การเดินทางครั้งนี้เราเดินทาง วันที่ 8 พ.ย.58 - 13 พ.ย.58

เราเดินทางคืนวันที่ 8 ตอนเวลา 23.45 นะครับ จะถึงสนามบินตอนเช้า ที่สนามบินนาริตะ เวลา 8.00 น. นะครับ และนี่เป็นการเดินทางระยะไกลสุดของเราและใช้เวลาเดินทาง 6 ช.ม. และที่ประเทศ ญี่ปุ่น เวลาจะเดินเร็วกว่าประเทศเรา 2 ช.ม.นะครับ ในการเดินทางนี่ช่วงแรกไม่ชินกับการเดินทางนานที่อยู่บนเครื่อง


พอถึงสนามบินเสร็จเราก็ผ่าน ต.ม. โดน ต.ม.ถามอยู่ 2 คำถาม คือ มากี่คนและมากับใคร แค่นั้นเองครับ และเราก็ไปรับกระเป๋า พร้อมกับล้างหน้าแปรงฟัน ทาครีม ทาแป้ง พร้อมลุยในวันนี้ เราก็เดินลงมาเพื่อซื้อบัตร Skyliner ที่ Keisei Ticket Counter  เราเลือกซื้อแบบเหมา คือ เป็นรถไฟ แบบ one-way เพื่อใช้ในวันเดินทางกลับ พร้อมกับ บัตร Tokyo Subway 3 Day ในราคา 3500 Yen ในส่วนนี้จะมีหลายแบบนะครับ บางคนอาจจะซื้อแบบบัตร ไป-กลับสนามบินก็ได้ หรือ เป็นบัตร Tokyo Subway 1 , 2 หรือ 3 Day ก็ได้ ทุกครั้งที่ซื้อต้องใช้ Passport นะครับ แต่ครั้งนี้เราซื้อแบบ One-Way เพราะว่าขาเข้าเราจะไปซื้ออีกบัตร เพื่อไป Kawaguchigo ไปดูกันต่อเลยครับ


ซื้อเสร็จหน้าตาที่ได้เป็นแบบนี้นะครับ


ต่อมาเรามาซื้อบัตร Kanto Pass 3 Day ที่ JR EAST Travel Service Center ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่เราซื้อบัตร Skyliner เลยครับ เพื่อใช้สำหรับเดินทางไป Kawaguchigo กับ Nikko รายละเอียดบัตรผมอาจจะไม่ได้ขอลงไว้นะครับ เพราะข้อมูลสามารถหาทาง Internet ได้ง่ายครับ ซื้อต้องใช้ Passport เหมือนกัน ราคา 8300 Yen และเราสามารถจองที่ไว้ก่อนได้เลยนะครับ เผื่อสำหรับใครที่กลัวไม่มีที่นั่งนะครับ เพราะว่าเราเดินทางไกล เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ ว่าต้องการเดินทางวันไหนเวลาไหน เวลาเราสามารถเปิดดูใน Hyperdai ได้เลยครับ และการใช้บัตร Kanto Pass ถ้าเราไม่ได้จองตั๋ว เราสามารถเอาบัตร Kanto Pass โชว์เจ้าหน้าที่และเดินผ่านออกมาได้เลยนะครับ


หน้าตาของตั๋วที่จองไว้นะครับ

มายืนตามตู้ที่จองไว้เลยครับ มาตรงเวลามากๆรถไฟที่นี่

หน้าตาภายในรถไฟ Nex นะครับ นั่งรถไฟไปลง Shinjuku เพื่อต่อไปยัง JR Otsuki

ภายในรถไฟ จาก Shinjuku ไปลง JR Otsuki


เมื่อถึงสถานี Otsuki เราก็เดินตามทางเลยครับ เพื่อไปต่อ รถไฟสาย Fujikyu Railway

ถึงตรงนี้ ใครจะแวะเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้นะครับ ดูเวลายังพอมีเวลาเลยแวะเข้าห้องน้ำหน่อย

จังหวะจะถ่ายห้องน้ำเพื่อมาทำรีวิวในนี้ ก็ติดภาพผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนดาราคนหนึ่งเลย แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าไม่กล้าทัก

หน้าตารถไฟของ ออกแนวน่ารักนะ





หน้าสถานี่ Kawaguchigo นะครับ เราถึงประมาณช่วงบ่าย 2 เราก็เลยเดินชมบ้านเมืองเค้าหน่อย ตื่นเต้นๆ

จนมาเจอ เซเว่น เลยลองไปสำรวจหน่อยว่าเป็นยังไง

มื้อแรกของเรา ไม่รู้เรียกว่าอะไร ดูจากหน้าตาว่าหน้ากินอย่างเดียวพอ พร้อมกับน้ำชาอะไรไม่รู้

พอกินเสร็จเราก็เดินไปโรงแรมเพื่อจะทำการ Check-in โรงแรมที่เราจะพักคืนนี้คือ Koe House จองผ่าน Agoda นะครับ โรงแรมนี้อยู่ตรงข้ามสถานีเลยครับ จากหน้าสถานีเรามองตรงมาก็เห็นป้ายโรงแรมแล้วครับ เดินข้ามถนนมานิดหน่อยก็ถึงแล้ว แต่ทางโรงแรม บอกว่าให้ Check-in 4โมงเย็น เราเลยฝากกระเป๋าเอาไว้และเราคิดว่าเวลาเหลือเราไปเจดีย์แดงดีกว่า

ย้อนกลับมาเพื่อหาช้อมูลสำหรับเดินทางในวันนี้และพรุ่งนี้

เราซื้อบัตรรถไฟ เพื่อเดินทางไป Pagoda Chureito (เจดีย์แดง)

มาลงที่สถานี Shimoyoshida แล้วเดินต่อตามทาง เราเจอคนไทยที่นี่มาพร้อมกันเลย ชวนกันเดินหาทางไปจนเจอนะครับ

เจอทางขึ้นแล้ว ใบไม้ไม่ค่อยแดงเท่าไหร่ เพราะว่าวันที่เราไปฝนตกทำให้ใบไม้ร่วงลงหมดเลย

เดินมากลางทางก็จะเจอศาลเจ้านะครับ


วิว สวยดีนะ



เสียดายตอนเรามาถึง มีการปิดปรับปรุงไม่ให้ใครขึ้นไปถ่ายรูปได้เลย อดถ่ายมุมยอดฮิตเลย

ปิดท้ายด้วยภาพนี้นะครับ

ลงมารอรถไฟ หน้าตาสถานี Shimoyoshida


ย้อนกลับมาที่โรงแรมเพื่อเก็บของและพักผ่อนที่เหนื่อยมาทั้งวัน โชคดีมากวันที่เราเข้าพักมีโปรโมชั่นพิเศษ คือถ้าเรากดแชร์และLike เพจโรงแรม เราจะได้อาหารเช้าฟรี 1 ชุดนะครับ เรากับแฟนเราเลยกดกันคนละเครื่อง เลยได้อาหารเช้าฟรีคนละ1ชุด

ภายในห้องนะครับ
คืนนี้เย็นสบายที่ 15 องศา


อาศัยเซเว่นเจ้าเดิม เพราะเราไม่รู้จะไปเริ่มกินอะไรที่ไหนยังไงดี

จบสำหรับคืนแรก มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

ค่าเครื่องรวมโหลดกระเป๋า 17,000฿
ค่ารร.ฟูจิ 1,924฿
Kaisai pass ¥7000= 2,110.5฿
Kanto pass ¥16,600=5,004.9฿
น้ำ ¥110=33.17฿
ค่ารร.Tokyo ¥18,000=5,427฿
อาหารมื้อแรก ¥705=202.55฿
เที่ยววัดเจดีย์แดงไป-กลับ¥1,200=361฿
ขนมปัง ¥125=37.68฿
มื้อเยน ¥588=177.28฿
น้ำ¥129=38.89฿

** ทุกอย่างคือรวม 2 คนแล้ว ใช้เรทเงินที่ 0.3015 นะครับ

วันที่1 Totel=32,317฿ หาร 2 ตกคนละ 16,159 บาท

ติดตามต่อในวันที่ 2   (Kawaguchigo - Hachioji - Ueno - Shinjuku)  http://ppantip.com/topic/34463744