กระทู้ก่อนหน้า
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2.1 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น @ การติดดอย)
http://ppantip.com/topic/34432424
ห่างหายไปนานกับบทความธรรมะกับหุ้น วันนี้จะกลับมาด้วย บทความที่เกี่ยวกับ "โลกธรรม" ครับ
ในบทความนี้จะเขียนในลักษณะ ถาม-ตอบ เป็นข้อๆนะครับ
ปุจฉา : เห็นเจ้าของกระทู้นำธรรมะมาใช้ในหุ้น หลักธรรมะใช้เพื่อหลุดพ้น ทำไมต้องเอาหลักธรรมะมาใช้ในโลกแห่งความวุ่นวาย? ในหุ้น?
วิสัชนา : หลักธรรมะ คือ หลักแห่งธรรมชาติ หากยังไม่สามารถนำหลักธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือในเรื่องของโลกใบนี้ได้ ไหนเลยจะนำมาใช้
เพื่อการหลุดพ้นได้? เพราะเรื่องต่างๆบนโลกใบนี้ เป็นเรื่องง่ายๆที่จะทำใจได้ เป็นเพียงขั้นต้น คนจำนวนมากมายก็สามารถทำได้
แต่เรื่องการหลุดพ้น มีเพียงน้อยคนนักที่จะสามารถเข้าถึง "ความเป็นอรหันต์ สิ้นกิเลส" ได้ ธรรมง่ายๆ(โลกียะ) ยังทำไม่ได้
แล้วธรรมเหนือโลก(โลกุตตร) จะทำได้อย่างไร?
ปล.หากใครไม่ได้สนใจทางด้านการเทรดหุ้น หลักธรรมะก็ยังสามารถใช้ได้ในเรื่องต่างๆ เพียงแค่คุณประยุกต์ให้เป็น
ปล.2 หากใครจะนำหลักธรรมะมาปฏิบัติอย่างตั้งใจจริงเพื่อความหลุดพ้น มีความดับของกิเลส เป็นที่สุด เจ้าของกระทู้ขอเป็นกำลังใจให้สุดกำลัง
และขอร่วมโมทนา การปฏิบัตินั้นด้วย
ปุจฉา : หลักธรรมะใช้ในการเทรดหุ้นได้อย่างไร ในเมื่อ 2 สิ่งนี้ ไม่ใช่ศาสตร์สาขาวิชาเดียวกัน?
วิสัชนา : ใช้ได้แน่นอนครับ เนื่องจากในการ Trade อย่างเป็น ระบบ สิ่งที่จะนำท่านไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ Technical analysis อย่างเดียว
เพราะ เพียงแค่ Technical มีความสำคัญเพียง 10% ในระบบ ที่เหลือ 60% คือ Psychology + 30% Money management
และหลักธรรมะ เน้นปรับที่จิตใจ การวางใจ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของระบบ คือ 60% Psychology
ปุจฉา : โลกธรรม8 คืออะไร?
วิสัชนา : คือ ความจริง 8 ประการที่มนุษย์ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันได้แก่ "
มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา"
*เพิ่มเติม โลกธรรม8 นี้ก็ อยู่ในกฎแห่งธรรมชาติอีกข้อหนึ่งคือ กฎของ "หยินหยาง" ว่าทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีของคู่กัน คู่ปรับกัน
ดังเช่น คุณหมอแพทย์จีน นามปากกา "ใบไม้ปลิว" ได้เขียนบทความไว้แล้ว ย้อนอ่านได้ที่
http://ppantip.com/topic/34451289
ปุจฉา : โลกธรรม 8 เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเทรดหุ้น?
วิสัชนา : เกี่ยวข้องโดยตรง ในส่วนของ "มีลาภ เสื่อมลาภ สุข ทุกข์" ของแถมคือ "สรรเสริญ นินทา"
ปุจฉา : จากคำตอบข้างบน สามารถยกตัวอย่างได้ไหม?
วิสัชนา : ยกตัวอย่างได้ กล่าวคือ "มีลาภ" เมื่อสามารถทำกำไรได้ ; "เสื่อมลาภ" เมื่อขาดทุน ;
"สุข" เมื่อได้กำไร ; "ทุกข์" เมื่อขาดทุนหรือติดดอย
"สรรเสริญ" เมื่อมีใครบอกหุ้นมาแล้วได้กำไร ; "นินทา" เมื่อมีใครบอกหุ้นมาแล้วขาดทุนหรือติดดอย
ปุจฉา : แล้วจะนำ "โลกธรรม8" มาใช้ได้อย่างไรในการเทรดหุ้น?
วิสัชนา : ทุกคนเมื่อเข้ามาเล่นหุ้น ย่อมอยากได้ "ลาภ" คือ กำไร ย่อมไม่อยาก "เสื่อมลาภ" คือ ขาดทุน จริงไหมครับ... ??
ดังนั้น ทุกคนที่เข้ามาเล่นใหม่ รวมถึง บางท่านที่เล่นมานานแล้ว ก็อาจจะยังมีความคิด หรือเคยได้ยิน คำว่า "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน"
จริงไหมคับ? เพราะคุณไม่อยาก "เสื่อมลาภ" หรือ ต้องขาดทุนเพราะการกระทำที่เรียกว่า
"CUT LOSS"
ถ้าท่านอยู่ในตลาดหุ้น บางครั้งท่านเงินเย็นไม่ได้ใช้ ไม่ขายไปก็ยังมีเงินอื่นมาซื้อตัวใหม่ พร้อมดอยได้นานๆ ก็อาจจะไม่มีปัญหา
สำหรับบางท่าน เพราะท่านคงหวังว่าวันนึง มันจะขึ้นมา เท่าทุนและได้กำไร ... !!! แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ จะเครียด
ลองดูตัวอย่างดังรูปต่อไปนี้
รูปก็มีทั้งจำนวนปีน้อยๆ ก็ไม่อยากจะตัดปีใส่มากับจำนวนปีนานๆ ก็ตัดใส่มาให้ดูสักหน่อย
ในทีนี้ก็เอาสัก 4 ตัวพอแล้วเนาะ....ตรงกับอริยสัจ"4"
ทุกข์
ก็จะเห็นว่า สองตัวที่มีจำนวนปี ท่านดอยมาอย่างน้อย เกือบ 20 ปี
ปุจฉา : ท่านดอยตอนอายุเท่าไร ตอนนี้ท่านอายุเท่าไร?
วิสัชนา : 30 ยังเอ๊าะๆ ตอนนี้ท่าน 50 ; ถ้าดอย 40 ตอนนี้ท่าน 60 ; ถ้าท่านดอย 50 ตอนนี้ท่าน 70
ปุจฉา : ท่านแน่ใจหรือว่า ท่านทนกับสภาวะขาดทุนได้นานจนถึงวันที่ ท่านจะรอให้มันหลุดดอย?
วิสัชนา : ผมไม่ทราบครับว่าท่านทนได้ไหม? แต่ถ้าท่านทนได้ ผมมีความเชื่ออยู่ หนึ่ง อย่าง ซึ่งจะถามให้ท่านคิดในข้อถัดไป
ปุจฉา : พระพุทธเจ้าตรัสว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง ... ความตายไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย
ท่านแน่ใจหรือว่าจะมีชีวิตอยู่จนหลุดดอย?
วิสัชนา : ขออนุญาติ ตอบแทนท่าน ไม่มีใครรู้หรอกครับ เพลงของพี่เป๊ก ยังบอกเลย ว่า "ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตจะจบลงเมื่อไร" เอ้ยยย รัก ไม่ใช่ ชีวิต
ปุจฉา : แล้วถ้าท่านทนไม่ไหว รอไม่ได้แล้ว ทำอย่างไร?
วิสัชนา : ท่านก็จะขายขาดทุนออกมาเอง แล้วก็อาจจะเลิกเล่นหุ้นไปเลย และจะเข้าภาษิตที่ว่า "เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย"
ปล. ในหุ้นท่านอาจถือได้ TFEX หมดตัวนะคร้าบบบบบ
วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมอยู่จีน ตอนนี้ ตี1 แล้ว ไว้จะมาต่อนะครับ เรื่องโลกธรรม ข้างบนยังไม่จบนะครับ แค่เกริ่นนำ
คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา ไม่เคยล้าสมัย แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้ว
และนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ
**บทความใดๆที่เกี่ยวกับธรรมะ หากผมซึ่งมีความรู้น้อย และยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ กล่าวไป และมีความผิดเพี้ยนไปจาก ความเป็นจริง
ก็ต้องขอขมา แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย หวังว่า พระรัตนตรัย จะอดโทษ แก่ข้าพเจ้า
**บุญใดที่เกิดจากการ ให้ธรรมเป็นทาน ดังนี้ ซึ่งเป็น ทาน ที่ชนะทานทั้งปวง "สัพพะ ทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ" ก็ขอโมทนาบุญนี้ให้ทุกท่านที่ได้รับธรรมนี้ด้วยเถิด ...สาธุ !!
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่3 "โลกธรรม8" กับการเทรดหุ้น (1) )
กระทู้ก่อนหน้า
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2.1 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น @ การติดดอย)
http://ppantip.com/topic/34432424
ห่างหายไปนานกับบทความธรรมะกับหุ้น วันนี้จะกลับมาด้วย บทความที่เกี่ยวกับ "โลกธรรม" ครับ
ในบทความนี้จะเขียนในลักษณะ ถาม-ตอบ เป็นข้อๆนะครับ
ปุจฉา : เห็นเจ้าของกระทู้นำธรรมะมาใช้ในหุ้น หลักธรรมะใช้เพื่อหลุดพ้น ทำไมต้องเอาหลักธรรมะมาใช้ในโลกแห่งความวุ่นวาย? ในหุ้น?
วิสัชนา : หลักธรรมะ คือ หลักแห่งธรรมชาติ หากยังไม่สามารถนำหลักธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือในเรื่องของโลกใบนี้ได้ ไหนเลยจะนำมาใช้
เพื่อการหลุดพ้นได้? เพราะเรื่องต่างๆบนโลกใบนี้ เป็นเรื่องง่ายๆที่จะทำใจได้ เป็นเพียงขั้นต้น คนจำนวนมากมายก็สามารถทำได้
แต่เรื่องการหลุดพ้น มีเพียงน้อยคนนักที่จะสามารถเข้าถึง "ความเป็นอรหันต์ สิ้นกิเลส" ได้ ธรรมง่ายๆ(โลกียะ) ยังทำไม่ได้
แล้วธรรมเหนือโลก(โลกุตตร) จะทำได้อย่างไร?
ปล.หากใครไม่ได้สนใจทางด้านการเทรดหุ้น หลักธรรมะก็ยังสามารถใช้ได้ในเรื่องต่างๆ เพียงแค่คุณประยุกต์ให้เป็น
ปล.2 หากใครจะนำหลักธรรมะมาปฏิบัติอย่างตั้งใจจริงเพื่อความหลุดพ้น มีความดับของกิเลส เป็นที่สุด เจ้าของกระทู้ขอเป็นกำลังใจให้สุดกำลัง
และขอร่วมโมทนา การปฏิบัตินั้นด้วย
ปุจฉา : หลักธรรมะใช้ในการเทรดหุ้นได้อย่างไร ในเมื่อ 2 สิ่งนี้ ไม่ใช่ศาสตร์สาขาวิชาเดียวกัน?
วิสัชนา : ใช้ได้แน่นอนครับ เนื่องจากในการ Trade อย่างเป็น ระบบ สิ่งที่จะนำท่านไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ Technical analysis อย่างเดียว
เพราะ เพียงแค่ Technical มีความสำคัญเพียง 10% ในระบบ ที่เหลือ 60% คือ Psychology + 30% Money management
และหลักธรรมะ เน้นปรับที่จิตใจ การวางใจ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของระบบ คือ 60% Psychology
ปุจฉา : โลกธรรม8 คืออะไร?
วิสัชนา : คือ ความจริง 8 ประการที่มนุษย์ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันได้แก่ "มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา"
*เพิ่มเติม โลกธรรม8 นี้ก็ อยู่ในกฎแห่งธรรมชาติอีกข้อหนึ่งคือ กฎของ "หยินหยาง" ว่าทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีของคู่กัน คู่ปรับกัน
ดังเช่น คุณหมอแพทย์จีน นามปากกา "ใบไม้ปลิว" ได้เขียนบทความไว้แล้ว ย้อนอ่านได้ที่
http://ppantip.com/topic/34451289
ปุจฉา : โลกธรรม 8 เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเทรดหุ้น?
วิสัชนา : เกี่ยวข้องโดยตรง ในส่วนของ "มีลาภ เสื่อมลาภ สุข ทุกข์" ของแถมคือ "สรรเสริญ นินทา"
ปุจฉา : จากคำตอบข้างบน สามารถยกตัวอย่างได้ไหม?
วิสัชนา : ยกตัวอย่างได้ กล่าวคือ "มีลาภ" เมื่อสามารถทำกำไรได้ ; "เสื่อมลาภ" เมื่อขาดทุน ;
"สุข" เมื่อได้กำไร ; "ทุกข์" เมื่อขาดทุนหรือติดดอย
"สรรเสริญ" เมื่อมีใครบอกหุ้นมาแล้วได้กำไร ; "นินทา" เมื่อมีใครบอกหุ้นมาแล้วขาดทุนหรือติดดอย
ปุจฉา : แล้วจะนำ "โลกธรรม8" มาใช้ได้อย่างไรในการเทรดหุ้น?
วิสัชนา : ทุกคนเมื่อเข้ามาเล่นหุ้น ย่อมอยากได้ "ลาภ" คือ กำไร ย่อมไม่อยาก "เสื่อมลาภ" คือ ขาดทุน จริงไหมครับ... ??
ดังนั้น ทุกคนที่เข้ามาเล่นใหม่ รวมถึง บางท่านที่เล่นมานานแล้ว ก็อาจจะยังมีความคิด หรือเคยได้ยิน คำว่า "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน"
จริงไหมคับ? เพราะคุณไม่อยาก "เสื่อมลาภ" หรือ ต้องขาดทุนเพราะการกระทำที่เรียกว่า "CUT LOSS"
ถ้าท่านอยู่ในตลาดหุ้น บางครั้งท่านเงินเย็นไม่ได้ใช้ ไม่ขายไปก็ยังมีเงินอื่นมาซื้อตัวใหม่ พร้อมดอยได้นานๆ ก็อาจจะไม่มีปัญหา
สำหรับบางท่าน เพราะท่านคงหวังว่าวันนึง มันจะขึ้นมา เท่าทุนและได้กำไร ... !!! แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ จะเครียด
ลองดูตัวอย่างดังรูปต่อไปนี้
รูปก็มีทั้งจำนวนปีน้อยๆ ก็ไม่อยากจะตัดปีใส่มากับจำนวนปีนานๆ ก็ตัดใส่มาให้ดูสักหน่อย
ในทีนี้ก็เอาสัก 4 ตัวพอแล้วเนาะ....ตรงกับอริยสัจ"4"ทุกข์
ก็จะเห็นว่า สองตัวที่มีจำนวนปี ท่านดอยมาอย่างน้อย เกือบ 20 ปี
ปุจฉา : ท่านดอยตอนอายุเท่าไร ตอนนี้ท่านอายุเท่าไร?
วิสัชนา : 30 ยังเอ๊าะๆ ตอนนี้ท่าน 50 ; ถ้าดอย 40 ตอนนี้ท่าน 60 ; ถ้าท่านดอย 50 ตอนนี้ท่าน 70
ปุจฉา : ท่านแน่ใจหรือว่า ท่านทนกับสภาวะขาดทุนได้นานจนถึงวันที่ ท่านจะรอให้มันหลุดดอย?
วิสัชนา : ผมไม่ทราบครับว่าท่านทนได้ไหม? แต่ถ้าท่านทนได้ ผมมีความเชื่ออยู่ หนึ่ง อย่าง ซึ่งจะถามให้ท่านคิดในข้อถัดไป
ปุจฉา : พระพุทธเจ้าตรัสว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง ... ความตายไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย
ท่านแน่ใจหรือว่าจะมีชีวิตอยู่จนหลุดดอย?
วิสัชนา : ขออนุญาติ ตอบแทนท่าน ไม่มีใครรู้หรอกครับ เพลงของพี่เป๊ก ยังบอกเลย ว่า "ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตจะจบลงเมื่อไร" เอ้ยยย รัก ไม่ใช่ ชีวิต
ปุจฉา : แล้วถ้าท่านทนไม่ไหว รอไม่ได้แล้ว ทำอย่างไร?
วิสัชนา : ท่านก็จะขายขาดทุนออกมาเอง แล้วก็อาจจะเลิกเล่นหุ้นไปเลย และจะเข้าภาษิตที่ว่า "เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย"
ปล. ในหุ้นท่านอาจถือได้ TFEX หมดตัวนะคร้าบบบบบ
วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมอยู่จีน ตอนนี้ ตี1 แล้ว ไว้จะมาต่อนะครับ เรื่องโลกธรรม ข้างบนยังไม่จบนะครับ แค่เกริ่นนำ
คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา ไม่เคยล้าสมัย แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้ว
และนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ
**บทความใดๆที่เกี่ยวกับธรรมะ หากผมซึ่งมีความรู้น้อย และยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ กล่าวไป และมีความผิดเพี้ยนไปจาก ความเป็นจริง
ก็ต้องขอขมา แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย หวังว่า พระรัตนตรัย จะอดโทษ แก่ข้าพเจ้า
**บุญใดที่เกิดจากการ ให้ธรรมเป็นทาน ดังนี้ ซึ่งเป็น ทาน ที่ชนะทานทั้งปวง "สัพพะ ทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ" ก็ขอโมทนาบุญนี้ให้ทุกท่านที่ได้รับธรรมนี้ด้วยเถิด ...สาธุ !!