สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
เชื่อเรื่อง
“โชควาสนา” กันหรือไม่ครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่นัก
เพราะเชื่อมั่นในหลักแห่งการประกอบกรรมดีตามหลักของพระพุทธเจ้ามากกว่า
แต่เรื่องของการมีโชคโดยบังเอิญมันกลับเดินทางมาหาผมอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา
( ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ )
หลายท่านคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า
“แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้”
มันเป็นเรื่องจริงนะครับ HA HA HA!!!
จำ
กาเบรียล่า ซาบาตินี ได้ไหมครับ เธอเป็นนักเทนนิสหญิงชาวอาร์เจนไตน์ที่สวยเซ็กซี่และเก่งกล้ามากๆในยุค 1980-1990
แต่กลับมีวาสนาได้แชมป์หญิงเดี่ยวระดับแกรนด์แสลมเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คือยูเอสโอเพ่น ในปี 1990
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเธอดันเกิดมาในยุคทองของ
สเตฟฟี กราฟ นักหวดหญิงจากเยอรมันนั่นเอง
อลัน เชียเรอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษก็เป็นอีกคนนะครับที่วาสนาน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับระดับฝีเท้า
เขายิงประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่นทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ
แต่มีวาสนาเชยชมเหรียญรางวัลเพียงเหรียญเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง
ก็คือเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ
แบล็คเบิร์น โรเวอรส์ ส่วนแชมป์บอลถ้วยต่างๆนั้นไม่เคยได้แอ้มครับ
ใกล้เข้ามาอีกหน่อยก็
สตีเว่น เจอร์ราร์ดนั่นไง กัปตันจอมแกร่งของหงส์แดงลิเวอร์พูล ที่ทุกทีมในโลกล้วนต้องการตัว
ได้แชมป์บอลถ้วยมากมายจนเต็มตู้โชว์ที่บ้าน แต่ไม่มีวาสนาได้เชยชมเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกแม้เพียงสักครั้งในชีวิต
ต่างกับ
เวสบราวน์ อดีตกองหลังจอมเฟอะของป๋าเฟอร์กี้ ที่เมื่อลงสนามเมื่อใด แฟนๆได้มีลุ้นแน่นอน
แต่ที่ได้ลุ้นก็คือแฟนๆของตัวเองนั่นแหละครับ ต้องคอยลุ้นว่ามันจะออกอาการ
“เหวอ” และ
“หลุด” ขึ้นมาเมื่อไหร่
แต่ถึงแม้ว่าบราวน์จะเหวอแค่ไหน เขาก็ยังอุตส่าห์หยิบเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกได้มากถึง 7 ครั้ง
เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลจริงๆครับ
นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า
“บุญพา วาสนาส่ง”
ผมมีเลนส์รัสเซียอยู่ 45 ตัวครับ ไม่มีซ้ำ ประเภทมีรุ่นนี้สองตัวสามตัวนั้นไม่เอาเด็ดขาด เก็บตัวสวยๆตัวเดียวพอ
แต่ยังคงตามล่าอีก 9 ตัวตามแบล็คลิสต์ครับ ที่ต้องสอยมาให้ได้ แต่มิได้เร่งรีบ ถ้าได้ราคาสวยๆค่อยดำเนินการ
นอกจากนี้ยังมีที่อยู่ในลิสต์ แต่ไม่คิด
“ซื้อ” อยู่ 3 ตัวครับ
เนื่องจากราคามันโหดเกินไป อย่างที่ผมมักพูดอยู่เสมอว่า เลนส์รัสเซียต่อให้เทพแค่ไหน ถ้าเกินห้าพัน ผมไม่เอาเด็ดขาด
สามตัวที่ว่าก็คือ
Helios 40-2 1.5/85 ราคาหมื่นกลางๆ
Industar-24M 3.5/105 M39 ราคาเฉียดหมื่น
Jupiter-6 2.8/180 ราคาหมื่นต้นๆ
ทั้งนี้การกระชากแบงค์พันมากกว่าสิบใบออกจากตู้เอทีเอ็มเพื่อแลกกับเลนส์รัสเซียเก่าๆเพียงตัวเดียวนั้น
เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจครับ ตังค์น่ะมี รวยด้วย ขอบอก HA HA HA แต่หัวใจมันไม่เข้มแข็งพอ
สู้เอาเงินจำนวนนี้ส่งลูกไปเข้าค่ายกับโรงเรียนที่สิงคโปร์ตอนปิดเทอมจะดีกว่า
วันหนึ่ง
น้าพี ชายหนุ่มผู้หลงใหลการใช้ชีวิตหลังลูกกรงเหล็กวันละแปดชั่วโมง แกหลังไมค์มาหาครับ
พร้อมบรรยายสรรพคุณของ
Jupiter-6 ที่แกไปพบเจอโดยบังเอิญในเฟสบุ๊คขายเลนส์ของใครก็ไม่รู้
แถมไม่มีรูปถ่ายโชว์ตัวตนแม้แต่รูปเดียว แกถามว่า
“น้าบอลสนไหม?”
ผมตอบโอเคทันที พร้อมทั้งให้แกช่วยหาเบอร์โทรศัพท์ให้ด้วย
...............
...............
แต่กว่าน้าพีจะหาเบอร์ได้ ก็ล่วงไปแล้วสี่วันครับพี่น้อง
ซึ่งเลนส์
Jupiter-6 นั้นถือเป็นเลนส์ที่หายากมากๆในเว็ปไซต์ของไทยนะครับ
สามสี่ปีจะมีโผล่มาสักตัวเท่านั้น ซึ่งผมก็ลองโทรไปทาบทามเผื่อว่ามันจะยังอยู่
ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เนื่องจากเจ้าของบอกราคาถูกมาก ถูกเหมือนได้ฟรีเชียวนะครับ
คือบอกราคาแค่ 6 พันเท่านั้น ทั้งๆที่ในอีเบย์นั้นหมื่นต้นๆทุกตัว ผมคิดแค่เพียงว่าถ้ายังอยู่ก็ถือว่า
“ฟลุ๊ค” ครับ
แต่สุดท้ายความฟลุ๊คก็เดินทางมาเยี่ยมเยือนอีกคำรบหนึ่ง แถมยังกล้าๆต่อราคา ขอจบที่ห้าพันห้ารวมส่งได้เปล่า?
ปลายสายเซย์เยส สรุปว่าดีลนี้ผ่าน!!!
...............
...............
ผมจึงได้มาในราคาเพียงห้าพันห้าร้อยบาท ทำลายประเพณีปฏิบัติที่ผมไม่เคยซื้อเลนส์รัสเซียเกินห้าพันบาท
ไม่เป็นไรครับ เกินมาแค่ห้าร้อย ถือซะว่าซื้อของขวัญวันเกิดให้ตัวเอง HA HA HA!!!
Jupiter-6 เป็นเลนส์ระยะ 180mm เอฟกว้างมากที่ 2.8 ข้อมูลบอกว่ามันเป็น
Sonnar type
เลนส์มี 10 เบลด เป็นแบบพรีเซ็ทครับ ให้โบเก้เป็นวงกลมที่มี 10 แฉกเป็นเอกลักษณ์
จากการทดลองถ่ายภาพกับ
Jupiter-6 ตัวนี้พบว่ามันสุดยอดมากๆครับ
ความคมเป็นเลิศตั้งแต่เอฟแรก สุดยอดมากๆที่ F4.0 ขึ้นไป
ให้สีสันที่สดใส เข้มข้น มีความ Bright and Clear มากๆ ทั้งการถ่ายตามแสงและย้อนแสง
ระยะ Minimum focus 2 เมตรเท่านั้น ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 77mm
ในอดีตผมเคยใช้เลนส์ระยะนี้ที่เป็น F2.8 อยู่สองตัวครับ คือ
Canon FD 2.8/200 และ
Nikon AF 2.8/180ED
ซึ่งความรู้สึกแรกเมื่อได้ลองเจ้า Jupiter-6 เมื่อเทียบกับสองตัวที่ว่าก็คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันมาก
ส่วนในเรื่องของสีสันนั้น Jupiter-6 จะสดเข้มกว่า FD 2.8/200 มีความ Bright ใกล้เคียง Nik 2.8/180
วงแหวนหมุนโฟกัสจากระยะใกล้สุดจนถึงอินฟินิตี้กินระยะทางเกือบรอบวง
ถือว่าเป็นข้อดีในแง่ของความละเอียดในการหาโฟกัสนะครับ
การละลาย Background ทำได้ยอดเยี่ยม นุ่มนวล เป็นธรรมชาติ
การจับถือมีความสมดุลดีมาก วงแหวนหมุนโฟกัสถูกดีไซน์ให้เป็นร่องเล็กๆซึ่งมันพอดีกับนิ้วมือของคน
และสามารถใส่ขาตั้งกล้องที่ตัวเลนส์ได้ มีประโยชน์มากๆ
จุดด้อยมีเพียงประการเดียวครับ
คือน้ำหนักน้อยไปนิดเพียง
1,578 กรัม หรือประมาณกิโลครึ่งเท่านั้นเอง
ซึ่งผู้ที่จะใช้งานมันได้ควรจะต้องเป็นผู้ที่มีความแข็งแรง อดทน มีความมุ่งมั่น มีความพร้อมที่จะเอาชนะความยากลำบาก
มีคุณธรรม มีขันติ และจะต้องรักความยุติธรรมด้วย
ถ้าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมา
Jupiter-6 2.8/180 คือคำตอบครับ HA HA HA!!!
ขอให้มีความสุข เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!
JUPITER-6 บนความบังเอิญ!!!
สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
เชื่อเรื่อง “โชควาสนา” กันหรือไม่ครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่นัก
เพราะเชื่อมั่นในหลักแห่งการประกอบกรรมดีตามหลักของพระพุทธเจ้ามากกว่า
แต่เรื่องของการมีโชคโดยบังเอิญมันกลับเดินทางมาหาผมอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา ( ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ )
หลายท่านคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้”
มันเป็นเรื่องจริงนะครับ HA HA HA!!!
จำ กาเบรียล่า ซาบาตินี ได้ไหมครับ เธอเป็นนักเทนนิสหญิงชาวอาร์เจนไตน์ที่สวยเซ็กซี่และเก่งกล้ามากๆในยุค 1980-1990
แต่กลับมีวาสนาได้แชมป์หญิงเดี่ยวระดับแกรนด์แสลมเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คือยูเอสโอเพ่น ในปี 1990
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเธอดันเกิดมาในยุคทองของ สเตฟฟี กราฟ นักหวดหญิงจากเยอรมันนั่นเอง
อลัน เชียเรอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษก็เป็นอีกคนนะครับที่วาสนาน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับระดับฝีเท้า
เขายิงประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่นทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ
แต่มีวาสนาเชยชมเหรียญรางวัลเพียงเหรียญเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง
ก็คือเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแบล็คเบิร์น โรเวอรส์ ส่วนแชมป์บอลถ้วยต่างๆนั้นไม่เคยได้แอ้มครับ
ใกล้เข้ามาอีกหน่อยก็ สตีเว่น เจอร์ราร์ดนั่นไง กัปตันจอมแกร่งของหงส์แดงลิเวอร์พูล ที่ทุกทีมในโลกล้วนต้องการตัว
ได้แชมป์บอลถ้วยมากมายจนเต็มตู้โชว์ที่บ้าน แต่ไม่มีวาสนาได้เชยชมเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกแม้เพียงสักครั้งในชีวิต
ต่างกับ เวสบราวน์ อดีตกองหลังจอมเฟอะของป๋าเฟอร์กี้ ที่เมื่อลงสนามเมื่อใด แฟนๆได้มีลุ้นแน่นอน
แต่ที่ได้ลุ้นก็คือแฟนๆของตัวเองนั่นแหละครับ ต้องคอยลุ้นว่ามันจะออกอาการ “เหวอ” และ “หลุด” ขึ้นมาเมื่อไหร่
แต่ถึงแม้ว่าบราวน์จะเหวอแค่ไหน เขาก็ยังอุตส่าห์หยิบเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกได้มากถึง 7 ครั้ง
เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลจริงๆครับ
นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า “บุญพา วาสนาส่ง”
ผมมีเลนส์รัสเซียอยู่ 45 ตัวครับ ไม่มีซ้ำ ประเภทมีรุ่นนี้สองตัวสามตัวนั้นไม่เอาเด็ดขาด เก็บตัวสวยๆตัวเดียวพอ
แต่ยังคงตามล่าอีก 9 ตัวตามแบล็คลิสต์ครับ ที่ต้องสอยมาให้ได้ แต่มิได้เร่งรีบ ถ้าได้ราคาสวยๆค่อยดำเนินการ
นอกจากนี้ยังมีที่อยู่ในลิสต์ แต่ไม่คิด “ซื้อ” อยู่ 3 ตัวครับ
เนื่องจากราคามันโหดเกินไป อย่างที่ผมมักพูดอยู่เสมอว่า เลนส์รัสเซียต่อให้เทพแค่ไหน ถ้าเกินห้าพัน ผมไม่เอาเด็ดขาด
สามตัวที่ว่าก็คือ Helios 40-2 1.5/85 ราคาหมื่นกลางๆ
Industar-24M 3.5/105 M39 ราคาเฉียดหมื่น
Jupiter-6 2.8/180 ราคาหมื่นต้นๆ
ทั้งนี้การกระชากแบงค์พันมากกว่าสิบใบออกจากตู้เอทีเอ็มเพื่อแลกกับเลนส์รัสเซียเก่าๆเพียงตัวเดียวนั้น
เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจครับ ตังค์น่ะมี รวยด้วย ขอบอก HA HA HA แต่หัวใจมันไม่เข้มแข็งพอ
สู้เอาเงินจำนวนนี้ส่งลูกไปเข้าค่ายกับโรงเรียนที่สิงคโปร์ตอนปิดเทอมจะดีกว่า
วันหนึ่งน้าพี ชายหนุ่มผู้หลงใหลการใช้ชีวิตหลังลูกกรงเหล็กวันละแปดชั่วโมง แกหลังไมค์มาหาครับ
พร้อมบรรยายสรรพคุณของ Jupiter-6 ที่แกไปพบเจอโดยบังเอิญในเฟสบุ๊คขายเลนส์ของใครก็ไม่รู้
แถมไม่มีรูปถ่ายโชว์ตัวตนแม้แต่รูปเดียว แกถามว่า “น้าบอลสนไหม?”
ผมตอบโอเคทันที พร้อมทั้งให้แกช่วยหาเบอร์โทรศัพท์ให้ด้วย
...............
...............
แต่กว่าน้าพีจะหาเบอร์ได้ ก็ล่วงไปแล้วสี่วันครับพี่น้อง
ซึ่งเลนส์ Jupiter-6 นั้นถือเป็นเลนส์ที่หายากมากๆในเว็ปไซต์ของไทยนะครับ
สามสี่ปีจะมีโผล่มาสักตัวเท่านั้น ซึ่งผมก็ลองโทรไปทาบทามเผื่อว่ามันจะยังอยู่
ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เนื่องจากเจ้าของบอกราคาถูกมาก ถูกเหมือนได้ฟรีเชียวนะครับ
คือบอกราคาแค่ 6 พันเท่านั้น ทั้งๆที่ในอีเบย์นั้นหมื่นต้นๆทุกตัว ผมคิดแค่เพียงว่าถ้ายังอยู่ก็ถือว่า “ฟลุ๊ค” ครับ
แต่สุดท้ายความฟลุ๊คก็เดินทางมาเยี่ยมเยือนอีกคำรบหนึ่ง แถมยังกล้าๆต่อราคา ขอจบที่ห้าพันห้ารวมส่งได้เปล่า?
ปลายสายเซย์เยส สรุปว่าดีลนี้ผ่าน!!!
...............
...............
ผมจึงได้มาในราคาเพียงห้าพันห้าร้อยบาท ทำลายประเพณีปฏิบัติที่ผมไม่เคยซื้อเลนส์รัสเซียเกินห้าพันบาท
ไม่เป็นไรครับ เกินมาแค่ห้าร้อย ถือซะว่าซื้อของขวัญวันเกิดให้ตัวเอง HA HA HA!!!
Jupiter-6 เป็นเลนส์ระยะ 180mm เอฟกว้างมากที่ 2.8 ข้อมูลบอกว่ามันเป็น Sonnar type
เลนส์มี 10 เบลด เป็นแบบพรีเซ็ทครับ ให้โบเก้เป็นวงกลมที่มี 10 แฉกเป็นเอกลักษณ์
จากการทดลองถ่ายภาพกับ Jupiter-6 ตัวนี้พบว่ามันสุดยอดมากๆครับ
ความคมเป็นเลิศตั้งแต่เอฟแรก สุดยอดมากๆที่ F4.0 ขึ้นไป
ให้สีสันที่สดใส เข้มข้น มีความ Bright and Clear มากๆ ทั้งการถ่ายตามแสงและย้อนแสง
ระยะ Minimum focus 2 เมตรเท่านั้น ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 77mm
ในอดีตผมเคยใช้เลนส์ระยะนี้ที่เป็น F2.8 อยู่สองตัวครับ คือ Canon FD 2.8/200 และ Nikon AF 2.8/180ED
ซึ่งความรู้สึกแรกเมื่อได้ลองเจ้า Jupiter-6 เมื่อเทียบกับสองตัวที่ว่าก็คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันมาก
ส่วนในเรื่องของสีสันนั้น Jupiter-6 จะสดเข้มกว่า FD 2.8/200 มีความ Bright ใกล้เคียง Nik 2.8/180
วงแหวนหมุนโฟกัสจากระยะใกล้สุดจนถึงอินฟินิตี้กินระยะทางเกือบรอบวง
ถือว่าเป็นข้อดีในแง่ของความละเอียดในการหาโฟกัสนะครับ
การละลาย Background ทำได้ยอดเยี่ยม นุ่มนวล เป็นธรรมชาติ
การจับถือมีความสมดุลดีมาก วงแหวนหมุนโฟกัสถูกดีไซน์ให้เป็นร่องเล็กๆซึ่งมันพอดีกับนิ้วมือของคน
และสามารถใส่ขาตั้งกล้องที่ตัวเลนส์ได้ มีประโยชน์มากๆ
จุดด้อยมีเพียงประการเดียวครับ
คือน้ำหนักน้อยไปนิดเพียง 1,578 กรัม หรือประมาณกิโลครึ่งเท่านั้นเอง
ซึ่งผู้ที่จะใช้งานมันได้ควรจะต้องเป็นผู้ที่มีความแข็งแรง อดทน มีความมุ่งมั่น มีความพร้อมที่จะเอาชนะความยากลำบาก
มีคุณธรรม มีขันติ และจะต้องรักความยุติธรรมด้วย
ถ้าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมา
Jupiter-6 2.8/180 คือคำตอบครับ HA HA HA!!!
ขอให้มีความสุข เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!