ผลงานภาพยนตร์ภาคปิดท้ายของไตรภาค The Hunger Games ที่ได้ทำแยกออกเป็น 2 พาร์ท โดยในส่วนของพาร์ทแรกแม้จะได้คำวิจารณ์ในระดับธรรมดาแต่ก็ยังชวนน่าติดตามด้วยเรื่องราวที่เล่าได้เพลินที่เป็นจุดเริ่มต้นสู่จุดจบในภาค The Hunger Games: Mocking Jay - Part 2 จากผลงานการกำกับของผู้กำกับ Francis Lawrence ผู้ที่ทำ The Hunger Games: Catching Fire ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และการนำแสดงของ Jennifer Lawrence ดาราสาวอันทรงพลัง
หนังเล่าเรื่องหลังจากที่พาร์ทแรก
ที่เขต 13 ได้ไปนำตัวพีต้ากลับมาที่เขา 13 และได้เกิดสภาพจิตใจหลอนจนได้เกือบฆ่าแคสนิส ภาคนี้จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแผนการสังหารสโนว์ ที่ต้องระวังตัวไปด้วยกับดักที่แคปิตอลได้สร้างไว้ กับดักที่โหดร้ายและเอาชนะยากกว่าจะถึงตัวประธานาธบดีสโนว์
การเล่าเรื่องในภาพยนตร์
ต้นเรื่องคือมันคือสิ่งที่เรารู้กันดีว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ ตัวละครกำลังทำอะไร โดยที่ยังอยู่ที่เดิม และค่อยๆใส่เรื่องราวไปเล่าตัวละครมากขึ้น เช่น แคสนิส ไปช่วย เขต 2 เปิดศึกกับสโนว์ และก็กลับมาที่ๆที่เดิม คือถ้าช่วงแรกเริ่มมันก็ไม่ค่อยมีผลอะไรแต่พอมันถึงฉากที่ควรจะเล่าไปแบบเส้นตรงเนื้อหามันหยุดอยู่ที่เดิมบ่อยมากจนแทบอยากให้จบไวๆเลยแต่พอมันดำเนินเรื่องผ่านครึ่งแรกไปได้เราได้เห็นฉากต่อสู้อลังการที่เพิ่มมามากขึ้นและเนื้อเรื่องที่ดูเดินต่อไปได้อย่างที่มันดูแล้วลงตัว มันจึงสามารถเล่าต่อไปได้อย่างไม่มีอะไรที่ติดขัด มีแอ็คชั่นมาใช้เป็นส่วนประกอบมาก การเล่าเรื่องที่ดูดุดัน ความเข้มข้นของบทที่เพิ่มมา ความกดดัน เรื่องการเมือง ที่ทั้งหมดผสมเข้ากันได้อย่างดีจาดความน่าเบื่อหน่ายมาเป็นความสนุกสนาน เริ่มบันเทิงขึ้น ไม่มีการหยุดอะไรเลย ช่วงท้ายๆคือแบบเราได้เห็นจุดที่เปลี่ยนไปของบางตัวละครที่ทำให้เปลี่ยนความคิดคนดูเลย เราสัมผัสได้ว่าทุกตัวละครก็ต่างมีนิสัยที่เลว แต่ความเลวก็เพื่อสิ่งที่ดี ส่วนตอนจบมันดูจบแบบอยากให้ทำต่อแต่มันลงตัวถ้าจบภาคนี้เลย ชอบฉากแอ็คชั่นที่มีชั้นเชิงของหนังมากที่สุด
จุดจบของภาคนี้
มีจุดหักมุมที่ทำให้เราเห็นใจตัวละครนั้นๆเลย เเต่คาดเดาได้ยากมาก
ระบบ 3D ใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คุ้มเลยมีพุ่งและลึก
การแสดงดูมีความโดดเด่นในเอกลักษณ์ของทุกคน
ซีจถือว่าเนียน
อลังการที่สุดในไตรภาค
SCORE : 7.1 (B)
[CR] REVIEW The Hunger Games: Mocking Jay Part 2
ผลงานภาพยนตร์ภาคปิดท้ายของไตรภาค The Hunger Games ที่ได้ทำแยกออกเป็น 2 พาร์ท โดยในส่วนของพาร์ทแรกแม้จะได้คำวิจารณ์ในระดับธรรมดาแต่ก็ยังชวนน่าติดตามด้วยเรื่องราวที่เล่าได้เพลินที่เป็นจุดเริ่มต้นสู่จุดจบในภาค The Hunger Games: Mocking Jay - Part 2 จากผลงานการกำกับของผู้กำกับ Francis Lawrence ผู้ที่ทำ The Hunger Games: Catching Fire ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และการนำแสดงของ Jennifer Lawrence ดาราสาวอันทรงพลัง
หนังเล่าเรื่องหลังจากที่พาร์ทแรก
ที่เขต 13 ได้ไปนำตัวพีต้ากลับมาที่เขา 13 และได้เกิดสภาพจิตใจหลอนจนได้เกือบฆ่าแคสนิส ภาคนี้จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแผนการสังหารสโนว์ ที่ต้องระวังตัวไปด้วยกับดักที่แคปิตอลได้สร้างไว้ กับดักที่โหดร้ายและเอาชนะยากกว่าจะถึงตัวประธานาธบดีสโนว์
การเล่าเรื่องในภาพยนตร์
ต้นเรื่องคือมันคือสิ่งที่เรารู้กันดีว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ ตัวละครกำลังทำอะไร โดยที่ยังอยู่ที่เดิม และค่อยๆใส่เรื่องราวไปเล่าตัวละครมากขึ้น เช่น แคสนิส ไปช่วย เขต 2 เปิดศึกกับสโนว์ และก็กลับมาที่ๆที่เดิม คือถ้าช่วงแรกเริ่มมันก็ไม่ค่อยมีผลอะไรแต่พอมันถึงฉากที่ควรจะเล่าไปแบบเส้นตรงเนื้อหามันหยุดอยู่ที่เดิมบ่อยมากจนแทบอยากให้จบไวๆเลยแต่พอมันดำเนินเรื่องผ่านครึ่งแรกไปได้เราได้เห็นฉากต่อสู้อลังการที่เพิ่มมามากขึ้นและเนื้อเรื่องที่ดูเดินต่อไปได้อย่างที่มันดูแล้วลงตัว มันจึงสามารถเล่าต่อไปได้อย่างไม่มีอะไรที่ติดขัด มีแอ็คชั่นมาใช้เป็นส่วนประกอบมาก การเล่าเรื่องที่ดูดุดัน ความเข้มข้นของบทที่เพิ่มมา ความกดดัน เรื่องการเมือง ที่ทั้งหมดผสมเข้ากันได้อย่างดีจาดความน่าเบื่อหน่ายมาเป็นความสนุกสนาน เริ่มบันเทิงขึ้น ไม่มีการหยุดอะไรเลย ช่วงท้ายๆคือแบบเราได้เห็นจุดที่เปลี่ยนไปของบางตัวละครที่ทำให้เปลี่ยนความคิดคนดูเลย เราสัมผัสได้ว่าทุกตัวละครก็ต่างมีนิสัยที่เลว แต่ความเลวก็เพื่อสิ่งที่ดี ส่วนตอนจบมันดูจบแบบอยากให้ทำต่อแต่มันลงตัวถ้าจบภาคนี้เลย ชอบฉากแอ็คชั่นที่มีชั้นเชิงของหนังมากที่สุด
จุดจบของภาคนี้
มีจุดหักมุมที่ทำให้เราเห็นใจตัวละครนั้นๆเลย เเต่คาดเดาได้ยากมาก
ระบบ 3D ใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คุ้มเลยมีพุ่งและลึก
การแสดงดูมีความโดดเด่นในเอกลักษณ์ของทุกคน
ซีจถือว่าเนียน
อลังการที่สุดในไตรภาค
SCORE : 7.1 (B)