[CR] ## ชวนเที่ยวเชียงราย พักไร่แสงอรุณ แวะนู่นนี่นั่นไหนไปเรื่อย ##

ณ ราตรีหนึ่งซึ่งยังฝังใจ เชียงรายฟ้าแจ่ม
คืนนั้นวาวแวมด้วยแสงจันทรานภาสดใส....
...........................................................

ทริปนี้จุดหมายอยู่ที่นี่ ไร่แสงอรุณ เชียงของ อยากไปนอนส่องดาวริมลำน้ำโขง
ปกติเราเดินทางจะไม่เคยจองอะไรล่วงหน้า นึกจะไปก็ไปเดี๋ยวนั้น
แต่ที่นี่ เราอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเต็มตลอดเลยทีเดียว โดยเฉพาะห้องที่หมายตา
คือ ห้องริมโขง เราจองล่วงหน้าถึงสองเดือน กระนั้นก็ยังไม่ได้ห้องที่ต้องการ
อยากได้ริมโขง 1 ได้มาเป็นห้องริมโขง 3 เอาวะ เอาก็เอา
ถ้ารอก็ไม่รู้อีกนานแค่ไหน เอาไว้ก่อน มีเวลาค่อยมาใหม่ก็ได้

จริงๆมันก็ไม่ต่างกันหรอก ริมโขง 1 2 3
เพียงแต่ริมโขง1 ระเบียงไม่มีระแนงกั้น จึงมองเห็นวิวน้ำโขงพาโนราม่ากันเลย
แต่ของเราก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ อยู่ริมสุด สวยงามตามท้องเรื่องแหละ เดี๋ยวค่อยมาว่ากันถึงรายละเอียด
..............................................................................................................................
เอาหละ เริ่มเดินทางกันเลย
ทริปนี้เดินทางด้วยแอร์เอเชีย ไฟลท์แปดโมงสิบนาที ไปถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง เก้าโมงครึ่ง


จองรถเช่า avis ไว้ รับรถที่สนามบิน


จากนั้นก็ลุยเลยค่ะ ก่อนอื่นต้องไปหามื้อเช้ากิน
เรามุ่งไปร้านสหรส เห็นเขาว่าต้มเลือดหมูอร่อยมาก
จัดไป เออ อร่อยจริงๆด้วย อร่อยมากกกกกก หรือเพราะหิวหว่า
สั่งยกล้อมาสองแก้ว หูย อร่อยมากเลยอ่ะ สดชื่นทันใด



อิ่มหนำสำราญก็เดินทางต่อกันเลย ตั้ง GPS มุ่งไปเชียงแสน

เชียงแสน
เป็นอำเภอนึงใน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สุดเขตประเทศไทยกันเลย

"เชียงแสนเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี
จากประวัติศาสตร์ เชียงแสนถือเป็นอาณาจักรล้านนาในยุคแรกๆ
ประวัติความเป็นมาค่อนข้างชัดเจน และยังปรากฏร่องรอยโบราณวัตถุโบราณสถานหลายแห่ง
จากหลักฐานโบราณคดีสันนิษฐานว่า การสร้างเมืองคงเริ่มขึ้นระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เป็นต้นมา
ตามที่ระบุไว้ในชุนกาลมาลีปกรณ์ และพงศาวดารโยนก เพราะศักราชดังกล่าวใกล้เคียงกันใกล้เคียงกันมาก
รวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องกันมาสัมพันธ์กับรูปแบบอายุสมัยของของโบราณวัตถุสมัยประวัติศ่สตร์
ที่สร้างขึ้นทั้งในและนอกตัวเมืองซึ่งมีอายุหลังกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ลงมาทั้งสิ้น

พ .ศ.๒๔๘๒ทางราชการเปลี่ยนชื่ออำเภอเชียงแสนเป็นแม่จัน
และย้ายที่ทำการไปอยู่ที่แม่จันห่างจากที่ว่าการอำเภอเดิมประมาณ ๓๐ กิโลเมตร
ตำบลที่ตั้งที่ว่าการอำเภอนี้เรียกว่าเชียงแสนใหม่ หรือเชียงแสนแม่จัน ส่วนเมืองเชียงแสนนั้นมีฐานะเป็นกิ่งอำเภอ

ต่อมาในปี พ . ศ . ๒๕๐๐ จึงยกฐานะเป็นอำเภอเชียงแสน
และรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูบูรณะอำเภอเชียงแสนขึ้น
โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการฟื้นฟูบูรณะ
และอนุรักษ์โบราณสถานที่สำคัญในเมืองเชียงแสน ตั้งแต่พ. ศ . ๒๕๐๐ เป็นต้นมา
ปัจจุบันร่องรอยของโบราณสถานในอำเภอเชียงแสนที่หลงเหลือให้เห็น
มักเป็นซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างในพุทธศาสนา ได้แก่ พระเจดีย์ และพระวิหาร
ซึ่งส่วนใหญ่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในพงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน
และมีวัดอยู่ทั้งสิ้น ๑๔๐ วัด แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่วัดในเมือง ๗๖ วัด และวัดนอกเมือง ๖๕ วัด
การเรียกชื่อวัดต่าง ๆ ได้ยึดถือจากตำแหน่งที่ระบุไว้ในพงศาวดารล้านนาซึ่งเขียนขึ้นภายหลัง โบราณสถานที่สำคัญและน่าสนใจ"
**ข้อมูลจาก http://www.chiangraifocus.com/2010/travelView.php?id=128&aid=3**

โดยส่วนตัว ชอบเชียงแสนนะ ดูเป็นเมืองที่ไม่วุ่นวาย และเก๋ไก๋มากทีเดียว
ตัวเมืองมีกำแพงโบราณล้อมรอบ พร้อมคูเมือง เห็นแล้วก็คิดว่าสมัยก่อนนี่คงรุ่งเรืองน่าดู
มีซากวัดโบราณเยอะมาก เรียกว่าสลับกันไปกับบ้านเรือนผู้คนเลยหละ
ดูสวยและขลังอย่างประหลาด ผู้คนดำเนินชีวิตแลดูเรียบง่าย
ส่วนที่เป็นตัวเมืองเล็กนิดเดียว อยู่ภายในโอบล้อมของกำแพงโบราณนั่นแหละ น่าอยู่นะเราว่า

เราขับรถวน ๆ กำแพงเมือง ดูซากวัดซากอารยธรรมต่างๆไปเรื่อย
แวะที่วัดป่าสัก จ่ายค่าเข้าชมคนละ ๑๐ บาท ถูกมาก
ไม่มีคนเที่ยวเลย จะเอาเงินไหนไว้ดูแลโบราณสถานกันนะ แอบเป็นห่วง













เที่ยวเล่นถ่ายรูปสักพักเริ่มหิว เลยลองอาหารย่านนั้น
จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ อยู่ริมแม่น้ำโขงเป็นอาหารจีนสูตรเสฉวนอะไรประมาณนี้
คือ ถ้าคนที่ชอบอาหารแนวนี้ก็คงโอเคแหละค่ะ
แต่เราไม่เคยกิน คนข้างๆอยากลอง เอ้าลองก็ลอง

ผลคือ เข็ดค่ะคุณผู้ชม จริงๆคงอร่อยแหละมั้งแต่เราอาจไม่ชินกับรสชาติแบบนี้
มันเลี่ยนมากกกกก เลี่ยนและเผ็ดแปลกๆ บอกไม่ถูก
แต่ความเลี่ยนมันติดปากติดคอจนผอืดผะอมไปหมดเลย ดื่มชาก็ไม่ดีขึ้น
โชคดีเจอเซเว่นเลยแวะหาอะไรเปรี้ยวๆดับความเลี่ยน ได้มะม่วงดองมาสองถุง ค่อยยังชั่ว





อิ่มจากตรงนี้ (จริงๆไม่อิ่ม กินต่อไม่ไหว ไปหาขนมเซเว่นกินเอา) เราไปทะเลสาปเชียงแสนกันค่ะ
ออกนอกเมืองไปนิดนึง ชื่อทางการคือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย

"เดิมเป็นหนองน้ำขนาดเล็กซึ่งถูกล้อมรอบด้วยเนินเขาเตี้ยๆ โดยรอบเป็นแอ่งรองรับน้ำฝนตามธรรมชาติ
ทางราชการได้ก่อสร้างเขื่อนน้ำล้น เพื่อกักเก็บน้ำ จึงทำให้หนองน้ำมีปริมาณมากขึ้น
มีลักษณะเป็นทะเลสาบขนาดย่อมเรียกว่า “ทะเลสาบเชียงแสน”
และได้รับการประกาศ จากกระกรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดให้พื้นที่แห่งนี้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2528  และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ
ของอนุสัญญาว่าด้วย พื้นที่ชุมน้ำหรืออนุสัญญาแรมซาร์ อันดับที่ 1101
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2544 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2,711 ไร่"
**ข้อมูลจาก http://www.chiangraifocus.com/2010/travelView.php?id=143&aid=3**

ที่นี่สวยมากนะเราว่า กว้างใหญ่ เงียบสงบ ไม่มีคนเลย
เคยอ่านเจอเห็นว่าตอนเย็น ๆ จะสวยมากกก แต่พอดีเราไปกันช่วงเที่ยงเกือบบ่าย แดดค่อข้างแรง
แต่ก็ยังสวยงามมากอยู่ดีแหละ เสียดายอย่างนึง มันไม่ใช่หน้าบัวบาน

ในทะเลสาปมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาว ผ่านเหล่าบัวมากมาย และก็ต้นผักตบ
นี่ถ้ามีดอกนะ คงสวยสะพรั่งมากๆ ที่นี่มีบ้านพักนักท่องเที่ยวด้วย
ถ้าฤดูหนาวได้พักที่นี่คงบรรยากาศดีมากมาย เราก็แวะถ่ายรูปฟิน ๆ พอหอมปากหอมคอเนอะ










เอาหละ ออกเดินทางไปสู่จุดหมาย ไร่แสงอรุณกันเถอะ
เพราทางนั้นแจ้งมาว่า เราควรต้องไปเช็คอินก่อนห้าโมงเย็น
ชื่อสินค้า:   เชียงราย เชียงแสน ไร่แสงอรุณ วัดพระธาตุผาเงา วัดร่องขุ่น บ้านดำ สามเหลี่ยมทองคำ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่