ถ้า EDM ทำให้คุณปวดหัว ลองฟัง Tropical House ดูสักครั้งแล้วจะเคลิ้ม

กระทู้สนทนา


เมื่อพูดถึงเพลง EDM (Electronic Dance Music) พ.ศ. นี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก แถมคนไทยยังบัญญัติสมญานามให้กับเพลงแนวนี้ เพื่อให้เรียกง่าย ๆ และติดปากกันว่า “เพลงตื๊ด!” ที่ตื๊ดกระตุกต่อม ให้พร้อมเต้นจนปวดตับ  พลานุภาพของมันก็ไม่ธรรมดา เพราะลุกลามไปผสมผสานกับทุกแนวเพลง ไม่เว้นแม้กระทั่งเพลงลูกทุ่ง ที่ไม่คิดเลยว่าจะมาไกลนำมามิกซ์ให้แมทซ์กันได้มากขนาดนี้ แล้วดันฮิตกระจายเปิดฟังถล่มทลายกันทั่วบ้านทั่วเมือง

แต่เอาเข้าจริง ๆ ก่อนหน้านี้ผมเป็นหนึ่งคนที่ทนฟังเพลง EDM ไม่ไหวเลยให้ตายเหอะ ยิ่งฟัง ยิ่งรู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองมันกระเพื่อมตามบีทเพลงไปด้วยแทบทุกครั้ง ความรู้สึกของมันเจ็บจี๊ด ๆ ในหัวราวกับหมอฟันผ่าฟันคุด พานทำให้ปวดหัวเอาดื้อ ๆ จนเมื่อได้มายินเพลง ๆ หนึ่งคือเพลง Reality ของ Lost Frequencies แล้วถึงกับนึกในใจว่า ทำไม Melody ของเพลงนี้มันถึง Therapy เราได้มากขนาดนี้ ก็เลยลองกด ๆ ฟังคลิปที่ขึ้น Recommend มาใน Youtube ไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดผมก็หลงรักแนวเพลงสไตล์นี้อย่างหัวปักหัวปำ จึงไปหาข้อมูลแล้วถึงได้รู้ว่าเพลงสไตล์นี้มีชื่อเรียกว่า Tropical House

ซึ่งเป็นแนวเพลงที่แตกแขนงออกมาจากแนว House มีการใช้เสียงสังเคราะห์มามิกซ์เป็นท่วงทำนองเพราะ ๆ ไม่ต่างจาก Deep House หรือ EDM ดีไซน์ซาวด์แบบ “Big Room Sound” ให้เสียงฟังแล้วกังวาน แต่ความทรมานของซาวด์ที่กวนประสาทรับฟังนั้นจะถูกลดทอนลงมา ด้วยการใช้เสียงเครื่องดนตรีที่ซอฟต์ลงเข้ามาในบทเพลงอย่างเช่น Horn, Marimbas,Flute และลดจังหวะเพลงให้ช้าลงด้วย เพื่อให้เพลงนั้นฟังสบาย ฟังง่ายขึ้น แต่ยังคงทำให้เรารู้สึกอยากโยกตัวตามบีทได้อยู่ ผมเลยนิยามแนวเพลง Tropical House ในแบบฉบับของตัวเองเอาไว้ว่า “ชิลแต่หนึบ” เผลอแปปเดียว Playlist ใน iphone ผม ก็เต็มไปด้วยเพลง Tropical House จนเกือบครึ่ง จากเดิมที่ไม่เคยมีเลย

หลังจากที่ติดใจ Tropical House มาสักพัก จึงได้เพลงโปรด และศิลปินโปรดในดวงใจเพิ่มขึ้น และอยากจะแนะนำให้ใครก็ตามที่เคยแอนตี้ EDM แบบผม ลองได้ฟังกันดู รับรองเลยว่าคุณจะติดใจกับเสน่ห์ของ Tropical House ที่จะทำให้รู้สึกเหมือนแก้วหูนั้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง

1. Reality – Lost Frequencies
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ซิงเกิลล่าสุดจากดีเจหนุ่มสัญชาติเบลเยี่ยม ​Lost Frequencies ที่ได้นักร้องหนุ่มชาวดัชต์ Janieck Devy มาร่วม Featuring ทำให้เพลงนี้กลมกล่อมลงตัวมากขึ้น ซึ่งทีเด็ดของเพลงบอกได้เลยว่า แค่ท่อนอินโทรขึ้นมาท่อนเดียว ก็ทำให้มั่นใจได้เลยว่าต้องกด Repeat อีกสองรอบติดต่อกันเป็นอย่างต่ำ เมโลดี้ที่ชวนติดหูควงคู่มากับบีทหนึบ ๆ พอประมาณ ผสานกับเสียงร้องแบบพอดิบพอดี และเนื้อเพลงที่ว่าด้วย การให้ใช้ชีวิตในแบบที่ใจต้องการ คือส่วนผสมที่คลุกเคล้าไว้อย่างเข้ากัน ที่หยิบมาฟังเมื่อไร ก็เหมือนร่างกายได้รีเฟรชเมื่อนั้น

2. Firestone – Kygo
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ศิลปินในดวงใจของผมคนล่าสุด Kygo ดีเจชาวนอร์เวย์ที่มาพร้อมเพลงฮิตมากมาย และ Firestone คือซิงเกิลแรกที่เป็น Original Mix และฮิตไปทั่วโลก เพลงนี้ได้นักร้องหนุ่มเสียงสูงปรี๊ดชาวออสซี่ Conrad Sewell มาช่วยเพิ่มมิติให้กับท่วงทำนองสุดจ๊าบของ Kygo ที่ฟังแล้วจะทำให้รู้สึกฟุ้งๆ หัวโล่งๆ ล่องลอย พร้อมโยกไปเบา ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ บวกกับความหมายของเพลงที่เปรียบหัวใจของคนสองคนเป็นดั่งหินเหล็กไฟ (Firestone) เมื่อมาบรรจบกัน ความรักก็ประทุและพรั่งพรูออกมา ทำให้โลกนี้สว่างไสว เพลงนี้จึงเหมือนเป็นเชื้อเพลิงเติมไฟให้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ยิ่งฟังตอนเช้า ๆ ขณะเดินทางไปทำงานแบบสะลึมสะลือ นี่ทำให้หายง่วงได้เลยทีเดียว

3.Stole the show – Kygo
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ซิงเกิลที่ 2 ของ Kygo ที่ผมชอบมาก ไม่แพ้เพลงแรก เพราะบีทของเพลงนี้นั้นจะเร็วกว่า ทำให้รู้สึกอยากขยับแข้งขา พร้อมรีแล็กซ์จากอาการเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น และเมโลดี้ที่ติดหูอีกแล้ว ฟังทีไรอย่างน้อย ๆ นิ้วชี้ข้างซ้ายต้องกระดิกตาม เพลงนี้ยังได้หนุ่มเสียง Soul จัดจ้านมาร่วมแจมอย่าง Parson James ช่วยเพิ่มความบาดลึกในเนื้อเพลงที่ความหมายนั้นแตกต่างกับทำนองได้อย่างลงตัว ว่าด้วยเรื่องความรักของคนสองคนที่เคยหวานชื่น แต่ต้องฝืนทนกล้ำกลืนเมื่อใกล้ถึงจุดจบ และก่อนจะลาจากกันไป ขอร้องให้โชว์สุดท้ายของชีวิตเราทั้งคู่ จบลงอย่างสวยงามอีกสักครั้งนึงเถอะ….เรียกได้ว่าเป็นเนื้อเพลงที่ต้องเล่นใหญ่รัชดาลัยกันเลยทีเดียวครับคุณผู้ชม

4. Sugar – Robin Schulz
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เพลงของดีเจหนุ่มชาวเยอรมันนามว่า Robin Schulz นั้นอาจจะไม่ชิลเท่าสองคนข้างต้น เพราะมีความเป็น Electronic Dance มากกว่าพอสมควร แต่เพลงนี้ก็มีเมโลดี้ที่แอบหวานตามชื่อเพลง และบีทที่ไม่เร็วมากนัก จึงทำให้มีกลิ่นอายของ Tropical House ลอยฟุ้งอยู่ พร้อมกับยังได้น้ำเสียงสุดเท่จาก Francesco Yates นักร้องหนุ่มวัย 20 ปี ชาวแคนาเดียน มาเป็นผู้พรรณนาความงามของหญิงสาวอันเป็นที่รักผ่านเนื้อเพลง ยิ่งทำให้เพลงนั้นหวานหนึบ ชวนเคลิบเคลิ้ม ที่เพิ่มเติมคือทำให้เราอยากออกสเต็ป

5. Shine – Felix Jaehn
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อีกหนึ่งดีเจหนุ่มมากความสามารถจากเยอรมันนี เขาคนนี้โด่งดังมาจากการไปร่วม Remix เพลงดังอย่าง Cheerleader ให้กับ OMI นักร้องชาวจาไมกัน เขาจึงเป็นอีกหนึ่งดีเจที่น่าจับตามองของยุคนี้ สำหรับซิงเกิ้ล Shine ได้ Freddy Vereno & Linying มาเพิ่มเสน่ห์ให้กลับบทเพลงด้วยเสียงสวย ๆ ยิ่งพอมาคลุกเคล้ากับเสียง Flute ด้วยแล้ว ยิ่งช่วยเสริมเติมความชิลให้กับเพลงได้อีกเป็นเท่าตัว เหมาะแก่การนำไปฟังริมชายหาด พร้อมแสงแดดที่สาดส่องสะท้อนผืนน้ำ แล้วโยกตัวไปพร้อม ๆ กับเกลียวคลื่นที่ซัดสาด เป็นอย่างยิ่ง

หากถามผมว่า Tropical House ฟังตอนไหนเวิร์คสุด ผมคงตอบว่า ตอนไหนก็ได้ที่รู้สึกเบื่อ เหนื่อย ล้า จากการใช้ชีวิต หรือช่วงเวลาที่รอคอยอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะตอนเดินทาง แนวเพลงนี้ตอบโจทย์เลย ความรู้สึกรีแลกซ์จะค่อย ๆ แทรกซึมในใจ เผลออีกทีร่างกายก็สั่งการอวัยวะให้โยกตามบีทโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับผมที่เผลอตบหน้าขาเวลานั่งอยู่ในรถไฟฟ้าอยู่หลายครั้ง จนคนนั่งข้าง ๆ ตกใจ และผมก็เดาว่าบางครั้งเค้าก็คงด่าผมในใจเหมือนกัน #ต่อไปผมจะควบคุมตัวเองละครับ #เก็บมือซุกกระเป๋า #เอ้าShipหายเท้ายังกระดิกอยู่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่