เชื่อว่าสาวก Tolkien หลายๆคน คงพอจะทราบว่า PJ พูดเอาไว้ถึงสาเหตุที่เลือก Lee Pace มาเป็นเสด็จพ่อธรันดูอิลของเลโกลัส (และพ่อตาของดิฉันเองค่ะ....อะแฮ่มมมมม) ว่า PJ เห็นถึงฝีมือและรูปร่างอัน Fabulous ของ Lee Pace มาจากหนังเรื่อง The Fall
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://lucastheatre.com/wp-content/uploads/2014/08/the-fall-web.jpg
ดิฉันด้วยความเป็นติ่งคิงธรันดูอิลสุดกำลัง เห็นภาพคร่าวๆว่าใน The Fall ท่านพี่ Lee ใส่เสื้อโชว์ไหล่สีดำอย่างเท่ห์...เลยเกิดความสงสัยว่าเรื่องนี้ Lee Pace ปล่อยของอะไรไว้ทำให้ PJ จำได้แบบนั้น ดิฉันเลยหา The Fall มาเปิดดู....พอดูจบก็ไม่รอช้าค่ะ.....เปิดอีกรอบอย่างไว.....พอจบก็ไม่รอช้าค่ะ....เปิดดูอีกรอบอย่างไว และอย่างไว และอีกอย่างไว.....นี่ไม่ได้แผ่นเสียงตกร่องนะคะ แต่ดิฉันทำอย่างนั้นจริงๆ....(แม้เหตุผลหนึ่งของการเปิดรอบสองเพราะว่ามีบางส่วนที่ไม่เข้าใจและฟังน้องที่เล่นเป็น Alexandria ไม่ค่อยออก...ส่วนรอบสามเปิดพากย์ไทยอีกทีเอาให้เคลียร์)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://kalafudra.com/2009/09/24/the-fall-2006/
นั้นหละนะฮะท่านผู้ชม...ด้วยความที่ดิฉันหลงรักเรื่องนี้อย่างหนักจนแทบลืมภาพของ Lee Pace ภายใต้วิกผมยาวบลอนด์ของ Thranduil กลายเป็นผมสั้นดำ กับไถข้าง....โอ๊วมายกู๊ดเนสสสสสส....แม้เพื่อนๆอาจจะรู้สึกว่าดิฉันโครตจะล้าหลังเลย มาพูดถึงหนังปี 2006 ทำไม นี่เกือบจะปี 2016 อยู่แล้ว...แต่ดิฉันเชื่อว่าหนังดีมันต้องเป็นอมตะเหมือน Thranduil มันควรได้รับการพูดถึงแม้จะผ่านไปเป็นสิบๆปี....(แถหนะค่ะ...ที่จริงคืออัดอั้นถ้าไม่ได้อวยอย่างแรงให้ The Fall คืนนี้คงนอนไม่หลับ)
น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเรื่องนี้มากนัก...สองคอมเม้นท์ที่จำได้จากการเสริซในพันทิปคือ “ชื่อไทย (พลังฝัน ภวังค์รัก) ตั้งได้เพราะดี” กับ “ดูเรื่องนี้แล้วหลับ...พยายามดูสี่รอบ หลับทุกรอบ” สำหรับดิฉัน คนไทยพูดแบบนี้ไม่แปลกค่ะ เพราะจากการดูทั้งเสียงจริงทั้งพากย์ไทย...ดิฉันทราบว่าพากย์ไทยของหนังเรื่องนี้ทำได้ไม่ดีนัก...ไม่ใช่แค่เสียอรรถรสแบบเรื่องทั่วๆไป แต่บางมุก หรือใจความที่สื่อถึงตัวละครในเรื่องก็เสียไปด้วย แต่ปรากฎว่า ไม่ใช่แค่คนไทยค่ะ แม้แต่ฝรั่งบางคนที่ไม่เข้าใจความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้ ก็จะคอมเม้นท์ถึงความไม่หนักแน่นของเนื้อเรื่อง (เพราะเค้าไม่เข้าใจ) ดิฉันอ่านเจอข้อความที่ฝรั่งเม้นท์ว่า “The story is so large but never covers any true depth. The scenery is beautiful but in the end goes to waste with such a mediocre plot.” และ “....the story is far too thin for adults, and far too dark for kids.”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากเว็ป http://www.rottentomatoes.com/m/the-fall-2008/
คอมเม้นท์เหล่านี้ขัดกับความรู้สึกของดิฉันอย่างสื้นเชิง...เพราะสิ่งที่รู้สึกเป็นอย่างแรกตอนที่ดูจบคือเนื้อเรื่องมันลึกซึ้งมาก แต่ว่า “อะไรคือความหมายที่แท้จริงที่ผู้กำกับพยายามสื่อ” เชื่อว่าใครที่ได้ดูคงรู้สึกเช่นกัน....แฉกเช่นเรื่องไซอิ๋ว หรือ Life of Pi ดิฉันรู้สึกว่าตัวละครแต่ละตัวที่ Roy (Lee Pace) เล่าให้ Alexandria (Catinca Untaru) นั้นสื่อถึงอะไรบางอย่างในใจ Roy แต่ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ดิฉันคิดไม่ออกค่ะ และด้วยที่ไม่ได้ใจเย็นพอจะมานั่งวิเคราะห์เอง ก็เลยเสริซเอาค่ะ ดูว่าฝรั่งเค้าวิเคราะห์ว่าอะไรกัน จนมาเจอบทวิเคราะห์จาก Blog นี้ค่ะ
http://othermelissawyatt.tumblr.com/post/90910220526/answering-the-critics-of-tarsem-singhs-the-fall ที่อ่านแล้วตรงใจสุดๆ...บังเอิญดีค่ะ Melissa ผู้เขียน Blog นี้ก็เพิ่งได้ดูเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วเท่านั้น....โอ๊ววว ความอมตะมีจริง
จากนี้จะเป็นเนื้อหาคร่าวๆจากดิฉันและการวิเคราะห์จาก Blog ดังกล่าว....ไม่รู้จะเรียกว่าสปอยล์ได้มั๊ยเพราะหนังเก่ามากแล้ว เอาเป็นว่าถ้าใครตัดสินใจจะลองดูก่อนว่ามันดี มันลึกซึ้งจริงมั๊ย ดิฉันก็แนะนำ ให้ดู 100% แต่ถ้าดูแล้วไม่รู้เรื่อง หรืองง หรือคิดว่าไม่เห็นจะลึกซึ้งตรงไหนเลย ก็ขอให้กลับมาอ่านโพสท์นี้ดูว่าดิฉันจะเปลี่ยนความคิดคุณได้ไหม นะคะ
The Fall (2006) หนังที่ทำให้ PJ เลือก Lee Pace มาเป็น Thranduil แห่ง The Hobbit (สปอยล์ช้าไปเกือบ 10 ปี)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดิฉันด้วยความเป็นติ่งคิงธรันดูอิลสุดกำลัง เห็นภาพคร่าวๆว่าใน The Fall ท่านพี่ Lee ใส่เสื้อโชว์ไหล่สีดำอย่างเท่ห์...เลยเกิดความสงสัยว่าเรื่องนี้ Lee Pace ปล่อยของอะไรไว้ทำให้ PJ จำได้แบบนั้น ดิฉันเลยหา The Fall มาเปิดดู....พอดูจบก็ไม่รอช้าค่ะ.....เปิดอีกรอบอย่างไว.....พอจบก็ไม่รอช้าค่ะ....เปิดดูอีกรอบอย่างไว และอย่างไว และอีกอย่างไว.....นี่ไม่ได้แผ่นเสียงตกร่องนะคะ แต่ดิฉันทำอย่างนั้นจริงๆ....(แม้เหตุผลหนึ่งของการเปิดรอบสองเพราะว่ามีบางส่วนที่ไม่เข้าใจและฟังน้องที่เล่นเป็น Alexandria ไม่ค่อยออก...ส่วนรอบสามเปิดพากย์ไทยอีกทีเอาให้เคลียร์)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั้นหละนะฮะท่านผู้ชม...ด้วยความที่ดิฉันหลงรักเรื่องนี้อย่างหนักจนแทบลืมภาพของ Lee Pace ภายใต้วิกผมยาวบลอนด์ของ Thranduil กลายเป็นผมสั้นดำ กับไถข้าง....โอ๊วมายกู๊ดเนสสสสสส....แม้เพื่อนๆอาจจะรู้สึกว่าดิฉันโครตจะล้าหลังเลย มาพูดถึงหนังปี 2006 ทำไม นี่เกือบจะปี 2016 อยู่แล้ว...แต่ดิฉันเชื่อว่าหนังดีมันต้องเป็นอมตะเหมือน Thranduil มันควรได้รับการพูดถึงแม้จะผ่านไปเป็นสิบๆปี....(แถหนะค่ะ...ที่จริงคืออัดอั้นถ้าไม่ได้อวยอย่างแรงให้ The Fall คืนนี้คงนอนไม่หลับ)
น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเรื่องนี้มากนัก...สองคอมเม้นท์ที่จำได้จากการเสริซในพันทิปคือ “ชื่อไทย (พลังฝัน ภวังค์รัก) ตั้งได้เพราะดี” กับ “ดูเรื่องนี้แล้วหลับ...พยายามดูสี่รอบ หลับทุกรอบ” สำหรับดิฉัน คนไทยพูดแบบนี้ไม่แปลกค่ะ เพราะจากการดูทั้งเสียงจริงทั้งพากย์ไทย...ดิฉันทราบว่าพากย์ไทยของหนังเรื่องนี้ทำได้ไม่ดีนัก...ไม่ใช่แค่เสียอรรถรสแบบเรื่องทั่วๆไป แต่บางมุก หรือใจความที่สื่อถึงตัวละครในเรื่องก็เสียไปด้วย แต่ปรากฎว่า ไม่ใช่แค่คนไทยค่ะ แม้แต่ฝรั่งบางคนที่ไม่เข้าใจความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้ ก็จะคอมเม้นท์ถึงความไม่หนักแน่นของเนื้อเรื่อง (เพราะเค้าไม่เข้าใจ) ดิฉันอ่านเจอข้อความที่ฝรั่งเม้นท์ว่า “The story is so large but never covers any true depth. The scenery is beautiful but in the end goes to waste with such a mediocre plot.” และ “....the story is far too thin for adults, and far too dark for kids.” [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คอมเม้นท์เหล่านี้ขัดกับความรู้สึกของดิฉันอย่างสื้นเชิง...เพราะสิ่งที่รู้สึกเป็นอย่างแรกตอนที่ดูจบคือเนื้อเรื่องมันลึกซึ้งมาก แต่ว่า “อะไรคือความหมายที่แท้จริงที่ผู้กำกับพยายามสื่อ” เชื่อว่าใครที่ได้ดูคงรู้สึกเช่นกัน....แฉกเช่นเรื่องไซอิ๋ว หรือ Life of Pi ดิฉันรู้สึกว่าตัวละครแต่ละตัวที่ Roy (Lee Pace) เล่าให้ Alexandria (Catinca Untaru) นั้นสื่อถึงอะไรบางอย่างในใจ Roy แต่ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ดิฉันคิดไม่ออกค่ะ และด้วยที่ไม่ได้ใจเย็นพอจะมานั่งวิเคราะห์เอง ก็เลยเสริซเอาค่ะ ดูว่าฝรั่งเค้าวิเคราะห์ว่าอะไรกัน จนมาเจอบทวิเคราะห์จาก Blog นี้ค่ะ http://othermelissawyatt.tumblr.com/post/90910220526/answering-the-critics-of-tarsem-singhs-the-fall ที่อ่านแล้วตรงใจสุดๆ...บังเอิญดีค่ะ Melissa ผู้เขียน Blog นี้ก็เพิ่งได้ดูเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วเท่านั้น....โอ๊ววว ความอมตะมีจริง
จากนี้จะเป็นเนื้อหาคร่าวๆจากดิฉันและการวิเคราะห์จาก Blog ดังกล่าว....ไม่รู้จะเรียกว่าสปอยล์ได้มั๊ยเพราะหนังเก่ามากแล้ว เอาเป็นว่าถ้าใครตัดสินใจจะลองดูก่อนว่ามันดี มันลึกซึ้งจริงมั๊ย ดิฉันก็แนะนำ ให้ดู 100% แต่ถ้าดูแล้วไม่รู้เรื่อง หรืองง หรือคิดว่าไม่เห็นจะลึกซึ้งตรงไหนเลย ก็ขอให้กลับมาอ่านโพสท์นี้ดูว่าดิฉันจะเปลี่ยนความคิดคุณได้ไหม นะคะ