[CR] ต้นไม้มณีโคตร ต้นเดียวในโลก ที่ล้มลงตามอายุขัย








     ด้วยความที่ได้ฟังคำเล่าจากพ่อแม่ จากผู้เฒ่าผู้แก่ ตั้งแต่จำความได้ เรื่องต้นไม้มณีโคตร ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ในประเทศลาว ซึ่งในโลกใบนี้ มีเพียงต้นเดียวเท่านั้น จึงมีเรื่องเล่าขานต่างๆนานามากมาย จากชีวิตสมัยเด็ก จนมาถึงสมัยวัยชราตอนต้น “ต้นไม้มณีโคตร”ก็ยังวนเวียนในมโนความต้องการ ที่จะไปพบเห็น ไปสักการะอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นจากตำนาน จากนิทาน จากกลอนลำ จากเรื่องรามายณะ และจากปากเล่าของผู้รู้ จึงทำให้ทุกครั้งที่ผมมาลาวใต้ จะต้องมุ่งมาที่ น้ำตกคอนพะเพ็ง แขวงจำปาสัก เพื่อมาพบ”ต้นไม้มณีโคตร”ต้นนี้ มาตอกย้ำความเชื่อของตนเองที่ว่า กิ่งใหญ่ที่ชี้ไปในอากาศสามกิ่ง กิ่งหนึ่งชี้ไปที่แผ่นดินไทย กิ่งสองชี้ไปแผ่นดินลาว กิ่งสามชี้ไปแผ่นดินเขมร นี่คือรากแก้วของ”ต้นไม้มณีโคตร” กิ่งก้านที่ออกจากกิ่งใหญ่ก็คือรากฝอย เหมือนธรรมชาติจงใจสร้างความแปลกพิศดารของ”ต้นไม้มณีโคตร” ให้เกิดขึ้บนโลกใบนี้เพียงต้นเดียว รากเจริญเติบโตไปในอากาศ ลำต้นขยายกิ่งก้านรองรับรากและกอดรัดกับแก่งหินของ”น้ำตกคอนพะเพ็ง” ให้ยืนต้นแบบเอาหัวลง เอารากชี้ฟ้าเป็นมาชั่วนาตาปีที่ไม่มีใครรู้และหลักฐานยืนยันได้ว่า เกิดขึ้นมา ณ ดินแดนแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อใด?






แรกทีเดียวว่าจะควบเจ้าสามล้อ ทรีซิตี้ ออกทริปนี้. จำปาสัก อัตตะปือ เซกองและสาละวัน พอได้วันเดินทางหาเอกสารใบแปลไม่เจอ หลงหลังลืมหน้า นี่คืออาการคนคนชราที่กำลังเริ่มต้น จึงได้เอารถยนต์ออกทริป ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบล อำเภอสิรินธร เข้าลาวที่ช่องเม็ก ที่ด่านตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ไทยบริการได้รวดเร็วและเป็นกันเองดีมาก ประทับใจครับ การตรวจเอกสารรถที่ตู้ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงบอกให้เราไปถ่ายเอกสารหน้าเสียภาษีในคู่มือรถพร้อมสำเนาบัตรประชาชนมาให้แล้วบอกว่า “แป๊บเดียวนะเดี๋ยวหนูจัดการให้ ไปยื่นเอกสารออกของคนก่อน(พาสปอร์ต-รายละเอียดในใบออก-เข้า เมืองไทย) ที่ฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง ที่นี่ก็รวดเร็วยิ้มแย้มแจ่มใสกันเอง ออกมาที่ตู้ตรวจรถ น้องผู้หญิงก็ยื่นเอกสารให้ “เรียบร้อยคะ ออกไปได้ เที่ยวให้สนุกนะคะ” เราก็งงๆ “มีแค่นี้หรือครับเอกสาร” ... “แค่นี้แหละคะ ไปได้เลย”.. “ครับ ขอบคุณครับ” แบบงงๆในความเร็ว เพราะที่ด่านสากลหนองคาย ต้องมีเขียนใบรายละเอียดของรถ รายละเอียดผู้ควบคุมรถ..เอาวะไปแบบงงๆนี่แหละ



มาที่ด่านของลาว การบริการยังถือว่าช้ามาก ตรวจเอกสารเข้าเมืองเสร็จมาที่ฝ่ายภาษีตรวจเอกสารรถเจ้าหน้าที่ก็ถามหาใบรายละเอียดของรถจากฝั่งไทย..แถมบอกเราให้กลับไปขอจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยมา..ดูของคนอื่นซิเขายังมี.."เออ จริงของเธอ" ก็ได้แต่คิดในใจว่า ทำไมต้องเกี่ยวกับเอกสารจากทางไทยด้วย..เลยต้องอธิบายให้เธอรู้ว่า เจ้าหน้าที่ทางไทยให้เอกสารการตรวจรถมาแค่นี้ แล้วการเอารถเข้าลาวทางลาวก็จะดูเฉพาะเล่มคู่มือสีม่วงเท่านั้นเพราะรถคันนี้มีประวัติอยู่ในคอมฯที่ทางลาวออนไลท์ไปทุกๆด่านสากลของลาวอยู่แล้ว เจ๊าตรวจเบิ่งได้ ซอยแนสาว..เธอก็งงๆ บอกบอเคยพ่อจังซี้.. บอเป็นหยังดอกสาว ถ้ามีปัญหามันซิมีตอนเฮาเอารถเข้าประเทศไทย บอเกียวกับทางลาวดอก.....แล้วเธอก็ทำเอกสารให้คนหล่อวัยชราคนนี้จนได้..ทำเสร็จเราก็ซื้อประกันภัยเลยหนึ่งปี 1,500 บาท(อันเก่าหมดอายุพอดี)  ก่อนจะฉลุยเข้าเมืองปากเซ












ถ้าคืนนี้หาที่นอนในปากเซ คงต้องตื่นแต่เช้า เลยตัดสินใจมุ่งหน้าลงไปที่คอนพะเพ็ง หาที่นอนระหว่างทางเอา เพราะลาวในปัจจุบันก็เจริญมากขึ้น ปั้มน้ำมัน และที่พักมีอยู่ตามรายทางเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน


ที่พักที่กิน กลางดงป่าคืนนี้ ได้อาเหวย หนุ่มเจ้าของร้านมาคุยเป็นเพื่อนเพราะสาวๆถูกเจ้าถิ่นเรียกไปหมด






ตื่นแต่เช้าไปเยี่ยมชมด่านสากลที่จะเปิดเชื่อมต่อกับเขมร แล้วแวะบ้านเวินคามสุดแดนลาว










ลักษณะการตั้งเสาเรือนของชาวลาวโบราณก็จะคล้ายๆไทยอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขง เสาเรือนจะตั้งอยู่บนเสาตอม่อโดยไม่มีการยึด นัยว่ากันแรงลมแรงฝนได้ชงัดนัก








เข้าสู่ น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกไนแองกาล่าแห่งเอเชีย และสักการะไม้มณีโคตร จุดหมายหลักของการเดินทางครั้งนี้



























เมืองโขง ถิ่นตำนาน เสียงลำสี่พันดอน
คอนพะเพ็ง ลือชา ชมปลาข่าหางเผือก
น้ำตาลก้อน หอมหวาน บ้านหินสิ่ว
ชมทิวทัศน์หมู่เกาะดอน กินก้อยปลาพอนเมืองโขง



    ต้นไม้มณีโคตร ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้มิ่งเมือง ของชาวเมืองโขง
ทุกๆวัน ในเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมกราคม หลังจากพระอาทิตย์ลับแสง จะมีนกกระยางขาว บินมาจับที่กิ่งก้าน ต้นไม้มณีโคตร จำนวนมากมาย และจะบินออกหากิน เมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้น



    ต้นไม้มณีโคตร ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้มิ่งเมือง ของชาวเมืองโขง
ทุกๆวัน ในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนตุลาคม หลังจากพระอาทิตย์ลับแสง จะมีกาน้ำ(กาดำ) บินมาจับกิ่งก้าน ต้นไม้มณีโคตร จำนวนมากมาย และจะบินออกหากินเมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้น






                กอบกู้ ต้นไม้มณีโคตร ครั้งแรก
ต้นไม้มณีโคตร ได้ล้มลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ในวันที่ 19 มีนาคม 2555 จนกระทั่งวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ได้ถูกกอบกู้ครั้งแรก แต่ไม่สามารถเอาขึ้นมาได้   เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง จึงได้แต่เพียงมัดต้นไม้มณีโคตรไว้ เพือป้องกันไม่ให้ไหลไปกับกระแสน้ำ












  กอบกู้ ต้นไม้มณีโคตร  ครั้ที่ 2
ด้วยความพยายาม ของการนำเอาหลักวิชาการที่ถูกต้อง มาใช้ในการกอบกู้ ต้นไม้มณีโคตร มิ่งขวัยของชาวลาวทั่วประเทศ จึงถูกกอบกู้ขึ้นมาได้  ในวันที่ 13 มกราคม 2556 ท่ามกลางความปิติยินดีของผู้เข้าร่วมและปวงชนชาวลาวทุกทั่วหน้า



แมธทิว ชาวอเมริกา ขอไปลงที่ปากเซ เลยได้เพื่อนคุยงูๆปลาๆ จนถึงปากเซ เราลุยต่อ อัตตะปือ-เซกอง
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวประเทศลาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่