ขอแก้ไขหัวข้อ "4 มกราคม
2558" เป็น "4 มกราคม
2559"
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=14436560489991&language=th&country=TH
รับหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ชื่อบริษัท : บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC)
ชื่อย่อหลักทรัพย์ : TWPC
ตลาดรอง : SET
กลุ่มอุตสาหกรรม : เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเกษตร
วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน : 01 ต.ค. 2558
วันที่เริ่มทำการซื้อขาย : 05 ต.ค. 2558
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 880,420,930
จำนวนหุ้นชำระแล้ว (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 880,420,930
ราคา Par (บาทต่อหุ้น) : 1.00
ทุนชำระแล้ว (บาท) : 880,420,930.00
ลักษณะธุรกิจ :
ธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ 1) การผลิต ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 2)
ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยว เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
หมายเหตุ :
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท ไทยวาฟูดโปรดักส์ จำกัด
(มหาชน) (TWFP) และบริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) (TWS) ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2558 - 2 ตุลาคม
2558 ตามที่บริษัทร้องขอ เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ คือ บริษัท ไทยวา จำกัด
(มหาชน) (TWPC) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TWFP และ ของ TWS รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถนำหลักทรัพย์ของ TWPC เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้นั้น
(รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ TWFP และ TWS ในระบบ SETSMART วันที่ 18 และ 21-22 กันยายน 2558)
บัดนี้ TWFP และ TWS ได้ดำเนินการควบบริษัทแล้วเสร็จ
โดยนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดรับจดทะเบียนการควบบริษัททั้งสองแล้ว TWFP และ TWS
จึงสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และ TWPC จะรับโอนทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ
หน้าที่และความรับผิดชอบของ TWFP และ TWS ทั้งหมด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 (4) และ 171 (1)
แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ของ TWFP และ TWS
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และรับหลักทรัพย์ของ TWPC
เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัท
กล่าวคือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 (มีผลในระบบการซื้อขาย
ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2558) และกำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ของ TWPC ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ดังนี้
1. หุ้นสามัญจำนวน 880,420,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 880,420,930บาท
เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
2. หุ้นสามัญของ TWPC จัดอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร
และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า " TWPC "
3. เพื่อให้หลักทรัพย์ของ TWPC สามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง
ตลาดหลักทรัพย์จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การซื้อขาย การชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555
กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ
TWPC ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด
หมายเหตุ : ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล TWPC
ได้จากสรุปข้อสนเทศของบริษัทในระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ (SETSMART) และ
http://www.set.or.th
______________________________________________________________________
ถ้าเป็นไปตามคาดหมาย
(๑) ได้รับอนุมติ ครม ภายใน 8 ธันวาคม 2558
(๒) becl & bmcl หยุดพักซื้อขาย 21 - 30/12/2558 เพื่อดำเนินเรื่องควบรวม
(๓) ประชุมผู้ถือหุ้นร่วม becl & bmcl ในวันที่ 28/12/2558
(๔) หุ้นใหม่ BEM เริ่มซื้อขาย 4 มกราคม 2559
คิดว่าไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงอัตราสัดส่วนควบรวม
ราคาปิดวันนี้ 18/11/2558 ของ becl & bmcl ที่ 38.75 และ 1.86 ตามลำดับ ต้นทุน ณ ราคาปิดวันนี้ หลังแปลงเป็นหุ้นใหม่ bem ต้นทุนและจำนวนหุ้นจะเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ถ้ามี ต้นทุน หุ้นใหม่ bem
ณ ราคาปิด 18/11 จำนวนหุ้น ต้นทุน
becl 10,000 38.75 86,554 4.47698 ต่อ 1 bem
bmcl 100,000 1.86 42,051 4.4232 ต่อ 1 bem
ถ้าได้ติตตามราคากลางหุ้นบริษัทใหม่ bem ทั้ง becl & bmcl ได้ปรับตัวลงมาถึงวันนี้แทบไม่แตกต่างกัน เป็นสัญญาณบ่งบองเวลาควบรวมใกล้มาถึง ถ้าราคาทั้งสองเป็นราคาปิดในวันที่ 20/12/2558 ราคาบริษัทใหม่ bem น่าจะเริ่มต้น 4.48 บาท แล้วในวันนี้ราคา ceiling & floor จะอยู่ที่เท่าไร ไม่รู้ได้ แต่มีตัวอย่าง twfp ได้ควบรวมกับ tws เป็นบริษัทใหม่ twpc เริ่มซื้อขาย 5/10/2558
ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด ดั่งประกาศก๊อปข้างบน ผบห บริษัทใหม่ bem น่าจะออกมาแนวทางเดียวกับ twpc เช่นกัน ไม่มีอะไรเสียต่อบริษัทใหม่ bem ฉะนั้นผู้ถือหุ้นทั้งสอง becl & bmcl มีผลประโยชน์ร่วมกันในบริษัทใหม่ bem น่าจะนำข้อนี้หารือกับ ผบห ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น 28/12/2558 นี้
ด้วยความปรารถนาดี
BECL ควบรวม BMCL : บริษัทใหม่ BEM เริ่มซื้อขาย 4 มกราคม 2558
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=14436560489991&language=th&country=TH
รับหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ชื่อบริษัท : บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC)
ชื่อย่อหลักทรัพย์ : TWPC
ตลาดรอง : SET
กลุ่มอุตสาหกรรม : เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
หมวดธุรกิจ : ธุรกิจการเกษตร
วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน : 01 ต.ค. 2558
วันที่เริ่มทำการซื้อขาย : 05 ต.ค. 2558
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 880,420,930
จำนวนหุ้นชำระแล้ว (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 880,420,930
ราคา Par (บาทต่อหุ้น) : 1.00
ทุนชำระแล้ว (บาท) : 880,420,930.00
ลักษณะธุรกิจ :
ธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ 1) การผลิต ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 2)
ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยว เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
หมายเหตุ :
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท ไทยวาฟูดโปรดักส์ จำกัด
(มหาชน) (TWFP) และบริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) (TWS) ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2558 - 2 ตุลาคม
2558 ตามที่บริษัทร้องขอ เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ คือ บริษัท ไทยวา จำกัด
(มหาชน) (TWPC) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TWFP และ ของ TWS รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถนำหลักทรัพย์ของ TWPC เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้นั้น
(รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ TWFP และ TWS ในระบบ SETSMART วันที่ 18 และ 21-22 กันยายน 2558)
บัดนี้ TWFP และ TWS ได้ดำเนินการควบบริษัทแล้วเสร็จ
โดยนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดรับจดทะเบียนการควบบริษัททั้งสองแล้ว TWFP และ TWS
จึงสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และ TWPC จะรับโอนทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ
หน้าที่และความรับผิดชอบของ TWFP และ TWS ทั้งหมด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 (4) และ 171 (1)
แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ของ TWFP และ TWS
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และรับหลักทรัพย์ของ TWPC
เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัท
กล่าวคือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 (มีผลในระบบการซื้อขาย
ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2558) และกำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ของ TWPC ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ดังนี้
1. หุ้นสามัญจำนวน 880,420,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 880,420,930บาท
เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
2. หุ้นสามัญของ TWPC จัดอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร
และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า " TWPC "
3. เพื่อให้หลักทรัพย์ของ TWPC สามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง
ตลาดหลักทรัพย์จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การซื้อขาย การชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555
กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ TWPC ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด
หมายเหตุ : ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล TWPC
ได้จากสรุปข้อสนเทศของบริษัทในระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ (SETSMART) และ http://www.set.or.th
______________________________________________________________________
ถ้าเป็นไปตามคาดหมาย
(๑) ได้รับอนุมติ ครม ภายใน 8 ธันวาคม 2558
(๒) becl & bmcl หยุดพักซื้อขาย 21 - 30/12/2558 เพื่อดำเนินเรื่องควบรวม
(๓) ประชุมผู้ถือหุ้นร่วม becl & bmcl ในวันที่ 28/12/2558
(๔) หุ้นใหม่ BEM เริ่มซื้อขาย 4 มกราคม 2559
คิดว่าไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงอัตราสัดส่วนควบรวม
ราคาปิดวันนี้ 18/11/2558 ของ becl & bmcl ที่ 38.75 และ 1.86 ตามลำดับ ต้นทุน ณ ราคาปิดวันนี้ หลังแปลงเป็นหุ้นใหม่ bem ต้นทุนและจำนวนหุ้นจะเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ถ้ามี ต้นทุน หุ้นใหม่ bem
ณ ราคาปิด 18/11 จำนวนหุ้น ต้นทุน
becl 10,000 38.75 86,554 4.47698 ต่อ 1 bem
bmcl 100,000 1.86 42,051 4.4232 ต่อ 1 bem
ถ้าได้ติตตามราคากลางหุ้นบริษัทใหม่ bem ทั้ง becl & bmcl ได้ปรับตัวลงมาถึงวันนี้แทบไม่แตกต่างกัน เป็นสัญญาณบ่งบองเวลาควบรวมใกล้มาถึง ถ้าราคาทั้งสองเป็นราคาปิดในวันที่ 20/12/2558 ราคาบริษัทใหม่ bem น่าจะเริ่มต้น 4.48 บาท แล้วในวันนี้ราคา ceiling & floor จะอยู่ที่เท่าไร ไม่รู้ได้ แต่มีตัวอย่าง twfp ได้ควบรวมกับ tws เป็นบริษัทใหม่ twpc เริ่มซื้อขาย 5/10/2558 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด ดั่งประกาศก๊อปข้างบน ผบห บริษัทใหม่ bem น่าจะออกมาแนวทางเดียวกับ twpc เช่นกัน ไม่มีอะไรเสียต่อบริษัทใหม่ bem ฉะนั้นผู้ถือหุ้นทั้งสอง becl & bmcl มีผลประโยชน์ร่วมกันในบริษัทใหม่ bem น่าจะนำข้อนี้หารือกับ ผบห ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น 28/12/2558 นี้
ด้วยความปรารถนาดี