จุดประสงค์หลักในการเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาก็อยากจะเก็บความทรงจำดีๆของสองเราไว้ และ อยากจะมาแบ่งปันเส้นทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (โตเกียว - นาโกย่า) ด้วยตนเองให้สำหรับเพื่อนๆที่มีความสนใจอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี และไม่อยากไปกับทัวร์ อยากอยู่ในที่ที่เราสนใจนานๆ ไม่ต้องจำกัดเวลา จะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้...เราเลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ที่เราเดินทางไปญี่ปุ่นมา เมื่อวันที่ 10-17 พ.ย. 2015 มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
           เริ่มเลยนะคะ.... สำหรับเราเริ่มต้นเลยคือ วางแผน...ตั้งคำถามก่อนว่าเราอยากไปญี่ปุ่น ไปดูอะไร?? อยากไปช่วงไหน?? ฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ หรือฤดูใบไม้ร่วง ชอบแบบไหน ถามตัวเองก่อน ได้คำตอบแล้วก็เริ่มค้นหาสถานที่ที่สวยและที่ที่เราอยากจะไปของช่วงฤดูนั้นเลย....ส่วนเราวางแผนเดือนกันยายน ปรึกษากับแฟนว่าอยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น




           พอได้ช่วงเวลาแล้ว จากนั้นเราก็มาเช็คโปรโมชั่นของสายการบินต่างๆที่จัดโปรฯค่ะ (สำหรับเราคิดว่ายิ่งจองนานๆยิ่งถูก) ซึ่งเราจองตั๋ววันที่ 6 กันยายน แต่เดินทางจริงวันที่ 10 พ.ย. 58 (ราวๆ 2 เดือน) ตอนนั้นก็มีหลายโปรที่สายการบินต่างๆจัดให้มีการจอง ที่เราดูตอนนั้น ราคาโปร อยู่ที่ประมาณ 12,000-13,000 ปลายทางที่สนามบินาริตะ  แต่เราก็ยังไม่โอเครกับราคานี้ เลยโทรเข้าบริษัทที่เขารับจองตั๋วให้ โดยโทรเข้าไปเช็คว่า ช่วงเดือน พ.ย. มีตั๋วถูกที่สุดวันไหนบ้างคะ ทางบริษัทเขาก็เช็คให้ เขาแจ้งมาว่ามีช่วงวันที่ 10 พ.ย. 58 ราคาอยู่ที่ 8,900 บาท ต่อคน (ราคานี้ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า และอาหาร) ซึ่งถ้าโหลดกระเป๋าด้วย ก็เพิ่มอีก 700 บาท ได้ 20 Kg. (ราคาโหลดกระเป๋าเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักค่ะ ex. 25 Kg. ราคา 850.-) และค่าอาหารก็เพิ่มอีก 150 บาทค่ะ/เที่ยวค่ะ

           - ดังนั้น เราได้ราคาตั๋วมา ไป-กลับ (ดอนเมือง-นาริตะ 8,900 บาท + โหลดกระเป๋า 700 + ค่าอาหาร 300 = 10,600 บาท ต่อคนค่ะ)
ซึ่งเป็นราคาที่เราโอเคมากๆ อิอิ แอบดีใจได้ราคาถูก   ปล.เทคนิคเล็กๆน้อยๆนะคะ จะได้ราคาถูกไปอีก (แต่ก็มีราคาที่แอบเห็นถูกกว่านี้อีก อยู่ที่เราจองอีกแหละจ้าว่าจะไปเจอโปรดีๆ ถูกๆอะปล่าวว)  ^^

           - พอเราได้ตั๋วแล้ว เราก็เริ่มวางแผนเที่ยวได้เลยค่ะ โดยเราเริ่มจากอ่านรีวิวของเพื่อนๆที่เขียนรีวิวไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองหลายๆรีวิว และก็มาปรับให้เข้ากับทริปของเราและสถานที่ที่เราอยากไป  จากนั้นก็ศึกษาการขึ้นรถไฟในญี่ปุ่น เส้นทางการเดินรถไฟในญี่ปุ่น ชนิดของรถไฟ และอื่นๆอีกมากมาย เราก็จะมาสรุปให้เพื่อนๆพอสังเขปนะคะ
           - ซึ่งเราได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว เราก็จัดโปรแกรมสำหรับ 7 วัน ของเรา ดังนี้ค่ะ (สำหรับเส้นทางการเดินทางจะรีวิวให้ นะคะ)

- วันที่ 10 /11 / 2015 ----- เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง - สนามบินนาริตะ
- วันที่ 11 /11 / 2015 ----- Tokyo (Ueno - Asakusa - Odaiba)
- วันที่ 12 /11 / 2015 ----- Ameyoko - Ginza - Tokyo Skytree
- วันที่ 13 /11 / 2015 ----- Kawaguchiko (ไปดูภูเขาไฟฟูจิ)
- วันที่ 14 /11 / 2015 ----- Kawaguchiko (อยู่ทะเลสาบ + เที่ยวถ้ำน้ำแข็ง)
- วันที่ 15 /11 / 2015 ----- Tokyo - Nagoya (นั่งชินคันเซ็นข้ามจังหวัด) ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Obara
- วันที่ 16 /11 / 2015 -----  เดินทาง จาก Nagoya กลับเข้า Tokyo - ช้อปปิ้ง
- วันที่ 17 /11 / 2015 ----- เดินทางกลับจาก สนามบินนาริตะ - ดอนเมือง



********* Narita - Tokyo ----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492592
********* Ueno - Asakusa - Odaiba----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492629
********* Ameyoko - Ginza - Tokyo skytree----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492659
********* Kawaguchiko (ใบไม้เปลี่ยนสี - ฟูจิซัง) --->>> http://ppantip.com/topic/34492706
********* Tokyo - Nagoya (obara ใบไม้เปลี่ยนสี + ดอกซากุระ)----->>>>> http://ppantip.com/topic/34494788
********* Nagoya - Tokyo / ช๊อปปิ้งก่อนกลับไทย-->>> http://ppantip.com/topic/34494797




1.  JR Pass


JR pass เราซื้อมา ราคา 8100.- คะ ใช้ได้ 7 วัน จะขึ้นลงรถไฟ สาย JR กี่ครั้งก็ได้ รวมทั้ง รถบัสสาย JR เพียงแสดงบัตรนี้ต่อเจ้าหน้าที่สถานี ก็สามารถเดินทางไปกับรถบัส รถไฟในเครือ JR ได้ไม่จำกัดเลยคะ  (JR pass นี้ เราสามารถซื้อจากประเทศไทยได้อย่างเดียวนะคะ ไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ การซื้อก็ซื้อจากบริษัทที่เขาขายได้ทั่วไป ราคาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทเช่นกันค่ะ และพอเราได้รับเอกสารที่เราซื้อจากบริษัทแล้ว เราก็ถือเอกสารนี้ไปแลกเป็น JR Pass ได้ ตอนที่เราไปถึงสนามบินค่ะ เราก็จะได้เป็นบัตร JR Pass นี้มา เรียกง่ายๆว่าบัตร "เบ่ง" เดินไปไหนก็แค่ยื่นบัตรนี้ แล้วก็เดินผ่านได้เลย อิอิ

    **** ปล. สำหรับผู้ที่เดินทางแค่ในโตเกียว ไม่มีแผนที่จะนั่ง ชินคันเซ็น ข้ามจังหวัดไม่แนะนำให้ซื้อไปค่ะ เพราะว่ามันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะถ้าแค่เดินทางในระยะทางสั้นๆ แนะนำให้ซื้อเป็นรอบดีกว่า ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ แต่สำหรับแผนการเดินทางของเรา มีแผน ที่จะนั่งชินคันเซ็นข้ามจังหวัดด้วย เลยซื้อ JR Pass ไป เพราะ ราคาตั๋วชินคันเซ็นจาก โตเกียว - นาโกย่าก็ 6 พันกว่าเยน แล้ว เราเลยซื้อไปค่ะ




             เราเช่า Pocket wifi ไป 7 วัน ค่าเช่าอยู่ที่ 195.-/วัน 7 วันก็ เท่ากับ  1,365 + ค่ามัดจำ 500.- เราจะได้คืนตอนคืนเครื่อง ค่าเช่า 7 วันก็ เท่ากับ 1,865.- สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ (ปล.ตอนกลับมาทางบริษัทก็โอนเงินมัดจำคืนให้เรียบร้อยแล้วค่ะ)

  ปล. เจ้าตัวเครื่องนี้ หน้าตาจะคล้ายๆแบบนี้ [ขออนุญาติเซฟรูปจาก Google นะคะ] ลืมถ่ายรูปมาค่ะ
  *** เพิ่มเติมนะคะ ตัว Pocket wifi นี้ เราเปิดใช้งานได้สบายๆทั้งวัน เพราะทางบริษัทจะมี ตัวชาจต์ไฟสำรองให้อีก 1 ตัว ไว้สำรองเผื่อแบตหมดคะ ดังนั้นเราสามารถเปิดใช้ได้ทั้งวันเลยค่ะ




สำหรับคนที่นำอุปกรณ์ถ่ายภาพไป ที่เป็นหัวปลั๊กใหญ่ๆ นะคะ สิ่งนี้เราคิดว่าจำเป็นมากเลยค่ะ เพราะตอนที่เราไปไม่ได้นำไป แล้วที่ชาจต์แบตกล้องเราเป็นปลั๊กแบบหัวใหญ่ๆ เราต้องไปหาซื้อเอาที่โน่น เราเลยแนะนำว่า ให้พกไปจากที่ไทยค่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นปลั๊กส่วนใหญ่ เป็นแบบหัวแบนๆ ธรรมดา

หลังจากที่เราเตรียมอุปกรณืครบแล้ว เราก็พร้อมไปลุย ญี่ปุ่นกันเล้ยยยย

*********วันที่ 1 Narita - Tokyo ----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492592
*********วันที่ 2 Ueno - Asakusa - Odaiba----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492629
*********วันที่ 3 Ameyoko - Ginza - Tokyo skytree----->>>>> http://ppantip.com/topic/34492659
*********วันที่ 4 Kawaguchiko (ใบไม้เปลี่ยนสี - ฟูจิซัง) --->>> http://ppantip.com/topic/34492706
*********วันที่ 5 Tokyo - Nagoya (obara ใบไม้เปลี่ยนสี + ดอกซากุระ)----->>>>> http://ppantip.com/topic/34494788
*********วันที่ 6 Nagoya - Tokyo / ช๊อปปิ้งก่อนกลับไทย-->>> http://ppantip.com/topic/34494797