วันนี้ผมลองเปรียบเทียบสเปคของอุปกรณ์พกพาที่กำลังเป็นที่สนใจของตลาด ตัวเด่นของ 2 ค่าย คือ iPad Pro กับ Surface Pro 4 i5 เนื่องจากมีราคาใกล้เคียงกัน (ผมขอข้ามรุ่น iPad Pro 32GB และ Surface Pro 4 Core m เนื่องจากราคากับประสิทธิภาพไม่เหมาะสมกัน) เราลองมาดูว่าต่างสเปคของ Smart Device ทั้ง 2 ตัว ตัวไหนมีข้อดีหรือเด่นกว่ากันครับ
http://www.hitdee.com/
ตามสเปคสีที่ผมทำสีส้นไว้คือข้อเด่นของแต่ละคุณสมบัติครับ
ข้อดีของ iPad Pro เมื่อเปรียบเทียบกับ Surface Pro 4 i5
- น้ำหนักเบากว่า 73 กรัม ถือว่าเยอะพอสมควรครับ
- หน้าจอใหญ่กว่า 0.6 นิ้ว ไม่มาเท่าไร และความหนาแน่นของพิกเซลน้อยกว่านิดๆ (264ppi กับ 267ppi)
- กล้องถ่ายรูปแม้ดูสเปคด้อยกว่า แต่กล้องของ Tablet ยังกิน iPad ไม่ได้
- ลำโพง ใส่มา 4 ตัว เสียงดังรอบทิศทาง ชนะเลิศ
- ระบบเซ็นเซอร์ต่าง มีเยอะกว่า และมี Touch ID ด้วย
- Bluetooth 4.2 เทคโนโลยีใหม่กว่า
- ราคาเครื่องเปล่าๆ ถูกกว่า 3,000 บาท
- ปากกา (Pencil) ดีกว่า เขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
– ระยะเวลาการใช้งานเล่นเว็บ ดูวีดีโอ iPad Pro ได้ 10 ชั่วโมง Surface Pro 4 ได้ 9 ชั่วโมง
- แอฟต่างๆ แถมมาให้เยอะกว่า (แอฟ office ต่างๆ ของ iPad ก็มีมาด้วย) และที่มีในสโตร์ก็มีอีกมาก
ข้อดีของ Surface Pro 4 i5
- ขนาดตัวเครื่องเล็กกว่านิดๆ แต่ตัวเครื่องหนากว่าหน่อยๆ แต่ก็ถือว่าบาง
- ระบบปฏิบัติการ OS เป็น Windows 10 Pro ใช้งานได้เหมือน PC คอมพิวเตอร์ทั่วไปได้เลย
– CPU และ GPU เป็น intel i5-6300U เป็น i5 ตัวใหม่ Gen 6 ประสิทธิภาพดีและประหยัดพลังงานขึ้น ใช้ทำงานเกี่ยวกับงานประมวลผลได้ดี เพราะ Cpu แรงระดับ 3Dmark 4000 คะแนน แต่ Apple A9x ความเร็ว 2.26 GHz ทำคะแนนได้ดีกว่า Macbook Air แต่ก็ยังเป็นรอง intel i5-6300u หน่อยๆ ครับ
- Port การเชื่อมต่อเยอะไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 , Mini Display (HDMI) และ microSD สำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ดีจริง
- อุปกรณ์เสริมถูกกว่า ไว้ว่าจะเป็น Pen (1,790 บาท) Cover Keyboard (5,190 บาท) และเมื่อซื้อเครื่องรวมอุปกรณ์ทั้งหมด (ถ้าซื้อมาใช้จริงกว่าต้องซื้อหมดไม่รู้จะแยกขายทำไม) ก็ถูกกว่า 2,410 บาท
- แอฟ (ไฟล์ .exe) เกี่ยวกับการใช้งานที่ใช้รวมกับเครื่อง PC เยอะมาก และใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา
สรุป
1. iPad Pro ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวตรงกว่าระหว่าง Macbook กับ iPad (ทิม คุ๊ก บอกว่า iPad Pro จะมาแทนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานมากขึ้นกว่า iPad (iPad เหมาะกับความบันเทิง เกมส์ เป็นหลัก) แต่ iPad Pro สามารถนำไปใช้งานเกียบกับการออกแบบดีไซน์ งานเอกสาร (Office) งานนำเสนอ แต่ก็สามารถใช้งานความบันเทิง และเกมส์ ได้เหมือนเดิมครับ และ ที่สำคัญ AppStore มีแอฟดีๆ ให้โหลดเยอะมากครับ
2. Surface Pro 4 i5 ออกแบบมาเพื่อใช้งานแทนโน๊ตบ็ค (Laptop) จอสัมผัสได้และมีน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปได้ทุกที และมี Windows Store ไว้ลงแอฟ ที่เกี่ยวกับการใช้งานจอสัมผัส แต่แอฟยังน้อยกว่า (น้อยกว่าเยอะ) จึงยังไม่เป็นที่นิยม แต่จุดเด่นของ Surface Pro คือการใช้งานได้เหมือน Pc แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊ค และมีพอร์ท (Port) ที่เชื่อมต่อเยอะกว่า (USB3.0 , HDMI , microSD) ดังนั้น Surface Pro เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในการประมวลผลข้อมูล , ตัดต่อวิดีโอ , โปรแกรม Adobe , Microsoft Office และลงเกมส์ Pc (ปรับคุณภาพระดับ ต่ำ และ กลางในบางเกมส์ได้)
3. สุดท้ายนี้ผมสินค้าทั้งสองตัวมีข้อดีข้อเด่นไม่เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะซื้อมาใช้ทำอะไรถ้าซื้อมาเพื่อความบันเทิงเป็นหลักก็ iPad Pro และถ้าซื้อมาเพื่อทำงานเป็นหลักก็ Surface Pro 4 ครับ
หมายเหตุ : ขอบคุณที่ช่วยอ่านจนจบครับ (เป็นความเห็นส่วนตัวของตัวผู้เขียนครับ)
แบทเทิล iPad Pro กับ Surface Pro 4 ใครดีใครเด่น
วันนี้ผมลองเปรียบเทียบสเปคของอุปกรณ์พกพาที่กำลังเป็นที่สนใจของตลาด ตัวเด่นของ 2 ค่าย คือ iPad Pro กับ Surface Pro 4 i5 เนื่องจากมีราคาใกล้เคียงกัน (ผมขอข้ามรุ่น iPad Pro 32GB และ Surface Pro 4 Core m เนื่องจากราคากับประสิทธิภาพไม่เหมาะสมกัน) เราลองมาดูว่าต่างสเปคของ Smart Device ทั้ง 2 ตัว ตัวไหนมีข้อดีหรือเด่นกว่ากันครับ http://www.hitdee.com/
ตามสเปคสีที่ผมทำสีส้นไว้คือข้อเด่นของแต่ละคุณสมบัติครับ
ข้อดีของ iPad Pro เมื่อเปรียบเทียบกับ Surface Pro 4 i5
- น้ำหนักเบากว่า 73 กรัม ถือว่าเยอะพอสมควรครับ
- หน้าจอใหญ่กว่า 0.6 นิ้ว ไม่มาเท่าไร และความหนาแน่นของพิกเซลน้อยกว่านิดๆ (264ppi กับ 267ppi)
- กล้องถ่ายรูปแม้ดูสเปคด้อยกว่า แต่กล้องของ Tablet ยังกิน iPad ไม่ได้
- ลำโพง ใส่มา 4 ตัว เสียงดังรอบทิศทาง ชนะเลิศ
- ระบบเซ็นเซอร์ต่าง มีเยอะกว่า และมี Touch ID ด้วย
- Bluetooth 4.2 เทคโนโลยีใหม่กว่า
- ราคาเครื่องเปล่าๆ ถูกกว่า 3,000 บาท
- ปากกา (Pencil) ดีกว่า เขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
– ระยะเวลาการใช้งานเล่นเว็บ ดูวีดีโอ iPad Pro ได้ 10 ชั่วโมง Surface Pro 4 ได้ 9 ชั่วโมง
- แอฟต่างๆ แถมมาให้เยอะกว่า (แอฟ office ต่างๆ ของ iPad ก็มีมาด้วย) และที่มีในสโตร์ก็มีอีกมาก
ข้อดีของ Surface Pro 4 i5
- ขนาดตัวเครื่องเล็กกว่านิดๆ แต่ตัวเครื่องหนากว่าหน่อยๆ แต่ก็ถือว่าบาง
- ระบบปฏิบัติการ OS เป็น Windows 10 Pro ใช้งานได้เหมือน PC คอมพิวเตอร์ทั่วไปได้เลย
– CPU และ GPU เป็น intel i5-6300U เป็น i5 ตัวใหม่ Gen 6 ประสิทธิภาพดีและประหยัดพลังงานขึ้น ใช้ทำงานเกี่ยวกับงานประมวลผลได้ดี เพราะ Cpu แรงระดับ 3Dmark 4000 คะแนน แต่ Apple A9x ความเร็ว 2.26 GHz ทำคะแนนได้ดีกว่า Macbook Air แต่ก็ยังเป็นรอง intel i5-6300u หน่อยๆ ครับ
- Port การเชื่อมต่อเยอะไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 , Mini Display (HDMI) และ microSD สำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ดีจริง
- อุปกรณ์เสริมถูกกว่า ไว้ว่าจะเป็น Pen (1,790 บาท) Cover Keyboard (5,190 บาท) และเมื่อซื้อเครื่องรวมอุปกรณ์ทั้งหมด (ถ้าซื้อมาใช้จริงกว่าต้องซื้อหมดไม่รู้จะแยกขายทำไม) ก็ถูกกว่า 2,410 บาท
- แอฟ (ไฟล์ .exe) เกี่ยวกับการใช้งานที่ใช้รวมกับเครื่อง PC เยอะมาก และใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา
สรุป
1. iPad Pro ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวตรงกว่าระหว่าง Macbook กับ iPad (ทิม คุ๊ก บอกว่า iPad Pro จะมาแทนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานมากขึ้นกว่า iPad (iPad เหมาะกับความบันเทิง เกมส์ เป็นหลัก) แต่ iPad Pro สามารถนำไปใช้งานเกียบกับการออกแบบดีไซน์ งานเอกสาร (Office) งานนำเสนอ แต่ก็สามารถใช้งานความบันเทิง และเกมส์ ได้เหมือนเดิมครับ และ ที่สำคัญ AppStore มีแอฟดีๆ ให้โหลดเยอะมากครับ
2. Surface Pro 4 i5 ออกแบบมาเพื่อใช้งานแทนโน๊ตบ็ค (Laptop) จอสัมผัสได้และมีน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปได้ทุกที และมี Windows Store ไว้ลงแอฟ ที่เกี่ยวกับการใช้งานจอสัมผัส แต่แอฟยังน้อยกว่า (น้อยกว่าเยอะ) จึงยังไม่เป็นที่นิยม แต่จุดเด่นของ Surface Pro คือการใช้งานได้เหมือน Pc แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊ค และมีพอร์ท (Port) ที่เชื่อมต่อเยอะกว่า (USB3.0 , HDMI , microSD) ดังนั้น Surface Pro เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในการประมวลผลข้อมูล , ตัดต่อวิดีโอ , โปรแกรม Adobe , Microsoft Office และลงเกมส์ Pc (ปรับคุณภาพระดับ ต่ำ และ กลางในบางเกมส์ได้)
3. สุดท้ายนี้ผมสินค้าทั้งสองตัวมีข้อดีข้อเด่นไม่เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะซื้อมาใช้ทำอะไรถ้าซื้อมาเพื่อความบันเทิงเป็นหลักก็ iPad Pro และถ้าซื้อมาเพื่อทำงานเป็นหลักก็ Surface Pro 4 ครับ
หมายเหตุ : ขอบคุณที่ช่วยอ่านจนจบครับ (เป็นความเห็นส่วนตัวของตัวผู้เขียนครับ)