ใช้ช่วงเวลาสองชั่วโมงที่อยู่บนเครื่องนี่แหละ
เล่าเรื่องที่เราเดินทางในทริปมาเก๊าให้เพื่อนๆ ได้ฟังก็แล้วกัน
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ แล้วน่าจะตามไปเที่ยวมาเก๊าในแบบที่ใครๆ ก็ไปเที่ยวได้บ้าง

การเดินทางในครั้งนี้ต้องบอกว่าความตั้งใจแรกคือการไปดูร้านอาหารต่างๆ
ดูบรรยากาศในสถานที่ที่หุ้น Future Bright Holding ได้ทำธุรกิจอยู่
ซึ่งเป็นหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกงที่มาทำธุรกิจในมาเก๊า (ผมซื้อหุ้นไว้นิดหน่อย)
ผมคิดว่าเมื่อเราได้เห็นของจริงแล้วทำให้เราตัดสินใจในการลงทุนได้ดีขึ้น

ผมจองตั๋วก่อนบินประมาณ 1 เดือนครึ่งเพราะเห็นทางแอร์เอเชียมีตั๋วโปรออกมาพอดี ราคาไม่สูงมาก
จำได้ว่าประมาณ 3520 บาท รวมกับค่ากระเป๋าอีกคนละ 710 บาทแบ่งกับเพื่อนสองคน (คนละ 10 กิโล)

ส่วนค่าเงินมาเก๊าที่แลกไปอยู่ที่ 1 mop = 4.55 บาท แลกที่ Superrich วันก่อนไป

5 พฤศจิกายน 2558

17.00 น. มารอเพื่อนอีกสองคนที่สนามบิน พอดีว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็น
จะรอไปกินที่นู้นก็กลัวว่าจะหิวเกินไป เลยแวะร้าน Subway กินไปก่อน
ขนาดครึ่งฟุตจัดไปราคาสนามบิน อิ่มเลย พออยู่ท้องได้หน่อย พร้อมแล้วที่จะบินไปมาเก๊า

18.30 น. เครื่องออกจากดอนเมือง มุ่งหน้าสู่มาเก๊า นั่งไปชิวๆ 2.20 ชั่วโมงก็ถึง
ที่มาเก๊าอากาศเย็นกว่าไทยนิดหน่อยแต่ยังไม่เย็นมาก เวลาต้องปรับให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง

22.00 น. ผ่าน ตม. หยิบกระเป๋าออกมาเรียบร้อยพวกเราเลือกขึ้นรถเมล์เข้าเมืองกัน

ราคารถเมล์ที่นี่มีไม่กี่ราคา 2.8 เหรียญ 3.2 เหรียญ 4 เหรียญ ราคาจะอยู่ประมาณนี้
ส่วนแท๊กซี่ที่นี่จะเริ่มต้น 17 เหรียญ และพอผ่านไป 1.4 กิโลมิเตอร์จะเริ่มขยับขึ้นทีละ 2 เหรียญทุกๆ 200-300 เมตร

เรานั่งรถเมล์สาย 26 มาลงแถวๆ Lisboa Hotel ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (3.2$)
เดินผ่านร้าน Circle K แวะซื้อ ข้าวปั้นสามเหลี่ยม กับ เสี่ยวหลงเปา มาชิม

ผลปรากฎว่า ข้าวปั้นกินไม่ได้เลย ข้าวเย็นเป็นเม็ดละเอียดไม่มีรสชาติ ไส้ก็น้อยๆ แห้งๆ สรุปว่าไม่อร่อย (10$)

แต่เสี่ยวหลงเปาพอกินได้ มีสี่ลูกอยู่ในแพค (10$) แล้วเราก็เดินต่อไป
ถนนยังเปิดไฟสว่างอยู่

23.00 น. เราก็มาถึงที่พัก คืนนี้ขอพักก่อนละกัน