สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป ^_^
กลับมาอีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะ

เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา Cushion เป็นที่นิยมมาก
คือฮิตมากกกก ใครๆก็ใช้กัน เราก็นะ ตามกระแสนิดนึง
เคยถอย Laneige มาใช้ จัดว่างานดีเลยนะ ผิวเนียนล่ำฉ่ำโบ๊ะ
แต่เราดันแพ้ สิวขึ้น เลยต้องโบกมือลากันไป
จนได้มาลอง Sulwhasoo ตัวนี้ค่ะ ^^



Sulwhasoo Perfecting Cushion Brightening #17

ไหนๆก็นะ ขอเม้าท์นิดนึง แฮ่
คือตอนแรกเรานี่ดิ้นมาก อยากได้ จะเอา ก็ไปเลยค่ะ เซ็นทรัลลาดพร้าว
พี่ BA เลือกให้เป็นเบอร์ 23 เราก็โอเค ปลื้มใจกันไป
แต่ ๆ ๆ วันต่อมาโบกตัวนี้ไปทำงาน มีแต่คนทักว่าทำไมหน้าหมอง
หน้าดูคล้ำ (ดำอะแหละ - -*) กว่าปกติ
เราก็เอาแล้ว หลอนเลยทีนี้ เลยคิดว่าเบอร์นี้คงไม่ใช่แล้วล่ะ
สุดท้ายไปได้เบอร์ 17 มาจากเดอะมอล์บางกะปิค่ะ พี่บีเอเลือกให้เหมือนเดิม
ได้ Sample มาเพียบตามรูปด้านบนเลย สบายใจกันไป *0*

เอ้าๆ กลับเข้าเรื่องกันต่อ ตลับคุชชั่นรุ่นนี้ที่ต่างจากรุ่นแรกอย่างสังเกตได้เลยคือ
ขอบมันจะเป็นสีเงินค่ะ ไม่ใช่สีทอง (เคยเห็นมีคนมาถามว่าของปลอมหรือเปล่า ทำไมเป็นสีนี้)



คือตลับสวยมากเลยนะคะ เราเห็นปุ๊บนี่ใจละลาย มันฟรุ้งฟริ้งเหลือเกิน แฮๆ
ราคาค่าตัวของคุชชั่นตัวนี้อยู่ที่ 2,100 บาทค่ะ บางช่วงก็มีโปรโมชั่นลด 10% นะ
โดยในกล่องจะมีตลับจริง + รีฟิลอีก 1 ชิ้นค่ะ
แล้วการเปลี่ยนรีฟิลคือง่ายมาก แค่ดันตลับคุชชั่นที่อยู่ในเคสออกเท่านั้นเอง มีคำว่า Push อยู่ค่ะ



ตลับนี้เราซื้อมาตอนประมาณเดือนกรกฎาคม วันผลิตที่ระบุก็เป็นช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เรียกว่าใหม่พอสมควรเลยค่ะ ^^





ขออภัยไม่ได้เช็ดตลับค่ะ แฮ่ 555 5

เบอร์ 17 ที่เราได้มาจะเหมาะกับผิวขาวเหลืองค่ะ แต่สีจะติดชมพูนิดนึง
ตอนแรกพี่บีเอลองเบอร์ 13 ให้เราด้วย แต่เราไม่ชอบค่ะ มันเหมาะกับคนผิวโทนชมพูมากกว่า
สำหรับเราเหมาะกับเบอร์ 17 ผิวจะดูไม่ซีดจนเกินไปค่ะ



ข้อดีของรองพื้นตัวนี้คือเนื้อค่อนข้างบางเบา
สามารถใช้ได้ทุกวัน สาวออฟฟิศอย่างเรามันเหมาะมากกก
เพราะใช้ง่าย ไม่ต้องพิถีพิถัน ตบๆ กดๆ บนผิว แปปเดียวก็เนียน
มือไม่เลอะด้วยค่ะ ^^

*ขออภัยนะคะ ไม่มีรูป Before-After เราจำได้ว่าถ่ายไว้แต่ดันหาไม่เจอ สงสัยเผลอลบ แง๊

Finish ของคุชชั่นนี้ที่ได้คือผิวจะยังคงมีความฉ่ำ ดูวาว แต่เนียนขึ้นค่ะ
สำหรับเรามันไม่ได้ปกปิดอะไรเท่าไหร่ ช่วยทำให้ผิวดูนวลขึ้น เนียนขึ้น
สีผิวสม่ำเสมอกันมากขึ้นค่ะ ถ้าอยากให้ปกปิดคงต้องไปใช้รุ่นแรกค่ะ ตัวนี้ไม่ค่อยตอบโจท์เท่าไหร่

ข้อเสียหลักๆ เลยคือไม่คุมมันค่ะ ได้งานผิวเกาหลีจริงอะไรจริง
แต่มันก็ไม่เป็นคราบระหว่างวันนะคะ

ฃ

จากภาพคือเราแต่งหน้าตั้งแต่เช้า มาถ่ายรูปนี้ตอนเย็นค่ะ
มีเติมแป้งฝุ่นช่วงบ่ายครั้งนึงเท่านั้น ผิวจะดูเงาๆ แต่ไม่ได้เยิ้มค่ะ
*โปรดมองข้ามใต้ตาตุ่ยๆของเรานะคะ T^T

มีบางทีเราสับสนกับตัวนี้เล็กน้อยค่ะ
วันที่เราไปทำงานรองพื้นมักจะไม่ทน แต่วันไหนไปเที่ยวนี่
เช้ายันเย็น มันดูโอเคกว่าเยอะเลยนะ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ 5555
สงสัยขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจคนทา




ส่วนตัวเราใช้แล้วยังลงแป้งฝุ่นทับนะคะ เพราะเราผิวผสม
ถ้าไม่ลงเลย เรากลัวว่าผิวจะหนึบเกินไปหน่อยค่ะ

รูปนี้คือเราอยากให้เห็นว่าเวลาอยู่บนผิว จะได้ลุคงานผิวประมาณนี้ค่ะ
มันเนียนนะ แต่ผิวจะดูวาวเล็กน้อย ไม่แมทค่ะ
ตอนทาใหม่ๆ นี่เนียนมาก มีแต่คนทักว่าผิวเนียนมาก หน้าเนียนจัง
ผ่านไปสักพัก 3-4 ชั่วโมงจะเป็นตามรูปค่ะ ^^

สรุปแล้วรองพื้นตัวนี้ เหมาะกับคนที่ชอบงานผิวเกาหลีเล็กน้อย
ผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดิ้วอี้มาก แต่ก็ไม่แมทค่ะ
ถ้าผิวผสมถึงผิวมัน ควรลงแป้งฝุ่นทับหลังจากที่รองพื้นเซ็ทตัวแล้ว
จะทำให้อยู่ทนมากยิ่งขึ้นค่ะ ^^

สุดท้ายนี้ เราหวังว่ารีวิวของเราจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ
และขอบคุณมาก ๆ ที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ ^^