บันทึกเรื่องราวผ่านภาพถ่าย หมาพันทาง ตัวหนึ่ง

[ สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกเลย หากมีอะไรผิดพลาด ผิดเพี้ยนไปขออภัยด้วยนะครับ ยิ้ม ]


หลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อนี้ใช่มั้ยครับ แต่คงมีหลายๆคนเขียนคำนี้ผิด โดนเขียนเป็น "พันธุ์ทาง" โดยอาจจะคิดว่าเป็นชื่อสายพันธุ์หนึ่งของสุนัข ซึ่งที่จริงแล้วจะเขียนว่า "พันทาง"  ครับ รายละเอียดคำๆนี้ขออ้างอิงจาก http://www.manager.co.th/daily/viewnews.aspx?NewsID=9550000119635

ขึ้นชื่อว่าหมาพันทางแล้ว ก็เกิดภาพในหัวก็แล่นขึ้นมาทันที ลักษณะเป็นหมาหน้าแหลมๆ ขนเกรียนบ้าง ยาวบ้าง หยิกบ้าง ตรงบ้าง ตัวขนาดเล็กจนถึงกลาง มีหลากหลายสี ตั้งแต่ขาวล้วน ดำล้วน ไปจนถึงสีมากมายแต้มลงบนตัว ส่วนที่อยู่อาศัยก็คงแถวๆตลาดนัด ในวัด หน้าร้านสะดวกซื้อ ตามซอยต่างๆ และอีกหลายๆที่ เรียกได้ว่าหมาชนิดนี้ไปทุกที่ที่มีอาหารให้กินครับ ฮ่าๆๆๆ  

สาเหตุหมาพันทางจะมีมากมายมองไปทางไหนก็เจอ เนื่องจากขาดการดูแลรับผิดชอบหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้เลี้ยง จากที่นำมาเลี้ยงแค่ 1-2 ตัว หากไม่ทำหมันหรือขาดการควบคุมที่เหมาะสมแล้วล่ะก็ จะมีลูกหมาตาดำๆเกิดขึ้นมากมาย และเกิดเป็นปัญหาสังคมตามมา ทั้งโรคติดต่อกันเองระหว่างหมา โรคที่ติดต่อสู่มนุษย์ที่เกิดจากการถูกกัด เป็นต้น (เผลอลืมตัวบ่นเรื่องสังคมมาซะงั้น)


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของหมาพันทางของผมครับ เกริ่นมายาวมากๆ Facepalm


เมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 หรือช่วงเดียวกันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ในตอนนั้นจำได้ว่าคลั่งไคล้การเลี้ยงปลามากๆ และกำลังดูตลาดซื้อ-ขายปลาในเวปไซต์แห่งนึงอยู่ ก็มาเจอกระทู้นึงที่ไม่ได้ซื้อ-ขายปลา แต่เป็นกระทู้หาบ้านให้ลูกหมา ตั้งกระทู้โดย log in ชื่อว่า กล้วยกล้วย
ไม่รอช้าผมเปิดกระทู้เข้าไปดูพบกับลูกหมาพันทางหน้าตาน่ารัก อายุประมาณ 2-3 เดือน จึงได้ติดต่อขอรับมาเลี้ยง โดยนัดไปรับในเย็นวันถัดไปเลย แต่ปัญหาสำคัญในตอนนั้นคือ ลูกหมาตัวนี้เป็นเพศเมียครับ ซึ่งผมได้รับคำบอกเล่าจากคนอื่นๆมาเยอะว่า หมาเพศเมียไม่ดี ตัวผู้ดีกว่า แต่ช่างเถอะเอามาก่อนค่อยแก้ปัญหาละกัน หมาเพศไหนก็เหมือนๆกันแหละมั้ง

นี่คือรูปแรกที่เห็นในกระทู้ที่ตั้งในเวปซื้อ-ขายปลาครับ ยิ้ม

ในคืนแรกที่พาเข้าบ้าน ไม่มีใครในบ้านรู้มาก่อนว่าผมจะนำลูกหมามาเลี้ยง เพราะที่บ้านไม่เคยมีใครนำหมามาเลี้ยงมาก่อน กลัวว่าหากบอกผู้ใหญ่ในบ้านไปจะถูกสั่งห้ามได้เนื่องจากยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงมากๆและไม่อยากแนะนำเท่าไหร่ครับ เพราะหากถูกห้ามเลี้ยงขึ้นมาล่ะก็ นอกจากจะถูกดุแล้ว ก็จะยุ่งยากมากๆเลยในการหาบ้านใหม่อีกครั้ง

คืนแรกนอนในกล่องพลาสติกละกันนะ

ลูกหมาตัวนี้เพื่อนสนิทเป็นคนฝากให้เอามาเลี้ยง นี่คือประโยคที่ผมใช้บอกกับครอบครัว ซึ่งเพื่อนสนิทคนที่ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฮ่าๆๆๆ แต่มันก็ถือว่าเป็นประโยคที่ใช้ได้ครับ เพราะไม่มีใครห้ามเลย มีแค่คำถามว่า เมื่อไหร่จะมารับคืนล่ะ ? แน่นอนครับไม่มีใครมารับแน่นอน ยิ้ม ผมนี่แหละจะเลี้ยง

ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่พอดีเลยมีเวลาดูแลได้เต็มที่ แต่ก็คิดเผื่อไว้แล้วว่าถ้าเปิดเทอมคงต้องพาไปอยู่ที่หอแน่ๆเลย ปล่อยไว้ที่บ้านคงไม่ดีแน่ๆ คงจะโดนที่บ้านบ่นยาว แต่ด้วยความซนและความน่าเอ็นดู ก็ทำให้สมาชิกภายในบ้านเปิดใจยอมรับ และเล่นกับลูกหมาตัวนี้มากขึ้นๆเรื่อยๆ




กรีดตาสวยๆ ทำหน้าแบ๊วๆแบบนี้ใครจะไม่รักล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ขอคั่นเรื่องราวซักพัก ยังไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับหมาพันทางตัวนี้เลย เป็นหมาพันทาง เพศเมีย ที่คิดว่ามีเชื้อสาย บางแก้ว นิดๆๆๆ นิดจนแทบมองไม่เห็น ฮ่าๆๆๆ และก็อาจจะมีเชื้อสาย ชิบะ อัลเซเชี่ยน อยู่ด้วยครับ ( 2 พันธุ์หลังนี้ ผู้เขียนคิดเองเออเองครับ ฮ่าๆๆๆๆ)
ส่วนชื่อคือ ตัวตัว ชื่อเต็ม ตัวตัว ปากจุ่มโกโก้ ชื่อเล่น/ฉายา จุ่ม




ภาพถ่ายเมื่อวันลอยกระทง ปี2553
ฉี่อยู่ยังจะแอบถ่ายอีก (บ่นได้คงบ่นออกมาแล้ว)

1 ปี สำหรับมนุษย์ ประมาณเท่ากับ 7 ปีของหมา คงไม่ใช่เรื่องโกหกครับ เพราะผ่านจากวันแรกที่พาเข้าบ้านแค่ 3 เดือน หน้าเริ่มยาวขึ้นแล้วครับ



โถๆๆ นี่จะกลายร่างเป็นหมาพันทางแล้วหรอเนี่ย


แถมอีกรูปกับความเปลี่ยนแปลงหน้ายาวขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



หลังจากเรียนจบและรับปริญญาไปแล้ว ก็หันมาเล่นกล้องจริงจังครับ เริ่มตั้งแต่ canon EOS 550D , fujifilm x-m1 , olympus om10 (กล้องฟิล์ม)


ช่วงปี เดือนกันยายน 2554 ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดหลังจากหน้าที่ยาวขึ้นแล้ว คือ หูที่ตั้งขึ้นเพียงข้างเดียวเราเรียกมันว่า "ฟังหูไว้หู"

มาถึงต้นปี 2555 อายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ขนเริ่มฟูขึ้น ยาวขึ้น

ไปแอบมุดกองข้าวเปลือกมา

สวัสดีชาวโลก






ช่วงปี 2557 เริ่มอยากหา concept ใส่ลงไปในภาพ ด้วยลุคที่ดูเป็นหมาลุยๆ เลยไปหากระเป๋าแบคแพคมาให้ใส่ครับ  

เริ่มดูดีขึ้นบ้างหรือยังน้า หรือว่ารกมากกว่า ฮ่าๆๆ


ถ่ายตัวแล้ว ก็ลองถ่ายมือดูบ้าง


เรื่องราวราบรื่นเกินไปมันก็จะไม่มีอะไรให้จดจำ
ช่วงกลางปี 2557 เกิดบาดเจ็บหนักที่ขาหลังที่เกิดจากการวิ่งไล่แมวแล้วไปถูกเศษแก้วบาด
แต่เรื่องกลับแย่กว่านั้นเพราะหมอที่ทำแผลให้ไม่มีความรับผิดชอบเลย ผ่านไป 1 อาทิตย์แผลยังไม่ปิดสนิทมีเลือดไหลอยู่เพราะหมอไม่ได้เย็บ ไม่ได้โกนขนออก ไม่ได้ทำอะไรกับแผลนอกจากการใส่เบตาดีน พอโทรไปเล่าอาการก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่ได้อยู่ที่คลีนิค จนต้องย้ายคลีนิคมาอีกที่นึงและหมอก็ได้ทำแผล ตัดเนื้อเย็บแผลให้ จากนั้นก็ต้องพาไปล้างแผลทุกวันๆ หมดไปหลายบาทอยู่ครับ ถ้ารักษาดีๆแต่แรกคงไม่เสียเยอะเท่านี้




แต่ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอครับ ไม่มีเหตุการณ์หนักๆร้ายแรงอีกต่อไปจนถึงปัจจุบัน
ยังมีรูปอีกมากมาย ตามตัวตัวมานะครับ เพี้ยนแช๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่