ตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้ไขปัญหาด้านพลังใจของนักเตะและระบบการบีบพื้นที่ได้แล้ว เกมรับดูเหนียวขึ้นแต่ยังไม่แข็งแรง เพราะการประกอบตัวในกรอบเขตโทษตอนเสียลูกเตะมุมยังมีปัญหาอยู่ตลอด แต่ในด้านเกมรับก็ถือว่าดีขึ้นเยอะแล้ว ส่วนด้านการครองบอล บอลของ คล็อปป์ ไม่ค่อยเน้นเคาะบอลไปมานานๆ จะออกแนวพุ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดมากกว่า ซึ่งต่างกับ BR ที่จะเน้นเคาะบอลไปมาเพื่อหาโอกาสเจาะ ส่วนนี้ผมว่าแล้วแต่คนจะชอบ เพราะสุดท้ายมันจะไปตัดสินกันที่จังหวะจบหรือการทำประตูนั่นเอง ว่าระบบไหนจะคมกว่ากัน

ที่นี้เข้าประเด็นที่ตั้งไว้เลยครับ เพราะที่ Liverpool ในช่วงที่ผ่านมาผลงานไม่ดีเพราะยิงประตูจากโอกาสที่สร้างมาไม่ได้ซะเยอะ เนื่องด้วยเวลาทีมที่คิดว่าพวกเขาชื่อชั้นด้อยกว่า พวกเขามักจะมาเล่นด้วยแผน "รถบัส" โดยเฉพาะที่บ้าน Liverpool นั่นทำให้หลายนัด Liverpool ทำแต้มหายไปเยอะเพราะความหลากหลายของระบบเกมบุกของทั้งทีมไม่ดีพอ ทำให้ตอนเปิดหน้าแลกกับฝ่ายตรงข้าม ยามเวลาในการแข่งขันเหลือน้อย นักเตะจะล่นเพราะเราต้องการชนะและมันก็จะเข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่รอโอกาส กองหลังที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งอยู่แล้วของ Liverpool ลอยสูง พวกคู่แข่งจึงรอฉวยโอกาสตอน Liverpool จ่ายบอลพลาด ฉกเข้าไปยิงได้เรื่อยมา ตรงนี้ The Kop ทั่วโลกน่าจะเห็นกันหมดแล้วจุดอ่อนตรงนี้

ดังนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นจะต้องเริ่มแก้ตรงจุดนี้อย่างจริงจัง แผนระยะสั้นคืออาจจะต้องซื้อผู้เล่นที่สร้างโอกาสรวมถึงสามารถจบสกอร์เองได้ด้วย เพื่อแบ่งเบาภาระของหน้าเป้า อย่าง เบนเตเก้ และ สเตอร์ริดจ์ เพราะต้องนี้ที่มีอยู่มันน้อยไป ตอนนี้คูตินโญ่ รับภาระหนักไป ฟิร์มิโน่ ก็ยังต้องพิสูจน์อีกซะระยะ ตัวรุกตัวอื่นๆคงพึงอะไรไม่ได้มาก ทั้ง ลาลันนา ไอส์ หรือ มิลเนอร์ ส่วนแผนระยะยาวก็แค่พยายามทำให้ Liverpool เล่นเกมบุกให้ได้เหมือนตอนที่ คล็อปป์ อยู่ที่ ดอร์ทมุนด์ เท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 1-2 ฤดูกาลแน่ๆ

สรุปคือ เกมรุกที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพเวลาต้องเจอกับทีมที่ตั้งรับ 11 คนในแดนตัวเอง คือโจทย์ข้อใหญ่ ข้อต่อไปที่ท้าทาย Liverpool ยุค เจอร์เก้น คล็อปป์