[CR] Backpack ตะลุยสวนผึ้ง เที่ยวสบัยใจสบายเป๋า 4 คน 3 วัน 2 คืน ด้วยงบ 1000 บาท

ทริปนี้เป็นทริปแรก การเขียนรีวิวครั้งแรกของพวกเรา มีอะไรตกหล่น รูปน้อย หรือผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ขอเกริ่นก่อนครับว่า ทำไมต้องไปเที่ยวราชบุรี? เพราะไม่ได้ไกลจากกรุงเทพสักเท่าไรมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายนะครับ และที่สำคัญ คนราชบุรีใจดีมากๆๆๆๆๆๆ
โดยคอนเซปของเราคือ เที่ยวสบัยใจสบายเป๋า
โบกรถกี่ครั้งก็จะมีแต่รถป้ายทะเบียน ราชบุรี ครับที่จอดรับ ทริปนี้ไม่ได้แตะ Google map เลยครับ  
คนราชบุรีจะบอกเสมอว่า ”ว่างก็มาเที่ยวบ่อยๆนะยินดีต้อนรับ” ซึ่งประทับใจมากครับ

30 ต.ค. 58
-------------------------------------------------------------------------------------------------
วันแรกของการเดินทาง พวกเรานัดเจอกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพงครับ โดยนั่งเป็นรถไฟฟรีรอบ 9.25 น.
กว่าจะไปถึงที่หมาย ตามกำหนดการแล้วจะต้องถึงประมาณ 11.43 แต่ว่าไปถึงก็เที่ยงนิดๆ จากนั้นเราก็แวะหาร้านข้าวแถวๆนั้นกินก่อนออกเดินทางต่อกันซักหน่อย



หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วพวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ โดยจากที่เราหาข้อมูลกันมาจะมีรถตู้ไปยังจอมบึงอยู่บริเวณโลตัส  พวกเราก็เลยต้องถามทางคนละแวกนั้นไปเรื่อยๆ ก็สรุปได้ว่า ต้องเดินไปยังโรงเรียนนารีวิทยา ตรงข้ามจะเป็นมินิมาร์ท และมีซอยอยู่
โรงเรียนนารีวิทยา

ตรงข้ามมีซอยข้างซุปเปอร์มาร์เก็ต
ให้เข้าไปเรื่อยๆ จะมีทางแยก ให้เลี้ยวขวาแล้วจะเจอโลตัสอยู่ตรงข้ามครับ ให้ข้ามมาฝั่งโลตัสแล้วเดินไปตามทางฝั่งขวาเรื่อยๆ จะพบกับสี่แยกไฟแดง ให้เดินข้ามถนนแล้วตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอกับท่ารถตู้ราชบุรี-จอมบึงข้างที่ทำการไปรษณีย์ ค่าโดยสาร 25 บาท ออกเป็นรอบ รอบละ 40 นาที  ขึ้นโลดดด

บริเวณสี่แยกไฟแดง

ท่ารถตู้ราชบุรี-จอมบึง
เวลาประมาณ 15.00  มาลงที่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏจอมบึง

เริ่มถามทางชาวบ้านกันต่อเกี่ยวกับเส้นทางการไป อ.สวนผึ้ง เพราะกลัวว่าจะเข้าที่พักดึก จนทราบมาว่ามีรถประจำทางไปยังอำเภอสวนผึ้ง ทีนี้พอรู้ว่ามีรถไปแน่ๆ  ก็เลยขอแว่บไปเที่ยวแถวๆนั้นก่อน ซึ่งก็คือถ้ำจอมพล ก่อนเข้าจะต้องจ่ายเข้าชมถ้ำ 10 บาทแล้วเค้าจะถามด้วยว่าต้องการไกด์แนะนำด้านสถานที่หรือเปล่า  ซึ่งไกด์ก็เป็นสาวน้อยน่ารักตัวเล็กๆครับ แต่กลุ่มของเราอยากเดินเล่นด้วยตัวเองมากกว่า เลยปฏิเสธไปครับ ด้านในถ้ำก็จะรู้สึกอากาศน้อย มืด อับชื้น และมีกลิ่นพอสมควร  เดินก็เดินได้เพลินๆครับ สงบดี  เมื่อมาถึงด้านในก็จะพบกับพระพุทธรูป  องค์พระต่างๆเรียงราย  มีแสงส่องลอดถ้ำผ่านช่องเล็กๆ

ถ้ำจอมพล



บรรยากาศด้านใน
หลังจากนั่งพักกันหายเหนื่อยแล้ว เราก็ได้ออกมาโทรถามที่พักที่ได้จองไว้ (เรื่องที่พักแนะนำให้จองล่วงหน้าครับ ถ้าไม่มีรถส่วนตัว) ว่าจะเดินทางเข้าไปยังที่พักได้ยังไง ปรากฏว่าเจ้าของที่พักบอกว่าการเดินทางมายังที่พักต้องมีรถส่วนตัวเข้ามา เพราะเส้นทางค่อนข้างลึก  ถึงตอนนี้พวกเราก็เหวอกันเบาๆครับ เพราะทริปครั้งนี้เราหาข้อมูลกันมาน้อย ตอนที่จองที่พักก็ไม่ได้ถามเรื่องการเดินทางให้ละเอียด  แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างครับ เจ้าของที่พักเขาบอกว่าออกมารับได้ เขาถามว่ามากันกี่คน ให้ลงที่บ้านหอมเทียนแล้วรอพี่ เดี๋ยวมารับได้ ไม่ไกลๆ  (ใจดีมากกกกกกก)
พวกเราก็ไม่รอช้าครับ ขึ้นรถประจำทางบริเวณหน้ามหาลัยราชภัฏจอมบึงไปยังบ้านหอมเทียน
ค่าโดยสาร 50 บาท  เวลาประมาณ 16.15 มาถึงบ้านหอมเทียน เราก็รอพี่เขามารับเข้าไปยังที่พักครับ  ระหว่างทางพี่เขาก็ใจดีแวะเซเว่นให้ เพราะแถวที่พักไม่มีร้านขายของ  พี่เขาก็ถามด้วยว่าพรุ่งนี้จะไปไหนต่อ พวกผมก็บอกว่าจะโบกรถไปน้ำตกเก้าโจนกันครับ พี่เขาก็บอกว่าไปส่งในอ.สวนผึ้งได้นะ เพราะเขาต้องออกไปทำธุระพอดี   พวกเราก็ขอบคุณพี่เขาครับ ใจดีมากๆ อาจจะเพราะเห็นพวกเราเป็นนักศึกษากันด้วย

นั่งรถประจำทางไปบ้านหอมเทียน

ถนนเข้าไปยังที่พัก ค่อนข้างลึกเหมือนกันครับ
มาถึงที่พักกันแล้ววว ได้เวลาพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้    สำหรับคนที่สนใจ สามารถติดต่อได้เพิ่มเติมตามเบอร์โทรนี้เลยครับ  081-3120392  (วัฒธนชัย)
รูปบรรยากาศที่พักเพิ่มเติมครับ





วันที่ 2
-----------------------------------------------------------------------------------------------

ตื่นมาพร้อมกับเช้าอันสดใส พวกเราติดรถพี่เขาออกจากที่พักเวลา 9.30 น. ครับ ไปลงที่ตัวอำเภอสวนผึ้ง  แวะกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดแถวนั้นซักหน่อย  ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการโบกรถ

ร้านก๋วยเตี๋ยว
ยอมรับเลยว่าโบกรถแรกๆรู้สึกแปลกๆครับ แดดก็ร้อน เดินไปตามทาง โบกรถไปเรื่อยๆ  จนมีรถคันนึงจอดรับเราครับ ตอนนั้นดีใจกันมาก อารมณ์ประมาณว่าในที่สุดก็สำเร็จแล้ว โบกรถครั้งแรก  โดยรถคันนั้นเป็นคุณลุงกับคุณป้า เขาถามว่าจะไปไหนกัน มาเที่ยวกันใช่ไหม พวกเราก็บอกว่าใช่ครับ จะไปน้ำตกเก้าโจน เขาก็ปรึกษากันแปบนึงเหมือนคุณป้าจะคุยกับคุณลุงว่ามันอ้อมไกลนะ จะไปเหรอ แต่สุดท้ายแล้วคุณลุงก็ตกลงพาไปครับ


มาถึงน้ำตกเก้าโจนเวลา 11.15 น. พวกเราก็แวะถ่ายรูป ซื้อไก่ย่างข้าวเหนียวขึ้นไปทานกันบนน้ำตก (เสื่อฟรี)  ค่าเข้าน้ำตก 10 บาท  เราก็เดินชมวิว ถ่ายรูปไปตามประสา  จนมาถึงบริเวณชั้น 3 ก็ตกลงกันว่า เอาล่ะ เราจะกินไก่ย่างข้าวเหนียวกันตรงนี้แหล่ะ บรรยากาศตอนนั้นแดดไม่มี เอาเท้าแช่น้ำเย็นๆ กินไก่ย่างข้าวเหนียว บอกเลยว่าฟินจนลืมเวลาครับ รู้ตัวอีกทีก็ประมาณ 13.15 น.แล้ว


ตั๋วเข้าน้ำตกครับ


ตรงนี้เป็นทำเลที่เราจะสร้างแลนมาร์กกันครับ




ตอนนี้ขึ้นไปชั้นสูงๆก็กลัวจะกินเวลา สุดท้ายก็เลยขึ้นไปแค่ชั้น 4 แล้วลงมาเตรียมโบกรถไปยังสถานที่ต่อ
ไป นั่นก็คือ ซินเนอรี่รีสอร์ท เราเดินมาโบกรถกันบริเวณลานจอดรถ แล้วก็เจอพี่ใจดีให้ติดรถไปได้ แต่พี่เค้าบอกว่าไปไม่ถึงนะ พวกผมก็โอเคกันครับ ไปโบกต่อเอาดาบหน้าแล้วกัน  พี่เขามาส่งบริเวณ 3 แยกก่อนไปถึงซินเนอรี่รีสอร์ท  พวกผมก็โบกรถต่อไปอีกจนในที่สุด เวลา 14.30 ก็ถึง ซินเนอรี่รีสอร์ท ซะที  ค่าเข้าทั้งหมด 50 บาทครับ ได้คูปองสำหรับซื้อของด้านในมาด้วย  เมื่อเข้ามาจะพบกับรีสอร์ทที่ตกแต่งสวยงาม และแล้วก็ไม่พลาดที่จะชมไอศกรีมนมแกะกันครับ ใช้คูปองซื้อ 2 ฟรี 1  รสชาติเรียกได้ว่าโอเคเลย ส่วนตัว จขกท. ชอบนะครับ แต่เห็นเพื่อนบอกคาวๆหน่อย  เมื่อทานเสร็จก็จะไปให้อาหารแกะต่อ แต่ระหว่างทางที่จะเดินไปฟาร์มแกะ ก็ได้เจอกับกองถ่ายละครเรื่องอะไรไม่ทราบเหมือนกันครับ มี
อั้มอธิชาติ กับ พีท พชร อยู่ด้วย ก็แวะดูอยู่ซักครู่ แล้วก็วกกลับมายังภารกิจหลักของเรา นั่นคือให้อาหารแกะครับ

ด้านหน้าของซินเนอรี่รีสอร์ท







เมื่อเที่ยวกันอิ่มแล้ว ต่อมาก็ได้เวลาเข้าไปยังที่พักแล้ว โดยวันนี้เราจะไปกางเต้นท์กันที่ Sky Hill อยู่ใกล้ๆกับไร่องุ่นปัญญาสวรรค์  
เราก็มาโบกรถกันที่หน้า ซินเนอรี่รีสอร์ท กันครับ แล้วก็มีคนพาไปส่งบริเวณหน้าภูผาผึ้งรีสอร์ทซึ่งเป็นสามแยกอีกแล้ว ไม่เป็นไรครับ เราไม่ย่อท้อ โบกต่อไปคราวมีอะไรตลกๆนิดหน่อย คันที่รับเราเนี่ย ตอนแรกเค้าขับเลยเราไปแล้วประมาณ 50 เมตร แต่อยู่ดีๆก็วนกลับมารับ เล่นเอาผมกับเพื่อน งง เบาๆ แล้วก็แซวกันว่า เป็นเพราะเพื่อนผมหล่อล่ะมั้ง  ที่แซวแบบนี้เพราะรถคันนั้นเป็นผู้หญิงทั้งคัน 555.

ภูผาผึ้งรีสอร์ท
แต่พี่ผู้หญิงกลุ่มนี้เค้าก็บอกว่าไปส่งไม่ถึงอีกเช่นเคย เค้าไปแค่วัดช่องลม2 พวกผมก็ไปครับ ถือโอกาสเที่ยวซะหน่อย  ตัววัดเหมือนยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีครับ แต่รูปปั้นที่นี่สวยมาก


มาโบกรถกันต่อ คราวนี้เจอรถที่ไปส่งเราที่ซอยทางเข้าไร่องุ่นแล้วครับ

ถึงไร่ปากซอยเข้าไร่องุ่นเวลา 17.20 เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ถ้าเจอทางแยกก็เลี้ยวซ้ายตรงร้านสเต็ก แล้วเดินไปจนเจอ ป้าย Sky Hill  ที่พักจะอยู่ด้านซ้ายมือนี่เอง

แล้วเราก็ไปเดินเที่ยวชมไร่องุ่น นั่งทานมื้อเย็นกัน แล้วก็พักผ่อน คุยกันตามอัธยาสัย แล้วก็หาทำเล
กางเต้นท์ครับ








รูปบริเวณที่พัก

กางเต้นท์กันตรงนี้แหล่ะ

บรรยากาศยามค่ำคืน
ชื่อสินค้า:   ราชบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่