เมื่อไม่นานมานี้  ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานทำบุญบ้าน   รวมญาติทางฝั่งแม่  ซึ่งก็เป็นงานที่มักจะทำกันเป็นประจำทุกปี  เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว   และก็เป็นการกระชับความสัมพันธ์ในหมู่ญาติพีน้อง
          งานนั้น ก็ดำเนินไปตามขั้นตอนตามปกติ  โดยมีผู้นำกล่าว   บูชาคุณพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  อาราธนาศีล  อาราธนาพระปริตร  จนกระทั่ง  พระก็เริ่มสวดมนต์ ไปเรื่อย  จนถึง  บทที่พระสวดเป็นบทที่สามเห็นจะได้  พระท่านก็เรียกคุณลุง  ที่เป็นประธานไปจุดเทียนขี้ผึง  ที่อยู่บนขันน้ำมนต์  แล้วพระท่านก็สวดต่อ  จำได้ว่า  คือบทที่ขึ้นต้นว่า  อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา  ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง  
          จนกระทั่งงานใกล้เสร็จ  พระฉันภัตตาหาร  กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล  เรียบร้อยแล้ว   ก่อนกลับ  ได้นำ น้ำมนต์มาประพรม  เพื่อความเป็น  สิริมงคล  ให้กับญาติและ แขกเกลื่อ  ที่มาร่วมงาน
          หลังเสร็จงานด้วยความสงสัยว่า  ที่พระท่านทำน้ำมนต์  บทสวดที่มาสวดที่บ้าน  นั้นมีความหมายว่าอย่างไร  แล้ว สิริมงคลคืออะไรกันนะ   หลังจากมีเวลาว่างจึงไปที่หอสวดมนต์  ค้นหาข้อมูลดู  พอจะได้ข้อมูล ความหมายมาบ้าง อยากจะแบ่งบันให้กับ  เพื่อนๆ ท่านอื่นได้อ่านกันว่า  แท้จริงแล้ว  มงคล  หาได้เกิดขึ้น จากการได้ประพรมน้ำมนต์ เพียงเท่านั้น  เราเองต้อง  เอาพระธรรม คำสอนมาประพฤติปฏิบัติ  จึงได้เรียกได้ว่า  เข้าใจอย่างแท้จริง
          เผื่อโอกาสต่อไป  ภายภาคหน้า เพื่อนๆได้มีโอกาสจัดงาน  ทำบุญเจริญพระพุทธมนต์  ทำบุญบ้าน  หรือได้ไปร่วมงาน  พอได้ฟังรู้ความหมายจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ