เข้าใจคนที่ไม่ชอบดาวก้อยนะคะ คงอาจจะไม่อินเพราะมันเป็นประเด็นที่เฉพาะตัวมากๆ แต่อยากให้ดูค่ะ คิดซะว่าเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับหญิงรักหญิง เพราะก็คงไม่บ่อยนักที่จะมีคนเอามาตีแผ่ในส่วนที่เป็นรากลึกลงไปจริงๆ ส่วนใหญ่จะเห็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง เห็นว่าผู้หญิง2คนเป็นแฟนกัน ก็เรื่องของเค้าแค่นั้นจบ แต่ถ้าลองดูแล้วคิดตามจะเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น เช่น

ดาวเอาฉิ่งฟาดหัวดิว จะเข้าใจว่าไม่ควรไปล้อว่าตีฉิ่ง ฉิ่งฉับๆ แล้วคิดว่าขำๆ สนุกๆ ไม่มีใครชอบหรอกค่ะ แต่บางทีคิดว่าเพื่อนเล่นขำๆ ไม่อยากเอาเป็นอารมณ์ ก็หัวเราะแต่ในใจไม่แฮปปี้หรอกค่ะ

พาร์ทดาว ทำให้เข้าใจว่ากว่าคนๆนึงจะยอมรับว่าตัวเองชอบเพศเดียวกันได้นั้นมันไม่ง่ายเลยนะคะที่จะยอมรับว่าตัวเองแตกต่าง กว่าจะก้าวผ่านความสับสนในใจ ไหนจะแรงกดดันทางสังคม ความคาดหวังจากครอบครัวถึงแม้คนนอกจะมองว่า คิดไปเองทั้งนั้นไม่มีใครเค้าว่าอะไรสักหน่อย แต่กับคนที่อยู่ในจุดนั้นมันโครตยากเลยค่ะ บางคนบอกว่าเรื่องสังคมรอบตัวเล่นในพาร์ทของดาวไปแล้ว ทำไมยังเล่นพาร์ทของก้อยอีก คือเรามองว่าพาร์ทของดาวเป็นพาร์ทที่แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กับตัวเองของคนที่อยู่ในกรอบของสังคม ซึ่งถ้าไปขยี้ปมว่าแม่ดาวไม่ยอมรับไปเลย เรื่องก็จะจบอยู่แค่ตรงนี้ค่ะ ดาวจะไม่ขัดขืนอะไร

พาร์ทก้อย คือคนที่ไม่ค่อยแคร์กรอบสังคม ซึ่งจะยอมรับตัวเองง่ายๆ ก็เลยสามารถขยี้ปมต่อไปได้ว่าแล้วถ้าครอบครัวไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เค้าเป็นล่ะ พ่อก้อยก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับหญิงรักหญิงเหมือนที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เจอคนดีๆเดี๋ยวก็หาย หรือพูดหยาบๆก็ โดนสักทีเดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าเถียงว่าเคยโดนแล้วไม่เห็นหายเลย ก็จะมองว่าโดนผู้ชายหักอกมาล่ะสิถึงเป็นแบบนี้ มองว่าเพศที่สามเป็นเพศทางเลือก แต่จริงๆแล้วพวกเค้าไม่ได้เลือกค่ะ มันเกิดขึ้นเองโดยที่พวกเค้าไม่ได้เลือก พวกเค้าเพียงแค่เลือกที่จะไม่หลอกตัวเอง หรือหลอกคนอื่น เหมือนที่พ่อของส้มส้ม เป็นเกย์แต่เลือกที่จะแต่งงานมีครอบครัว แต่สุดท้ายก็หลอกตัวเองต่อไปไม่ได้

เราเองเข้าใจในตัวละครก้อยมาก เพราะเราเองก็มีนิสัยคล้ายก้อย รักครั้งแรกของเราก็คล้ายๆก้อย เราเคยมีเพื่อนสนิทมากๆ แล้วก็โดนเพื่อนล้อเพื่อนแซว จนเราเองคิดไปไกล เพื่อนสนิทเองก็เห็นสนุกดีก็เล่นด้วย มีหอมแก้ม ชอบเล่นจ้องตาใครกระพริบตาก่อนคนนั้นแพ้ สุดท้ายเราก็บอกรักเพื่อนเรา แต่เพื่อนบอกให้เป็นเพื่อนกันดีกว่า แต่การกระทำมันไม่ใช่เลย เราทนไม่ไหวไปเจอผู้ชายหล่อ นิสัยดีคนนึงเข้ามาดามใจ เราตัดสินใจคบเพราะคิดว่าเราอาจจะเล่นกับเพื่อนมากไปจนหวั่นไหว แต่ตัวเราเองคงชอบผู้ชายนั่นแหละอย่างน้อยก็ลองดูว่าเราจะชอบผู้ชายได้มั้ย ผู้ชายคนนั้นก็ดูแลเทคแคร์เราอย่างดี แม่เราก็รับรู้และไม่ว่าอะไรเพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้นิสับดี ขยันขันแข็ง เราเองตอนนั้นก็คิดว่าสนุกดี ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง มีคนคอยเทคแคร์ เพื่อนๆก็อิจฉาเรามากเพราะผู้ชายก็หล่อมาก จนเพื่อนสนิทที่เป็นรักแรกของเราบอกว่าให้เลิกเถอะ ไม่อยากให้คบอ่ะ เราก็รีบไปทิ้งผู้ชายเลยจ้าา ทิ้งทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนเรามันจะเอาเรามั้ย แค่อยากให้เพื่อนเห็นว่าเราพร้อมสำหรับเค้าเสมอ  เราสารภาพกับแม่ว่าเราชอบผู้หญิงตอน ม.4-5 เพราะเราไม่สามารถเก็บความรู้สึกนี้ต่อไปได้อีกแล้ว แม่เราตอนแรกก็ทำขรึมไม่ว่าอะไร เดินออกไปหาป้า แล้วเม้าส์ให้ป่ะฟัง หัวเราะคิกคักกันสองคน เรานี่โล่งเลย

ที่เล่ามาทั้งหมดขอรับรองว่าเรื่องจริอแบบย่อๆ นะคะ ไม่ได้เมค แต่มันตรงกับตัวก้อยมากจริงๆ นี่แหละค่ะเราถึงอยากให้ดู ดูเพื่อศึกษาเพื่อเข้าใจ เพราะเพศที่สามก็อยู่รอบๆตัวคุณนั่นแหละ พวกเค้าเหล่านั้นอาจจะไม่ได้มาเล่าให้คุณฟังว่าผ่านอะไรมาบ้าง แต่ถ้าจะเห็นเป็นรอยแผลก็เรียกว่าสะบัก สะบอมเลยทีเดียว