Xtrail Hybrid V แพงกว่าตัวปกติ 58000
ประหยัดกว่า 20% (ตามที่โฆษณา) รุ่นปกติในเมือง 10 km/l  Hybrid = 12 km/l

ที่ 100,000 km Hybrid วิ่งได้มากกว่า 20000 km = 60000 บาท (คิดเบนซิน 95 ราคา 30 บาท)
เท่ากับวิ่ง 100,000 km ถึงจะคุ้มค่า Hybrid ถ้าวิ่งได้ภายใน 5 ปี เพราะถ้านานกว่านี้ระบบเริ่มเสื่อมก็มีค่าใช้จ่าย

ระบบ Hybrid ดูเหมือนจะดี แต่คุ้มเงินจริงหรือไม่ คงไม่ใช่
แต่ตอบโจทย์เรื่องความแรง แบบประหยัด (กว่าเครื่องใหญ่) ล่ะใช่แน่นอน
สุดท้าย ราคาที่แพงกว่า กลับขายต่อมือสองได้ (น่าจะ) ต่ำกว่ารุ่นปกติ หรือได้เท่าๆ กัน

ดูอัลครัซ จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบ Hybrid แบบใหม่ของ nissan
ซึ่งทำให้ใช้งานได้ดีกว่าแบบเดิมๆ ที่ใช้กันอยู่ อย่างของ Toyota ที่ต้องมีตัวแบ่งกำลัง
โดยใช้ระบบ ครัซคู่มาตัดต่อกำลังคั่นระหว่างเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเกียร์
ซึ่ง CVT ตัวนี้ก็เป็นตัวใหม่ ไม่ใช่ตัวที่อยู่ใน march, teana เดิม


เทียบกับ PJS ซึ่งมีข้อดี คือ
1. คันใหญ่ 7 ที่นั่ง และช่วงล่างที่ทนทานกว่า ความสูงของใต้ท้องรถที่มากกว่า
2. อัตราบริโภคน้ำมันใกล้เคียงกันอาจจะด้อยกว่า Xtrail เล็กน้อย แต่ดีเซลราคาคงที่ถ้าน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

ข้อด้อย คือ
1. ความนุ่มนวล การขับขี่ การทรงตัว ที่ต้องยอมรับว่าด้อยกว่า
2. ขนาดที่ใหญ่โต ก็เป็นปัญหาในการขับในเมือง การหาที่จอด


ไม่มีคันไหนดีกว่าคันไหน เพียงแต่คันไหนที่ "เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ"
จึงไม่มีใครบอกได้ว่าคันไหนเหมาะกับคุณที่สุด นอกจากตัวคุณเอง
ถ้าไม่เคยใช้รถแบบ PPV หรือกระบะ ขับแต่เก๋งมาตลอด ลองไปขับดูก่อน
บางคนรับไม่ได้กับแรงสะเทือน และการโคลงจากความสูง


ตอนผมออก Xtrail ยังไม่มี New PJS เลยตัดสินใจได้ไม่ยาก
แต่ถ้าตอนนี้ก็คงคิดหนักแบบคุณเหมือนกัน
ทั้งนี้ขึ้นกับการใช้งานของคุณ ว่าใช้แบบไหนครับ