สวัสดีคะเพื่อนๆชาวพันทิป ก่อนอื่นเลยเราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะมาแบ่งปันปัญหาชีวิตต่างๆด้านความรักและหลายๆอย่างให้ฟัง(เรียกง่ายๆระบายแหละเพราะพูดกับใครไม่ค่อยได้555) เราขอแท็กห้องนิยายไว้ด้วยเลยเผื่อใครไม่เชื่อก็คิดสะว่ามาฟังนิทานละกันเนอะเราไม่คิดมาก ^^
เข้าเรื่องเลยละกันนะ เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงสมมุติให้ชื่อว่า อิง แล้วกัน เรากับอิงสนิทกันมาตั้งแต่เราสองคนเรียนปฐมตอนนี้เราเรียนจบปริญญาตรีแล้ว พ่อแม่อิงกับพ่อแม่เรารู้จักกันและค่อนข้างสนิทกัน แต่เราไม่รู้เรื่องของอิงเลยเอาง่ายๆว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องของอิงเท่าไรสนใจแค่วันนี้เราจะทำอะไรกินอะไรเที่ยวที่ไหนอิงรู้สึกยังไงประมาณว่าแคร์แค่ความรู้สึกไม่สนเเรื่องส่วนตัว เรากับอิงสอบเข้าโรงเรียนตอนมอปลายด้วยกันตอนนั้นปิดเทอม ม.4 อิงชวนเราไปบ้าน บ้านอิงอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไรแต่ก็ไกลอยู่ดี 5555 เราก็เอะใจว่าทำไมมันชวนไปบ้านวะปกติเลิกเรียนกินข้าวละก็กลับบ้านตลอดไม่เคยไปบ้านมันเท่าไรมีแต่มันส่วนมากมาค้างที่บ้านเราบ้างมันบอกว่าที่มาค้างมาอ่านหนังสือสอบ10% อีก 90% มาส่องพี่ชายเรา ลืมบอกไปคะเรามีพี่สาวหนึ่งคนเป็นพี่คนโตสุดและมีพี่ชายอีกสองคนซึ่งเป็นผู้ที่สาวกรี๊ดเพราะนางเรียนหมอทั้งคู่เพื่อนๆเราก็ต่างพากันแย่งกันเป็นพี่สะใภ้เราคือพวกมันมโนล้วนๆ เราเป็นลูกคนเล็กพ่อและแม่ค่อนข้างตามใจแต่เราก็ไม่ได้เสียคนคะ ตามใจอย่างมีเหตุผล พอถึงบ้านเราก็สวัสดีพ่อแม่อิงที่กำลังจัดบ้านใหม่อยู่ทุกคนแลวุ่นวายกับการจัดบ้านมากๆ เราก็สงสัยอ้าวนังอิงที่แกให้ชั้นมาเนี้ยมาช่วยแกจัดบ้านใช่ไหมวะหลอกใช้งานตรูหนิหว่าา
เรา : อิงแกให้ชั้นมาบ้านแกทำไมวะ มาช่วยจัดบ้านหรอ
อิง : บ้าบอ วันนี้บ้านชั้นมีกินเลี้ยงต้อนรับพี่ชายชั้นโว้ยเนี้ยพ่อแม่กำลังจัดห้องให้พี่อยู่
เราสตั๊นไปสิบวิเลยคะ เห้ยมีพี่ชายด้วยหรอวะทำไมเราไม่รู้พอมานึกๆดูอีกทีอ้าวเราเองที่ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัวและเรื่องส่วนตัวมันเห็นมันไม่เคยพูดถึงเลยไม่ได้ถามนี่คบกันมาตั้งกี่ปีพึ่งจะรู้เนี้ยแหละ
เรา : อ้าวแกมีพี่ชายด้วยหรอวะ ไม่เห็นพูดถึงละเขาไปไหนอะ
อิง : ไปอยู่กับอาที่เชียงใหม่นานแล้วแหละไม่ได้กลับมาบ้านเลยเพราะพวกชั้นจะไปหาพี่เองตลอดทุกเทศการ
อ๋อถึงว่าทำไมมันหายไปบ่อยๆเราก็นึกว่าตามแม่พ่อไปทำงานด้วยเพราะไม่กล้าอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะกำลังจะถามมันก็ดันเอาของฝากมาให้ก่อนตล๊อดเราก็ไม่ถามต่อเลย555555555555555
เรา : ละมีไรให้ช่วยปะแก เราค่อนข้างเป็นคนขี้เกรงใจคะมายืนหายใจบ้านมันก็เกรงใจแล้ว ฮิฮิ
อิง : ไม่มีหรอกแก ไปล้างหน้าล้างตาเถอะหน้ามันทอดไก่ได้แล้วเดี๋ยวพี่ชั้นก็มาถึงแล้วพ่อแม่ก็จะจัดเสร็จแล้วแหละ
พอสักประมาณทุ่มกว่าเราก็ลงมาจากข้างบนโต๊ะอาหารก็จัดเสร็จสวยงามแล้ว ทุกคนเตรียมตัวนั่งเราก็กำลังจะนั่งตาก็มองหาพี่ชายเพื่อนก็ไม่เห็นมีหนิหว่านี่ทุ่มกว่าแล้วนะ หรือเขาไม่มาเเล้วเครื่องบินดีเลย์(ขึ้นเครื่องมาคะ) จริงๆแค่อยากเห็นหน้าว่าจะสู้พี่ชายสุดหล่อทั้งสองของเราได้ป่าววว (แอบหลงพี่ชายตัวเองแปบบ) ไม่เกินห้านาทีมีคนมาเราก็มองคะปรากฏว่าแม่กะพ่อเรานั่นเอง เรานี่อึ้งกิมกี่เลยตอนเย็นๆเราโทรบอกพ่อว่ามาบ้านอิงแต่พ่อก็ไม่ได้พูดอะไรแค่รับรู้และวางไป แต่ท่านพ่อและท่านแม่มากันครบ พ่อแม่เรากับพ่อแม่อิงก็ทักทายตามภาษาคนสนิทกันจริงๆก็พึ่งมาสนิทกันตอนเราอยู่มอต้นเพราะเรากันอิงเป็นเพื่อนกันนานแต่แม่เรากะแม่อิงคุยกันถูกคอเลยสนิทกันส่วนพ่อก็คุยแต่เรื่องธุรกิจกันก็เลยสนิทกัน ไม่นานพี่ชายอิงก็ปิดประตูเข้ามาทุกสายตาก็มองไปที่พี่เขา โอโห้ คือหล่อปังมาก ขาวปากแดงทำเอาใจสั่นเลย พี่เขาสวัสดีพ่อแม่เขาและพ่อแม่เราและหันมาทักอิงผู้เป็นน้องเสร็จละก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้เตรียมตัวกินข้าว แต่เดี๋ยว ! พี่คะแล้วหนูละ หนูอุตส่ายกมือไหว้แต่พี่แกหันหน้าไปพอดีเรานี่ยกมือเก้อเลย คือตอนนั้นความรู้สึกคือหน้าแตกโมโห แอบด่าในใจ โถ้วคิดว่าหล่อมากหรอวะสู้พี่ชายชั้นก็ไม่ได้เชอะะะะะะ เราก็ได้แต่กินเงียบๆฟังผู้ใใหญ่เขาคุยกะพี่แกไปจับใจความได้ว่าอาจะต้องย้ายไปอยู่อีกประเทศเพื่อตามสามีไปแต่เป็นห่วงพี่เขาเลยให้กลับมาอยู่กับพ่อแม่พี่เขาก็อยากกลับมาอยู่แล้วเลยกลับมา แล้วพี่เขาต้องมาเรียนต่อที่กรุงเทพต่อในระดับ ม.6 พอกินข้าวเสร็จเราก็กลับบ้านกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็ชมพี่เขาตลอดน่าตาหล่อเหลาใช้ได้ เรียนก็เก่งนี่เข้าโรงเรียนได้สบายๆเลย พอเรากลับบ้านก็อาบน้ำนอนเพราะเราต้องเรียนพิเศษทุกวัน เช้าเราก็ไปเรียนตามปกติไปประมาณเกือบสองอาทิตย์เรากะอิงเรียนคนละห้องและห้องเดียวกันบางวิชาแต่ช่วงที่ผ่านมาสองอาทิตย์เราไม่ได้เจออิงเลยไปเรียนคนเดียวตลอดกลับก็ดึกบางวันแต่โชคดีวันที่เลิกดึกพี่ชาย(ให้พี่ชายคนแรกชื่อภูมิ คนที่สองชื่อภูละกันเนอะ) พี่ภูกลับจากมอดึกบางวันก็มารับเราบ้างทำเอาหลายๆคนอิจฉาตาร้อนกันไป เรื่องมันเริ่มตรงนี้ วันนี้เราก็ไปเรียนตามปกติพอเลิกเรียนวันนั้นเราอยากกินชาบูเราเลยไปห้างแต่การไปกินคนเดียวมันเขินๆไงไม่รู้เราเลยโทรชวนอิงแต่นางไม่รับเลยอารมณืนั้นคือโมโหหิวมากคือแกตายห่าหรือไงวะ เลยตัดสินใจไปกินคนเดียวพอเราไปถึงหน้าร้านชาบูเราก็สะดุดกับผู้ชายคนนึงหน้าคุ้นๆพอนึกออกว่าใครนี่เราแทบเบ้ปากใส่เลยพี่ชายเพื่อน เราก็เดินผ่านไปแบบไม่มองเลยคือเราเคืองมากๆเราเดินสวนกันพี่เขาก็หันมามองเรางงๆนิดนึงจนเดินสวนกันไปไกลแล้ว เราก็เดินต่อไปเรื่อยๆกำลังลงบรรไดเลื่อนก็มีมือมาวางที่บ่าเราเลยหันไปมอง
พี่เขา : เห้ยน้องหวัดดีจำพี่ได้ไหมครับ พี่เป็นพี่ชายอิงไง
เราก็รู้แล้วแต่เราคิดถึงเรื่องนั้นมันโกธรจริงๆ
เรา : คะ
พี่เขา : คะ นี่คือจำพี่ได้ไหมครับหืมม
เรา : ไม่ได้คะ พี่เป็นใครคะทักคนผิดแล้วคะ ยิ้มให้แล้วเดินจากไป
พี่เขาก็ทำหน้างงๆแล้วเดินตามมาถามเราต่อ
พี่เขา : โอ๋น้อง พีช (ขอสมมุติชื่อเราว่าพีชคะ) นี่โกธรที่พี่ไม่รับไหว้แบบจริงจังใช่ปะเนี้ย
เราก็แบบเห้ยรู้ได้ไงวะ คิดออกเลยนังอิง ไม่น่าพลาดเล่าให้มันฟังเลยโอโห้นี่คือเสียหน้ายิ่งกว่าตอนพี่แกไม่รับไหว้อีก
เรา : เราทำหน้าจะร้องไห้แล้วพูดเสียงหลงว่า เหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แล้วเดินหนีไปอีก
พี่เขา : พี่ขอโทษน้าๆพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆพี่มองไม่เห็นถ้าอิงไม่บอกพี่ก็ไม่รู้น้าา ขอโทษนะคะ
เห็นแกพี่เขาทำหน้าทำตาน่ารักมากแล้สมาพูดคะนี่ใจสั่นมากด้วยความที่ไม่เคยมีแฟนมากก่อนไม่เคยชอบใครมาก่อนเลยหวั่นไหวสุดๆถามว่าเขินไหมก็เขินนะแต่เป็นคนเก็บอารมเก่ง
เรา : ก็ได้ๆพี่เลิกเดินตามได้ละพีชหิวข้าว
พี่เขา : งั้นไปดิ่เดี๋ยวพี่เลี้ยงเป็นการขอโทษแล้วกัน
ถามว่าเราอยากไปกะพี่เขาไหมก็ไม่น่ะแต่บอกตามตรงคะว่าชอบของฟรี เราก็บอกว่าตกลงคะชาบูนะพี่เขาก็หัวเราะและพาเราเดินไปพอเดินมาถึงเราก็นั่งกินพี่เขาก็มองหน้าเราตลอดเราก็เริ่มรู้สีกไม่มั่นใจมีอะไรติดหน้าฉันป่าววะ จะถามไปตรงๆก็อายที่จะถามเลยกินไปจนอิ่ม พอเราอิ่มเราก็นึกขึ้นได้ว่าเราลืมชื่อพี่เขาไปแล้วเอาง่ายๆคือได้ยินชื่อผ่านๆแต่ไม่ได้จำ
เรา : เออพี่คะแล้วพี่ชื่อไรนะ
พี่เขา : อ้าวกรรมจ่ายเองเลยมั้ยละสองที่นะงอนละจำชื่อพี่ไม่ได้
เรา : โธ่พี่เอาตรงๆนะไม่ได้คิดจะจำหรอกไม่คิดว่าจะเจออีกด้วยแหละ ตกลงบอกชื่อมาเร็วๆ
พี่เขา : ชื่ออาร์ท บอกแล้วคราวนี้จำด้วยนะและเราคงได้เจอกันบ่อยๆนะหลังจากนี้
เราก็งงเอ้ยจะมาเจอกันบ่อยๆได้ไงวะเพ้อเจ้อปากก็พูดไปแต่ในใจนี่เต้นรัวเลยใบหน้าแบบนั้นทำใจสั่นไปหมด
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ
เมื่อฉันเป็นแฟนกับพี่ชายเพื่อน...
เข้าเรื่องเลยละกันนะ เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงสมมุติให้ชื่อว่า อิง แล้วกัน เรากับอิงสนิทกันมาตั้งแต่เราสองคนเรียนปฐมตอนนี้เราเรียนจบปริญญาตรีแล้ว พ่อแม่อิงกับพ่อแม่เรารู้จักกันและค่อนข้างสนิทกัน แต่เราไม่รู้เรื่องของอิงเลยเอาง่ายๆว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องของอิงเท่าไรสนใจแค่วันนี้เราจะทำอะไรกินอะไรเที่ยวที่ไหนอิงรู้สึกยังไงประมาณว่าแคร์แค่ความรู้สึกไม่สนเเรื่องส่วนตัว เรากับอิงสอบเข้าโรงเรียนตอนมอปลายด้วยกันตอนนั้นปิดเทอม ม.4 อิงชวนเราไปบ้าน บ้านอิงอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไรแต่ก็ไกลอยู่ดี 5555 เราก็เอะใจว่าทำไมมันชวนไปบ้านวะปกติเลิกเรียนกินข้าวละก็กลับบ้านตลอดไม่เคยไปบ้านมันเท่าไรมีแต่มันส่วนมากมาค้างที่บ้านเราบ้างมันบอกว่าที่มาค้างมาอ่านหนังสือสอบ10% อีก 90% มาส่องพี่ชายเรา ลืมบอกไปคะเรามีพี่สาวหนึ่งคนเป็นพี่คนโตสุดและมีพี่ชายอีกสองคนซึ่งเป็นผู้ที่สาวกรี๊ดเพราะนางเรียนหมอทั้งคู่เพื่อนๆเราก็ต่างพากันแย่งกันเป็นพี่สะใภ้เราคือพวกมันมโนล้วนๆ เราเป็นลูกคนเล็กพ่อและแม่ค่อนข้างตามใจแต่เราก็ไม่ได้เสียคนคะ ตามใจอย่างมีเหตุผล พอถึงบ้านเราก็สวัสดีพ่อแม่อิงที่กำลังจัดบ้านใหม่อยู่ทุกคนแลวุ่นวายกับการจัดบ้านมากๆ เราก็สงสัยอ้าวนังอิงที่แกให้ชั้นมาเนี้ยมาช่วยแกจัดบ้านใช่ไหมวะหลอกใช้งานตรูหนิหว่าา
เรา : อิงแกให้ชั้นมาบ้านแกทำไมวะ มาช่วยจัดบ้านหรอ
อิง : บ้าบอ วันนี้บ้านชั้นมีกินเลี้ยงต้อนรับพี่ชายชั้นโว้ยเนี้ยพ่อแม่กำลังจัดห้องให้พี่อยู่
เราสตั๊นไปสิบวิเลยคะ เห้ยมีพี่ชายด้วยหรอวะทำไมเราไม่รู้พอมานึกๆดูอีกทีอ้าวเราเองที่ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัวและเรื่องส่วนตัวมันเห็นมันไม่เคยพูดถึงเลยไม่ได้ถามนี่คบกันมาตั้งกี่ปีพึ่งจะรู้เนี้ยแหละ
เรา : อ้าวแกมีพี่ชายด้วยหรอวะ ไม่เห็นพูดถึงละเขาไปไหนอะ
อิง : ไปอยู่กับอาที่เชียงใหม่นานแล้วแหละไม่ได้กลับมาบ้านเลยเพราะพวกชั้นจะไปหาพี่เองตลอดทุกเทศการ
อ๋อถึงว่าทำไมมันหายไปบ่อยๆเราก็นึกว่าตามแม่พ่อไปทำงานด้วยเพราะไม่กล้าอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะกำลังจะถามมันก็ดันเอาของฝากมาให้ก่อนตล๊อดเราก็ไม่ถามต่อเลย555555555555555
เรา : ละมีไรให้ช่วยปะแก เราค่อนข้างเป็นคนขี้เกรงใจคะมายืนหายใจบ้านมันก็เกรงใจแล้ว ฮิฮิ
อิง : ไม่มีหรอกแก ไปล้างหน้าล้างตาเถอะหน้ามันทอดไก่ได้แล้วเดี๋ยวพี่ชั้นก็มาถึงแล้วพ่อแม่ก็จะจัดเสร็จแล้วแหละ
พอสักประมาณทุ่มกว่าเราก็ลงมาจากข้างบนโต๊ะอาหารก็จัดเสร็จสวยงามแล้ว ทุกคนเตรียมตัวนั่งเราก็กำลังจะนั่งตาก็มองหาพี่ชายเพื่อนก็ไม่เห็นมีหนิหว่านี่ทุ่มกว่าแล้วนะ หรือเขาไม่มาเเล้วเครื่องบินดีเลย์(ขึ้นเครื่องมาคะ) จริงๆแค่อยากเห็นหน้าว่าจะสู้พี่ชายสุดหล่อทั้งสองของเราได้ป่าววว (แอบหลงพี่ชายตัวเองแปบบ) ไม่เกินห้านาทีมีคนมาเราก็มองคะปรากฏว่าแม่กะพ่อเรานั่นเอง เรานี่อึ้งกิมกี่เลยตอนเย็นๆเราโทรบอกพ่อว่ามาบ้านอิงแต่พ่อก็ไม่ได้พูดอะไรแค่รับรู้และวางไป แต่ท่านพ่อและท่านแม่มากันครบ พ่อแม่เรากับพ่อแม่อิงก็ทักทายตามภาษาคนสนิทกันจริงๆก็พึ่งมาสนิทกันตอนเราอยู่มอต้นเพราะเรากันอิงเป็นเพื่อนกันนานแต่แม่เรากะแม่อิงคุยกันถูกคอเลยสนิทกันส่วนพ่อก็คุยแต่เรื่องธุรกิจกันก็เลยสนิทกัน ไม่นานพี่ชายอิงก็ปิดประตูเข้ามาทุกสายตาก็มองไปที่พี่เขา โอโห้ คือหล่อปังมาก ขาวปากแดงทำเอาใจสั่นเลย พี่เขาสวัสดีพ่อแม่เขาและพ่อแม่เราและหันมาทักอิงผู้เป็นน้องเสร็จละก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้เตรียมตัวกินข้าว แต่เดี๋ยว ! พี่คะแล้วหนูละ หนูอุตส่ายกมือไหว้แต่พี่แกหันหน้าไปพอดีเรานี่ยกมือเก้อเลย คือตอนนั้นความรู้สึกคือหน้าแตกโมโห แอบด่าในใจ โถ้วคิดว่าหล่อมากหรอวะสู้พี่ชายชั้นก็ไม่ได้เชอะะะะะะ เราก็ได้แต่กินเงียบๆฟังผู้ใใหญ่เขาคุยกะพี่แกไปจับใจความได้ว่าอาจะต้องย้ายไปอยู่อีกประเทศเพื่อตามสามีไปแต่เป็นห่วงพี่เขาเลยให้กลับมาอยู่กับพ่อแม่พี่เขาก็อยากกลับมาอยู่แล้วเลยกลับมา แล้วพี่เขาต้องมาเรียนต่อที่กรุงเทพต่อในระดับ ม.6 พอกินข้าวเสร็จเราก็กลับบ้านกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็ชมพี่เขาตลอดน่าตาหล่อเหลาใช้ได้ เรียนก็เก่งนี่เข้าโรงเรียนได้สบายๆเลย พอเรากลับบ้านก็อาบน้ำนอนเพราะเราต้องเรียนพิเศษทุกวัน เช้าเราก็ไปเรียนตามปกติไปประมาณเกือบสองอาทิตย์เรากะอิงเรียนคนละห้องและห้องเดียวกันบางวิชาแต่ช่วงที่ผ่านมาสองอาทิตย์เราไม่ได้เจออิงเลยไปเรียนคนเดียวตลอดกลับก็ดึกบางวันแต่โชคดีวันที่เลิกดึกพี่ชาย(ให้พี่ชายคนแรกชื่อภูมิ คนที่สองชื่อภูละกันเนอะ) พี่ภูกลับจากมอดึกบางวันก็มารับเราบ้างทำเอาหลายๆคนอิจฉาตาร้อนกันไป เรื่องมันเริ่มตรงนี้ วันนี้เราก็ไปเรียนตามปกติพอเลิกเรียนวันนั้นเราอยากกินชาบูเราเลยไปห้างแต่การไปกินคนเดียวมันเขินๆไงไม่รู้เราเลยโทรชวนอิงแต่นางไม่รับเลยอารมณืนั้นคือโมโหหิวมากคือแกตายห่าหรือไงวะ เลยตัดสินใจไปกินคนเดียวพอเราไปถึงหน้าร้านชาบูเราก็สะดุดกับผู้ชายคนนึงหน้าคุ้นๆพอนึกออกว่าใครนี่เราแทบเบ้ปากใส่เลยพี่ชายเพื่อน เราก็เดินผ่านไปแบบไม่มองเลยคือเราเคืองมากๆเราเดินสวนกันพี่เขาก็หันมามองเรางงๆนิดนึงจนเดินสวนกันไปไกลแล้ว เราก็เดินต่อไปเรื่อยๆกำลังลงบรรไดเลื่อนก็มีมือมาวางที่บ่าเราเลยหันไปมอง
พี่เขา : เห้ยน้องหวัดดีจำพี่ได้ไหมครับ พี่เป็นพี่ชายอิงไง
เราก็รู้แล้วแต่เราคิดถึงเรื่องนั้นมันโกธรจริงๆ
เรา : คะ
พี่เขา : คะ นี่คือจำพี่ได้ไหมครับหืมม
เรา : ไม่ได้คะ พี่เป็นใครคะทักคนผิดแล้วคะ ยิ้มให้แล้วเดินจากไป
พี่เขาก็ทำหน้างงๆแล้วเดินตามมาถามเราต่อ
พี่เขา : โอ๋น้อง พีช (ขอสมมุติชื่อเราว่าพีชคะ) นี่โกธรที่พี่ไม่รับไหว้แบบจริงจังใช่ปะเนี้ย
เราก็แบบเห้ยรู้ได้ไงวะ คิดออกเลยนังอิง ไม่น่าพลาดเล่าให้มันฟังเลยโอโห้นี่คือเสียหน้ายิ่งกว่าตอนพี่แกไม่รับไหว้อีก
เรา : เราทำหน้าจะร้องไห้แล้วพูดเสียงหลงว่า เหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แล้วเดินหนีไปอีก
พี่เขา : พี่ขอโทษน้าๆพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆพี่มองไม่เห็นถ้าอิงไม่บอกพี่ก็ไม่รู้น้าา ขอโทษนะคะ
เห็นแกพี่เขาทำหน้าทำตาน่ารักมากแล้สมาพูดคะนี่ใจสั่นมากด้วยความที่ไม่เคยมีแฟนมากก่อนไม่เคยชอบใครมาก่อนเลยหวั่นไหวสุดๆถามว่าเขินไหมก็เขินนะแต่เป็นคนเก็บอารมเก่ง
เรา : ก็ได้ๆพี่เลิกเดินตามได้ละพีชหิวข้าว
พี่เขา : งั้นไปดิ่เดี๋ยวพี่เลี้ยงเป็นการขอโทษแล้วกัน
ถามว่าเราอยากไปกะพี่เขาไหมก็ไม่น่ะแต่บอกตามตรงคะว่าชอบของฟรี เราก็บอกว่าตกลงคะชาบูนะพี่เขาก็หัวเราะและพาเราเดินไปพอเดินมาถึงเราก็นั่งกินพี่เขาก็มองหน้าเราตลอดเราก็เริ่มรู้สีกไม่มั่นใจมีอะไรติดหน้าฉันป่าววะ จะถามไปตรงๆก็อายที่จะถามเลยกินไปจนอิ่ม พอเราอิ่มเราก็นึกขึ้นได้ว่าเราลืมชื่อพี่เขาไปแล้วเอาง่ายๆคือได้ยินชื่อผ่านๆแต่ไม่ได้จำ
เรา : เออพี่คะแล้วพี่ชื่อไรนะ
พี่เขา : อ้าวกรรมจ่ายเองเลยมั้ยละสองที่นะงอนละจำชื่อพี่ไม่ได้
เรา : โธ่พี่เอาตรงๆนะไม่ได้คิดจะจำหรอกไม่คิดว่าจะเจออีกด้วยแหละ ตกลงบอกชื่อมาเร็วๆ
พี่เขา : ชื่ออาร์ท บอกแล้วคราวนี้จำด้วยนะและเราคงได้เจอกันบ่อยๆนะหลังจากนี้
เราก็งงเอ้ยจะมาเจอกันบ่อยๆได้ไงวะเพ้อเจ้อปากก็พูดไปแต่ในใจนี่เต้นรัวเลยใบหน้าแบบนั้นทำใจสั่นไปหมด
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ