คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูลนะครับ แล้วผ่านมาเจอนะครับ อาจจะงงๆ ว่าอะไรคืออะไร ผมเล่าให้ฟังคร่าวๆ นะครับ
1.ชานี้สำนักงานใหญ่อยู่ที่หาดใหญ่ครับ "เล่ากันว่า" น้องสาว A ทำชาขาย ส่วน C เป็นอาจารย์อย่างที่จขกท.บอกครับ ตอนหลังฮิตก็เริ่มจะทำเฟรนไชน์ คุณCเลยจะเอาความรู้มาช่วย โดยจะทำเฟรนไชน์อย่างเป็นระบบ ทำได้สักพักทะเลาะกันเพราะมีปัญหาเรื่องการขายสาขาแล้วมีปัญหาเรื่องความเชื่อใจกัน เลยแตกกัน เป็นสองสาย สายคุณ A ใช้ชื่อนำหน้าว่า "ต้นตำรับ...." สายคุณ C ใช้ชื่อเดิม และพยายามจะสร้างแบรนด์ใหม่ (แต่ไม่ค่อยเวิร์ค) อาจจะเพื่อกันปัญหาทางกฎหมาย สุดท้ายคนที่มาขอซื้อเฟรนไชน์ก็อยากใช้ชื่อเดิมที่ติดตลาด ก็เลยยังขายเฟรนไชน์ในชื่อเดิมต่อไป
2.รายละเอียดเฟรนไชน์ คือไม่มีสัญญาอะไรกันเลย ใช้คำว่า "สัญญาใจ" ล้วนๆ มาบอกคนซื้อ คนซื้อก็อยากได้ เนื่องจากชาค่อนข้างมีชื่อพอสมควร ราคาอยู่ที่ 100,000 บาท เป็นค่าสิทธิ์ในการซื้อผงชาและสูตรเครื่องดื่มต่างๆ รวมทั้งใช้ชื่อร้าน (ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร) อาจจะแถมของอย่างอื่นให้เล็กน้อย เช่นผงชาสำหรับเริ่มต้น แต่ต้องออกเงินซื้อเคาเตอร์ หรือของต่างๆ เองทั้งหมด รวมแล้วร้านนึงลงทุนเฉพาะค่าเฟรนไชน์กับค่าของ (ไม่รวมค่าแต่งร้าน) ประมาณ 200,000 บาท หลังจากนั้นต้องซื้อผงชาและแก้วจากสำนักงานใหญ่ ราคาขายต่อแก้วคือ 25 บาท กำไรประมาณ 30-50 %
3.ปัญหาที่คนซื้อทุกคนต้องเจอ คือ การเปิดทับพื้นที่กัน ห่างกันแค่ 500-700 เมตรก็มี บางพื้นที่เป็นอำเภอเล็กมีถึง 3-4 ร้าน ทั้งที่ "สัญญาใจ"ที่บอกกันไว้คือจะต้องห่างกัน 2-3 กม.
ปัญหาคือพอคนติดต่อคุณ A จะซื้อเฟรนไชน์ไปเปิด คุณ A อาจจะไม่ขายเพราะทับพื้นที่กัน คนซื้อก็จะไปติดต่อคุณ C แทน ซึ่งคุณ C ก็จะขายมาให้ ทีนี้คนที่ขายอยู่ก่อนแล้วก็จะตายในที่สุดเพราะพื้นที่เล็กๆลูกค้าก็มีอยู่ไม่มาก แต่มาขายทับพื้นที่ แชร์ยอดกันเอง ก็ค่อยๆตายไปในที่สุด
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล...
1.ชานี้สำนักงานใหญ่อยู่ที่หาดใหญ่ครับ "เล่ากันว่า" น้องสาว A ทำชาขาย ส่วน C เป็นอาจารย์อย่างที่จขกท.บอกครับ ตอนหลังฮิตก็เริ่มจะทำเฟรนไชน์ คุณCเลยจะเอาความรู้มาช่วย โดยจะทำเฟรนไชน์อย่างเป็นระบบ ทำได้สักพักทะเลาะกันเพราะมีปัญหาเรื่องการขายสาขาแล้วมีปัญหาเรื่องความเชื่อใจกัน เลยแตกกัน เป็นสองสาย สายคุณ A ใช้ชื่อนำหน้าว่า "ต้นตำรับ...." สายคุณ C ใช้ชื่อเดิม และพยายามจะสร้างแบรนด์ใหม่ (แต่ไม่ค่อยเวิร์ค) อาจจะเพื่อกันปัญหาทางกฎหมาย สุดท้ายคนที่มาขอซื้อเฟรนไชน์ก็อยากใช้ชื่อเดิมที่ติดตลาด ก็เลยยังขายเฟรนไชน์ในชื่อเดิมต่อไป
2.รายละเอียดเฟรนไชน์ คือไม่มีสัญญาอะไรกันเลย ใช้คำว่า "สัญญาใจ" ล้วนๆ มาบอกคนซื้อ คนซื้อก็อยากได้ เนื่องจากชาค่อนข้างมีชื่อพอสมควร ราคาอยู่ที่ 100,000 บาท เป็นค่าสิทธิ์ในการซื้อผงชาและสูตรเครื่องดื่มต่างๆ รวมทั้งใช้ชื่อร้าน (ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร) อาจจะแถมของอย่างอื่นให้เล็กน้อย เช่นผงชาสำหรับเริ่มต้น แต่ต้องออกเงินซื้อเคาเตอร์ หรือของต่างๆ เองทั้งหมด รวมแล้วร้านนึงลงทุนเฉพาะค่าเฟรนไชน์กับค่าของ (ไม่รวมค่าแต่งร้าน) ประมาณ 200,000 บาท หลังจากนั้นต้องซื้อผงชาและแก้วจากสำนักงานใหญ่ ราคาขายต่อแก้วคือ 25 บาท กำไรประมาณ 30-50 %
3.ปัญหาที่คนซื้อทุกคนต้องเจอ คือ การเปิดทับพื้นที่กัน ห่างกันแค่ 500-700 เมตรก็มี บางพื้นที่เป็นอำเภอเล็กมีถึง 3-4 ร้าน ทั้งที่ "สัญญาใจ"ที่บอกกันไว้คือจะต้องห่างกัน 2-3 กม.
ปัญหาคือพอคนติดต่อคุณ A จะซื้อเฟรนไชน์ไปเปิด คุณ A อาจจะไม่ขายเพราะทับพื้นที่กัน คนซื้อก็จะไปติดต่อคุณ C แทน ซึ่งคุณ C ก็จะขายมาให้ ทีนี้คนที่ขายอยู่ก่อนแล้วก็จะตายในที่สุดเพราะพื้นที่เล็กๆลูกค้าก็มีอยู่ไม่มาก แต่มาขายทับพื้นที่ แชร์ยอดกันเอง ก็ค่อยๆตายไปในที่สุด
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล...
แสดงความคิดเห็น
ภาคต่อ ซื้อเฟรนไซน์ชาชื่อดัง ชา พ. ของหาดใหญ่มาเปิดที่ภูเก็ต แต่คนขายเฟรนไชน์มาทำอย่างนี้ จะทำยังไงดี
หลังจากเรื่องเงียบ ๆ ไปสักระยะ ทั้ง ๆ ที่พี่ C ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรให้ได้เลยปากพูดบอกแต่ว่าเค้าไม่ยอม เค้าลงทุนไปแล้ว ไม่รุ้จะทำอย่างไร พี่ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ต่อไปพี่ไม่ขายแล้วชา พ. แต่แล้วไม่กี่เดือนนิสัยเดิม ๆ ก็เริ่มกลับมาคับ พี่ C เริ่มขายทับซ้อนในที่ต่าง ๆ เพราะในภาคกลางเช่นจังหวัดอยุธยา ชา พ. ไปติดตลาดมากที่นั้น รวมถึงจังหวัดอื่นเช่นกัน สาเหตุก็เพราะพี่ C ไปขอจดลิขสิทธิ์ชา พ. ทั้ง ๆ ที่พี่ A เป็นคนริเริ่ม ทำให้พี่ C ยิ่งขายเฟรนไชส์เข้าใกล้ลูกค้าคนอื่นโดยไม่สนใจระยะทาง หรือข้อตกลงต่าง ๆ ที่เคยคุยไว้ เหมือนย่ามใจทั้ง ๆ ที่โกงคนอื่นมา(น้องสาวตัวเองแท้ ๆ ) แต่ทางพี่ A ก็ได้มีการยื่นคัดค้านเรื่องดังกล่าวไปแล้ว โดยทางศาลนัดไต่สวนต้นปีหน้า
ผมจึงอยากให้ทุกท่านที่สนใจในธุรกิจนี้และได้อ่านเรื่องราวนี้ ควรคิดให้ดีก่อนจะซื้อเฟรนไชส์ การทำธุรกิจควรมี สัจจะ จรรยาบรรณ นี่ขนาดเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังทำกับพี่น้องตัวเองได้ขนาดนี้ นับภาษาอะไรกับเราคนนอกที่เกี่ยวข้องกันในแค่แง่ทางธุรกิจ ในส่วนตัวผมเองได้รับมอบหมายจากทางพี่ A ให้ดูพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต ถ้าระยะทางไม่ถึงตามข้อตกลง ผมก็แจ้งไป ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้เปิด แต่ข้อตกลงมันเป็นอย่างนั้น พอคุณมาเป็นลูกค้าเรา เราก็ดูแลผลประโยชน์และข้อตกลงให้คุณเช่นกัน ไม่ใช่คิดว่ามีเงิน มีที่ขายอยู่แล้ว อยากเปิด พอไม่ให้เปิด ก็โทรไปซื้อกับพี่ C แทน ผมบอกได้เลยว่าคุณคิดผิดมากที่จะไปร่วมทำธุรกิจกับคนแบบนั้น
เอาแค่นี้ก่อนนะคับ ชงน้ำให้ลูกค้าก่อน เด๋วมาต่อ
ปล.คราวนี้ไม่ต้องมาให้ใครต่อใครมาบอกผมให้ช่วยลบโพสต์นะคับทำตัวเองรับผิดชอบเองนะคับ อาจารย์ C