่บอกนะว่าเราดิวงานกับที่ไหน ถือซะว่าเหมารวมไปทุกโรงพิมพ์นั่นแหละ
เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกันมากหรอก ปัญหาเกิดได้เสมอ เล็กใหญ่ก็ว่ากันไป ไม่มีทางราบเรียบตลอดเส้นทางแน่นอน
เราจะมาดูกันว่าต้องทำยังไง ระวังอะไร ทุกอย่างถึงจะโอเคที่สุด
เราอยากจะเล่าจากสายตาที่เป็นมิตรทั้งกับเพื่อนนักเขียนและโรงพิมพ์
และปัญหาบางส่วนไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา แต่ได้ยินมา หรือไม่ก็เห็นว่าอาจเกิดขึ้นได้
เพื่อจะนำไปสู่การแนะนำว่า เจอแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี อย่างครบถ้วน
จะว่าไป เราค่อนข้างบ้าบิ่นที่ดิวงานกับโรงพิมพ์ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง (โรงพิมพ์ไม่ใช่ปลาฉลามกินคนนะเออ)
ส่วนหนึ่งที่กล้าคงเพราะเคยทำงานในตำแหน่งที่ต้องติดต่อคนต่างแผนกมาก่อน
เจอมาแล้วทั้งฝ่ายผลิต การตลาด ออกแบบ จัดซื้อ เซลล์ และแน่นอน...ซัพพลายเออร์
ซึ่งโรงพิมพ์อยู่ในหมวดซัพพลายเออร์
คือเราต้องอาศัยเขาช่วยผลิต นักเขียนและโรงพิมพ์จึงมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไม่มีใครสูงกว่าใคร ต่อให้เราจ่ายเงินให้เขาก็ตามที
ไม่เหมือนตอนดิวงานกับเซลล์ที่เขาจะนอบน้อมเราสุดฤทธิ์เพื่อให้เราซื้อของ เพราะเราไม่ซื้อของเขา เราก็ไม่ตาย เขาจึงง้อ
แต่โรงพิมพ์จะไม่อ่อนข้อให้เราขนาดนั้น เพราะเราอยากได้เล่มจากเขาน่ะสิ!
ดังนั้นตอนที่คุยกับโรงพิมพ์ คุณต้องคิดเสมอว่าอย่าไปข่มเขาและอย่าให้เขาข่ม
ช่วยๆ กันไปว่างั้นเถอะ
อารัมภบทยาว มาเริ่มกันเลย