เตือนสติพี่น้อง......ม.อุบลฯ และเตือนตนเองอยู่เสมอว่า
ท่านยังไม่เคย มาเยือนแผ่นดิน ม.อุบลฯ ไฉนท่านทั้งหลายกล้าพูดกันไปเรื่อยเปื่อยว่า สถาบันแห่งนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามแค่ท่านคิด ดินเเดนแห่งนี้แม้นจะไม่ศิวิไลซ์เหมือนดั่งที่ใครๆวาดฝันตามที่ท่านต้องการ เช่น ต้องมีตึกสูงเสียดฟ้า ต้องมีรถลาสัญจรไปมามากมาย มีโรงอาหารใหญ่โตมีที่จอดรถใต้ดิน และต้องมีห้างดังๆ เรียงรายกันอยู่ทั่วมหา'ลัย นั้นคือจิตนาการของท่านเอง และเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ หากสิ่งที่ท่านกล่าวมา เป็นคุณสมบัติที่มหาวิทยาลัยต้องมีและเป็นสิ่งที่ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกเรียนเลือกศึกษาในระดับปริญญาแล้วล่ะก็ ม.อุบลฯ ก็คงไม่มี เพราะ ม.อุบลฯ ก็คงมีแต่พียงแค่พื้นที่พอสมควรในการพัฒนาต่อไปในการขยายมหาวิทยาลัยในอนาคต มีอาคารที่ไม่สูงมากนักแต่เพียงพอต่อการศึกษาของนักศึกษา ม.อุบลฯ ทุกคน ไม่มีที่จอดรถใต้ดินแต่มีร่มไม้ชายคาให้พอพักผ่อนและใช้บังแดดได้ทั่วทุกที ไม่มีห้างดังแต่มีร้านอาหารตามริมทางที่พอหล่อเลี้ยงชีวิตให้นักศึกษา ม.อุบลฯ จบได้ทั้ง 4 ปี ไม่มีรถลามากมาย แต่ ม.อุบลฯ มีรถสายผ่าน และนักศึกษามาเรียนได้ตามความถนัดของตน เท่านี้ ม.อุบลฯ สมควรแล้วหรือที่ยังต้องโดนคำครหาจากคำพูดของท่านอีกหรืออย่างไร มหา'ลัยแห่งนี้ไม่ได้บังคับให้ท่านหรือใครๆต้องมาเรียนที่นี้ท่านมีสิทธิที่จะไปเรียนที่อื่นได้ตามความวาดหวัง แต่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแห่งนี้ เพียงแค่เปิดโอกาสและเปิดรับนักศึกษาจากทุกภาค ทุกคน จากทุกที่ของประเทศไทย อย่างเปิดกว้าง และไม่จำกัด เพียงท่านลองหวลคิดสักนิดว่าท่านใช้อะไรวัดความเจริญ ท่านชั่งใจแคบมากหากท่าน มอง ม.อุบลฯ เช่นนั้น แค่ถ้าท่าน มองความเจริญผ่านความสุขของนักศึกษาที่ได้มาเรียน มาได้รับรู้ความเป็นอยู่ของพี่น้องนักศึกษา ม.อุบลฯ ท่านจะรู้ว่าดินแดนแห่งนี้ นั้นเจริญมากมายแค่ไหน หากต้องการความเจริญทางด้านวัตถุท่านจงไปแสวงหาที่อื่นเพราะ ม.อุบลฯ คงไม่มีให้ท่าน แต่หากต้องการความเจริญทางกายและจิตใจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแห่งนี้มีให้ท่านอย่างเต็มเปี่ยม และยินดีต้อนรับทุกท่านอย่างภาคภูมิ
ความเจ็บปวดหัวใจของพี่น้องนักศึกษา ม.อุบลฯ เมื่อโดนถามว่าจบปริญญามาจากที่ไหน เมื่อตอบว่าจบมาจาก ม.อุบลฯ คำที่โดนสวนกลับมาคือ "บ้านนอก" "กันดาร" "ไม่เจริญ" มันชั่งน่าขำคนที่กล่าวหา ม.อุบลฯ เพียงเพราะความไม่รู้คนนั้นเสียจริง บางคนศึกษาอยู่โรงเรียนดังๆ ปฏิเสธ ม.อุบลฯ แสดงความไม่พอใจและประกาศลั่นไปทั่วว่าจะไม่มาเรียนที่นี้แน่นอน แถมยังติฉินนินทาต่างๆนาๆ แถมยังสบประมาทว่าจะไม่มาศึกษาสถานที่นี้ เพราะไม่เด่น ไม่ดัง แล้วพอไปไหนไม่รอด สอบไม่ติด สอบไม่ผ่าน ต้องกลับมาซุกหัวที่ ม.อุบลฯ แล้วยังไม่เจียมตัว ยังบอกว่า ม.อุบลฯ เข้าง่าย เรียนไปก่อนแล้วค่อยซิวไปที่ ม. อื่น อยากจะบอกกับท่านเพื่อให้เกิดหูตาสว่างและมีจิตสำนึกที่ดีบ้างว่า ม.อุบลฯไม่ได้เข้าง่ายหรอกครับ เพียงแค่ ม.อุบลฯ ให้โอกาสทุกคนได้เล่าเรียน เพื่อนำความรู้ไปใช่ให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และให้คุณๆ เหล่านั้นได้คิดถึงความเป็นสถาบัน และการให้เกียรติแก่สถานที่เรียน และความรักความผูกพันธ์ต่อสถาบันที่ ชื่อ "มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี" บ้างก็เท่านั้น
บุคคลใดดูถูกบุพการี ผู้มีพระคุณ ย่อมทำการใดไม่เจริญ เช่นเดียวกันหากท่านดูถูกสถาบันที่เป็นเบ้าหลอมคนมานับหมื่นนับแสนคน และยังดูถูกทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้มาทำการศึกษาหรือเคยมาเล่าเรียน ท่านคงทำการใดก็ไม่สำเร็จในชีวิตของคุณหรอกครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันหนึ่งหากท่านได้มาเยือน แผ่นดิน ม.อุบลฯ ท่านจะหูตาสว่างสักที
ณัฐวุฒิ สีม่วง
อย่าดูถูก ม.อุบลฯ เพียงเพราะคุณยังไม่รู้ อะไร
ท่านยังไม่เคย มาเยือนแผ่นดิน ม.อุบลฯ ไฉนท่านทั้งหลายกล้าพูดกันไปเรื่อยเปื่อยว่า สถาบันแห่งนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามแค่ท่านคิด ดินเเดนแห่งนี้แม้นจะไม่ศิวิไลซ์เหมือนดั่งที่ใครๆวาดฝันตามที่ท่านต้องการ เช่น ต้องมีตึกสูงเสียดฟ้า ต้องมีรถลาสัญจรไปมามากมาย มีโรงอาหารใหญ่โตมีที่จอดรถใต้ดิน และต้องมีห้างดังๆ เรียงรายกันอยู่ทั่วมหา'ลัย นั้นคือจิตนาการของท่านเอง และเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ หากสิ่งที่ท่านกล่าวมา เป็นคุณสมบัติที่มหาวิทยาลัยต้องมีและเป็นสิ่งที่ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกเรียนเลือกศึกษาในระดับปริญญาแล้วล่ะก็ ม.อุบลฯ ก็คงไม่มี เพราะ ม.อุบลฯ ก็คงมีแต่พียงแค่พื้นที่พอสมควรในการพัฒนาต่อไปในการขยายมหาวิทยาลัยในอนาคต มีอาคารที่ไม่สูงมากนักแต่เพียงพอต่อการศึกษาของนักศึกษา ม.อุบลฯ ทุกคน ไม่มีที่จอดรถใต้ดินแต่มีร่มไม้ชายคาให้พอพักผ่อนและใช้บังแดดได้ทั่วทุกที ไม่มีห้างดังแต่มีร้านอาหารตามริมทางที่พอหล่อเลี้ยงชีวิตให้นักศึกษา ม.อุบลฯ จบได้ทั้ง 4 ปี ไม่มีรถลามากมาย แต่ ม.อุบลฯ มีรถสายผ่าน และนักศึกษามาเรียนได้ตามความถนัดของตน เท่านี้ ม.อุบลฯ สมควรแล้วหรือที่ยังต้องโดนคำครหาจากคำพูดของท่านอีกหรืออย่างไร มหา'ลัยแห่งนี้ไม่ได้บังคับให้ท่านหรือใครๆต้องมาเรียนที่นี้ท่านมีสิทธิที่จะไปเรียนที่อื่นได้ตามความวาดหวัง แต่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแห่งนี้ เพียงแค่เปิดโอกาสและเปิดรับนักศึกษาจากทุกภาค ทุกคน จากทุกที่ของประเทศไทย อย่างเปิดกว้าง และไม่จำกัด เพียงท่านลองหวลคิดสักนิดว่าท่านใช้อะไรวัดความเจริญ ท่านชั่งใจแคบมากหากท่าน มอง ม.อุบลฯ เช่นนั้น แค่ถ้าท่าน มองความเจริญผ่านความสุขของนักศึกษาที่ได้มาเรียน มาได้รับรู้ความเป็นอยู่ของพี่น้องนักศึกษา ม.อุบลฯ ท่านจะรู้ว่าดินแดนแห่งนี้ นั้นเจริญมากมายแค่ไหน หากต้องการความเจริญทางด้านวัตถุท่านจงไปแสวงหาที่อื่นเพราะ ม.อุบลฯ คงไม่มีให้ท่าน แต่หากต้องการความเจริญทางกายและจิตใจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแห่งนี้มีให้ท่านอย่างเต็มเปี่ยม และยินดีต้อนรับทุกท่านอย่างภาคภูมิ
ความเจ็บปวดหัวใจของพี่น้องนักศึกษา ม.อุบลฯ เมื่อโดนถามว่าจบปริญญามาจากที่ไหน เมื่อตอบว่าจบมาจาก ม.อุบลฯ คำที่โดนสวนกลับมาคือ "บ้านนอก" "กันดาร" "ไม่เจริญ" มันชั่งน่าขำคนที่กล่าวหา ม.อุบลฯ เพียงเพราะความไม่รู้คนนั้นเสียจริง บางคนศึกษาอยู่โรงเรียนดังๆ ปฏิเสธ ม.อุบลฯ แสดงความไม่พอใจและประกาศลั่นไปทั่วว่าจะไม่มาเรียนที่นี้แน่นอน แถมยังติฉินนินทาต่างๆนาๆ แถมยังสบประมาทว่าจะไม่มาศึกษาสถานที่นี้ เพราะไม่เด่น ไม่ดัง แล้วพอไปไหนไม่รอด สอบไม่ติด สอบไม่ผ่าน ต้องกลับมาซุกหัวที่ ม.อุบลฯ แล้วยังไม่เจียมตัว ยังบอกว่า ม.อุบลฯ เข้าง่าย เรียนไปก่อนแล้วค่อยซิวไปที่ ม. อื่น อยากจะบอกกับท่านเพื่อให้เกิดหูตาสว่างและมีจิตสำนึกที่ดีบ้างว่า ม.อุบลฯไม่ได้เข้าง่ายหรอกครับ เพียงแค่ ม.อุบลฯ ให้โอกาสทุกคนได้เล่าเรียน เพื่อนำความรู้ไปใช่ให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และให้คุณๆ เหล่านั้นได้คิดถึงความเป็นสถาบัน และการให้เกียรติแก่สถานที่เรียน และความรักความผูกพันธ์ต่อสถาบันที่ ชื่อ "มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี" บ้างก็เท่านั้น
บุคคลใดดูถูกบุพการี ผู้มีพระคุณ ย่อมทำการใดไม่เจริญ เช่นเดียวกันหากท่านดูถูกสถาบันที่เป็นเบ้าหลอมคนมานับหมื่นนับแสนคน และยังดูถูกทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้มาทำการศึกษาหรือเคยมาเล่าเรียน ท่านคงทำการใดก็ไม่สำเร็จในชีวิตของคุณหรอกครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันหนึ่งหากท่านได้มาเยือน แผ่นดิน ม.อุบลฯ ท่านจะหูตาสว่างสักที
ณัฐวุฒิ สีม่วง