หลังจากที่ได้ติดตามกระทู้ต่างๆในพันทิพ มาเป็นระยะเวลานานพอดู
ครั้งนี้เลยตัดสินใจขอเลื่อนสถานะตัวเองมาเป็น จขกท กับเขาดูบ้าง
    
    เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ วันนี้จะขอมารีวิวสถาณที่ท่องเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วง 13-16/11/15 นี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เห็นรูปผ่านตา ทางเพจเฟซบุ๊คต่างๆ เกี่ยวกับ นาข้าวขั้นบันไดสีเหลืองทองที่บ้านป่าบงเปียง
และ การใช้ชีวิตอย่างช้าๆ ที่หมู่บ้านแม่กำปอง

จังหวะพอดีกันกับที่เพื่อนได้ชวนไปเที่ยวเชียงใหม่พอดิบพอดี เมื่อมีโอกาสจึงไม่รอช้า
จัดโปรแกรมเที่ยวทันที โดยมีเพื่อนสมาชิร่วมชะตากกรมทั้งหมดห้าคน เป็นเพื่อนที่กรุงเทพฯ 4 คน
และนัดพี่ที่เคารพเดินทางจากพิษณุโลกไปเจอที่เชียงใหม่อีก 1 คน

สถานที่ท่องเที่ยวที่วางแพลนไว้คร่าวๆ มีดังนี้

    วันแรก
        - เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
        - สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ (ร้านอาหาร)
        - บ้านป่าบงเปียง

    วันที่สอง
        - ผาช่อ อุทยานแห่งชาติแม่วาง
        - นิมมานเหมินทร์
        - ถนนคนเดินวัวลาย

        วันที่สาม
        - The Giant Chiangmai
        - บ้านแม่กำปอง

    วันที่สี่
        - ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก
        - พักผ่อนตามอัธยาศัย หาซื้อของฝาก

        ถ้าใครเข้ามาเพราะต้องการดู ที่พักราคาหลักร้อย …...ยินดีด้วยครับ คุณมาถูกทางแล้ว
    ถ้าใครเข้ามาเพราะต้องการดู วิวหลักล้านที่ว่า ..........ยินดีด้วยครับ คุณมาถูกทางแล้ว
    ถ้าใครเข้ามาเพราะต้องการดู เพราะคิดว่ามีรูปเยอะ ....ยินดีด้วยครับ คุณมาถูกทางแล้ว

คำเตือนกระทูนี้ รูปเยอะ และสีสดมาก

เริ่มวันแรก เรานัดกันที่ สนามบินดอนเมือง เวลาเครื่องออก 6:35 น. Bagdrop 5:35 น.
เรานัดเจอกันที่ เคาน์เตอร์ Air Asia  5:30 น. เพื่อนเจ้ากรรมตัวดีนัดกันผิด เป็นNok Air ซะงั้น พอรวมตัวกันได้

คุณพระ!!!!  แถวเช็คอินหรือนี่ ยาวแบบแถวรอขึ้น BTS เวลาชั่วโมงเร่งด่วน

แต่ดีที่เราได้ทำการ Web Checked-in มาแล้ว จึงตรงไปช่อง bag drop เลย กว่าจะถึงคิวเราก็ล่วงเลยเวลามา 15 นาที โดยตลอดเวลาความรู้สึกว่ากำลังจะตกเครื่องยังคงวนเวียนอยู่กับเรา ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน

เสร็จสิ้นจากภารกิจ Bag Drop ก็จ้ำสิจ๊ะ!!! จะรออะไรกันอยู่หล่ะ เราตรงไปที่เกท โดยเร็วที่สุด พอไปถึง เรียกขึ้นเครื่องพอดี โล่งอก รอดจากการโดนเพื่อนประณาม มาอย่างได้หวุดหวิด

ปล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรมาก่อนเวลา Bag Drop ครึ่งชั่วโมงขึ้นไป

7:50 น. ถึงเชียงใหม่แล้ว สมาชิกครบ เราตรงไปจัดการรับรถเช่าที AVIS ทันที และมุ่งหน้าสู่ทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

แต่ก่อนอื่น กองทัพต้องเดินด้วยท้อง  เราแวะร้านอาหารระหว่างทางครับ
แปลกที่นี่ ร้านข้าวซอย แต่ตั้งร้านอยู่ริมถนน ตึ่งโป๊ะ
…...........................................................

เมื่อหนังท้องอิ่ม หนังตาก็เริ่มหย่อน … ราตรีสวัสดิ์  ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้
.
.
.
.
เห้ย!! ไม่ใช่ ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่ที่ทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
โดยตั้งอยู่ กม.ที่ 42ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์
ระยะทางทั้งหมดของเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วเเม่ปานคือ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโดยมีค่าใช้จ่าย กลุ่มละ 200 บาท (ไม่เกิน 10 คน)

ระหว่างทาง ในใจก็เริ่มคิด  จะอากาศจะเป็นอย่างไรบ้าง จะหนาวหรือไม่ นี่มันเดือน 11 แล้ว
สมควรควรแก่เวลา แล้วเหมือนธรรมชาติก็ดูจะเป็นใจ
12 องศา !!!!  เสื้อกันหนาวตูขนเป็ดอยู่ไหนฟระ
แต่แล้วโชคชะตาก็ได้เล่นตลก ใครมันมาสลับตัวเลขที่ป้ายเล่น สรุปเทอร์โมมิเตอร์ 21 องศา

อุณหภูมิเย็นพอสมควร

♪เห็ดเกิดจากความเหงา ที่ทำให้รู้ว่ารักเธอเท่าไหร่ ♫

ทางเดินช่วงแรก จะเป็นป่าดิบเขาซึ่งมีบรรยากาศร่มครึ้ม
มีแสงแดดส่องลงมาเพียงรำไรตามพื้นป่าเต็มไปด้วย เฟินหลากหลายชนิด
มีมอสสีเขียวขึ้นคลุมตามโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยที่ชุมชื้น

เห็ดก็มี

ดอกกล้วยไม้ก็มา

เราเดินออกมาเรื่อยๆ จะทะลุออกมายังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของ
สันกิ่วแม่ปานซึ่งจะมีแสงแดดจ้าและสายลมแรง

บรรยากาศดอกไม้บริเวณทุ่งหญ้า

และแล้วเราก็มาถึงจุดชมวิว

ถัดจากจุดชมวิวไปจะเป็นทางเดินเลียบไปตามสันเขาเลียบหน้าผา
มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะสามารถเดินได้เพียงคนเดียว

เดินต่อมาอีกนิดเราจะพบ ผาแง่มน้อย เป็นหิน 2 แท่ง ตั้งอยู่คู่กันริมเส้นทางเดินชมธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

เรากำลังเดินเป็นวงกลม ก่อนที่จะกลับเข้าเขตป่าดิบเขา ตรงนี้เราสามารถถ่ายภาพ
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ได้ แต่วันนี้หมอกเยอะมาก ถ่ายมาได้แค่นี้

กลับเข้าเขตป่าดิบเขากันต่อครับ

กิ้งกือฟิเจอริ่ง

ใกล้ออกจากป่าแล้วครับ อดทนกันอีกนิด

ต้นอะไรไม่ทราบ เห็นอยู่ใต้บันได

เสร็จสิ้นจากกิจกรรมเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติแล้ว
เราก็ขับรถลงจากกิ่วแม่ปาน มุ่งหน้าสู่ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกัน

โดยเมนูอาหารของสโมสรศูนย์เกษตรหลวงอินทนนท์ เกือบทั้งหมด
ประกอบจากผลผลิตและวัตถุดิบที่โครงการหลวง

เมนูอาหารที่น่าสนใจเพราะแตกต่างจากที่อื่น ได้แก่ ปลาเทร้าต์ ปลาสเตอเจี้ยน เป็ดอี้เหลียง และกุ้งก้ามแดง

น้ำพริกเห็ดหอม ปลาสลิดทอด

เป็ดอี้เหลียงอบ กาแฟดอยคำ

ปลาเทร้าต์ นึ่งมะนาว

ยอดอ่อนทานตะวันผัดน้ำมันหอย

บรรยากาศสวย ร่มรื่น อาหารอร่อย แนะนำเลยว่าต้องมา
เสร็จจากที่นี่แล้ว เดินทางไปต่อที่ บ้านป่าบงเปียงกันเลยครับ