ต้องของออกตัวอย่างแรงก่อนนะคะว่า เป็นการทำรีวิวครั้งแรก ซึ่งอาจไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบอย่างเพื่อนๆที่ทำกันนะคะ แต่อยากมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันการท่องเที่ยวที่ไปมา แม้ว่าจะผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วก็ตามที
เริ่มจากการที่ครอบครัวเราไม่มีการเดินทางไปต่างประเทศแบบครอบครัวมาประมาณ 7 ปีละ เพราะหลังๆเราเน้นที่การท่องเที่ยวในเมืองไทย ขับรถกรุงเทพ เชียงราย กรุงเทพ เชียงใหม่ เสียส่วนใหญ่
พอดีว่าแอร์เอเชียจัดโปรตอน 26 มกราคม 2558 เลยเข้าไปสุ่มดู ได้ราคาที่ค่อนข้างรับได้ ไม่สร้างความลำบากแก่เงินในกระเป๋าเรามากมายนัก
สิงคโปร์ 28-31 ตุลาคม 2558 อุต๊ะ 31 คือวันฮาโลวีน ไม่ได้คิดมาก่อนเลย แค่เลือกวันกะเวลาที่ราคาพอไหวเท่านั้น
หลังจากได้ตั๋วแล้ว อย่างที่บอกว่าไม่มีการเดินทางกันมานานละครอบครัวนี้ แทบทุกคนเลยต้องไปทำพาสปอร์ตกันใหม่หมด แต่ไม่ยากค่ะ แค่นำบัตรประชาชนไป กะเงิน 1000 บาทสำหรับคนที่ไปรับเอง แต่ถ้ามีเด็กอายุไม่ถึง 20 ไปด้วย ต้องมีพ่อกับแม่ไปทำด้วยนะคะ เหมือนว่าพ่อและแม่ยินยอมให้เด็กเดินทางต่างประเทศได้
สมาชิกการเดินทางในครั้งนี้ ก็มีแม่ พี่สาว หลานสาว หลานชาย น้า 2 คน กะปา และมาเพิ่มเพื่อนของน้าสาวอีก 1 คน เริ่ดค่ะ ครบจำนวนของห้องพักที่ได้จองไว้เลย เพราะหลังจากที่ท่องโลกกันมากมาย ก็มาป๊ะกะที่พักคือ Beary Best Hostel ย่าน Chinatown ที่มีคนไทยพักมาก ห้องพักที่เราจองเป็นห้อง Female Dorm with toilet คือห้อง Dorm ที่เป็นเตียง 2 ชั้นสำหรับผู้หญิงและมีห้องน้ำในตัว
อย่างที่บอกครอบครัวนี้ไม่ได้เดินทางต่างประเทศกันนานละ และสิงคโปร์ไม่เคยมีใครไปยกเว้น ปากะพี่สาว
สำหรับปาเป็นการไปทำงานแบบค้าง 1 คืน ได้มีการเยี่ยมเจ้า Merlion มา 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งเป็นตอนดึก เอิ่ม ไม่ค่อยเห็นบรรยากาศอะไรเลย กับอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วเพื่อนชาวสิงคโปร์อนุเคราะห์ขับรถพาไปถ่ายรูปกับเจ้า Merlion ตอนช่วงบ่ายๆ แต่มันก็ไม่ใช่อะ แบบจริงๆละมันคือการไปทำงาน
ส่วนพี่สาว มีทั้งการไปทำงานแบบค้าง 1 คืนกับการเที่ยวของบริษัท ซึ่งการเที่ยวของบริษัทก็รู้ๆอยู่ว่า นอนโรงแรม มีรถรับส่ง กินดีอยู่ดี เอิ่ม มันไม่ใช่ละ
ปากะพี่สาวเลยเริ่มทำการท่องโลก ทั้ง Pantip กับ Singapore Fanclub เพื่อหาทั้งที่พักราคาประหยัด และใกล้รถไฟฟ้า เพราะเรารู้ๆกันอยู่สิงคโปร์เป็นเมืองเล็ก การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินค่อนข้างสะดวก และก็หาแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำกันด้วย
เราก็มีการแบ่งหน้าที่กันไป
พี่สาวหาเกี่ยวกับที่พัก ก็ไปหาทั้ง Air BNB กับ Hostel หรือ Guest House ที่เขาแนะนำกัน
ส่วนปาก็หาที่เที่ยวที่เขาแนะนำและจดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งลืมว่าในกลุ่มมีผู้ใหญ่มากอยู่ 2 คนคือ แม่กับน้าสาว 1 คน สิ่งที่จดไว้ว่าจะไปอะไรพวกนี้ก็ลดไปมากมาย แต่ก็สร้างความประทับใจไว้พอสมควร
การเดินทางไปสิงคโปร์ เราใช้ Air Asia วันที่ 28 ตุลาคม Flight FD361 เวลา 06.15 am - 09.40 am และกลับ วันที่ 31 ตุลาคม Flight FD352 เวลา 10.45 pm - 00.10 pm
อย่างที่รู้ๆกัน Air Asia เป็น Low Cost เราเลยไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง โดยเรียกแท็กซี่จากที่คิดค่าบริการเพิ่ม 20 บาท เพราะเช้ามาก ออกมาโบกรถไปดอนเมืองไม่ได้หรอก และอีกใจหนึ่ง กะว่าจะเอารถไปจอด ค่าที่จอดรถคำนวนละมากกว่าค่าแท็กซี่ 2 คันสำหรับขาไปและกลับ
ส่วนทางสิงคโปร์ที่ Changhi International Airport เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่พอสมควร มี 3 Terminal และ Air Asia ไปลงที่ Terminal 1
และที่พักก็ที่ Chinatown เราได้ที่ Beary Best Hostel ทางออก Exit F ที่พักอยู่ตรงข้ามพอดีเลย และถ้าออก Exit E จะออกที่ตึก People Park Complex ที่หัวมุมถนน พอออกมาจะมองเห็น Hotel81 อยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ข้ามถนนและเดินตรงไปเรื่อยๆ เพราะ Beary Best Hostel อยู่ถนนฝั่งเดียวกับ Hotel81 เลยค่ะ และที่พักแห่งนี้สะดวกมากเลย เพราะฝั่งเดียวกับรถไฟใต้ดิน Exit F เดินไปหน่อยจะเจอ Food Court, ตลาดผลไม้ และมีพวกของเบ็ดเตล็ดขายด้วยค่ะ
สิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน กับความทรงจำที่แสนประทับใจ
เริ่มจากการที่ครอบครัวเราไม่มีการเดินทางไปต่างประเทศแบบครอบครัวมาประมาณ 7 ปีละ เพราะหลังๆเราเน้นที่การท่องเที่ยวในเมืองไทย ขับรถกรุงเทพ เชียงราย กรุงเทพ เชียงใหม่ เสียส่วนใหญ่
พอดีว่าแอร์เอเชียจัดโปรตอน 26 มกราคม 2558 เลยเข้าไปสุ่มดู ได้ราคาที่ค่อนข้างรับได้ ไม่สร้างความลำบากแก่เงินในกระเป๋าเรามากมายนัก
สิงคโปร์ 28-31 ตุลาคม 2558 อุต๊ะ 31 คือวันฮาโลวีน ไม่ได้คิดมาก่อนเลย แค่เลือกวันกะเวลาที่ราคาพอไหวเท่านั้น
หลังจากได้ตั๋วแล้ว อย่างที่บอกว่าไม่มีการเดินทางกันมานานละครอบครัวนี้ แทบทุกคนเลยต้องไปทำพาสปอร์ตกันใหม่หมด แต่ไม่ยากค่ะ แค่นำบัตรประชาชนไป กะเงิน 1000 บาทสำหรับคนที่ไปรับเอง แต่ถ้ามีเด็กอายุไม่ถึง 20 ไปด้วย ต้องมีพ่อกับแม่ไปทำด้วยนะคะ เหมือนว่าพ่อและแม่ยินยอมให้เด็กเดินทางต่างประเทศได้
สมาชิกการเดินทางในครั้งนี้ ก็มีแม่ พี่สาว หลานสาว หลานชาย น้า 2 คน กะปา และมาเพิ่มเพื่อนของน้าสาวอีก 1 คน เริ่ดค่ะ ครบจำนวนของห้องพักที่ได้จองไว้เลย เพราะหลังจากที่ท่องโลกกันมากมาย ก็มาป๊ะกะที่พักคือ Beary Best Hostel ย่าน Chinatown ที่มีคนไทยพักมาก ห้องพักที่เราจองเป็นห้อง Female Dorm with toilet คือห้อง Dorm ที่เป็นเตียง 2 ชั้นสำหรับผู้หญิงและมีห้องน้ำในตัว
อย่างที่บอกครอบครัวนี้ไม่ได้เดินทางต่างประเทศกันนานละ และสิงคโปร์ไม่เคยมีใครไปยกเว้น ปากะพี่สาว
สำหรับปาเป็นการไปทำงานแบบค้าง 1 คืน ได้มีการเยี่ยมเจ้า Merlion มา 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งเป็นตอนดึก เอิ่ม ไม่ค่อยเห็นบรรยากาศอะไรเลย กับอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วเพื่อนชาวสิงคโปร์อนุเคราะห์ขับรถพาไปถ่ายรูปกับเจ้า Merlion ตอนช่วงบ่ายๆ แต่มันก็ไม่ใช่อะ แบบจริงๆละมันคือการไปทำงาน
ส่วนพี่สาว มีทั้งการไปทำงานแบบค้าง 1 คืนกับการเที่ยวของบริษัท ซึ่งการเที่ยวของบริษัทก็รู้ๆอยู่ว่า นอนโรงแรม มีรถรับส่ง กินดีอยู่ดี เอิ่ม มันไม่ใช่ละ
ปากะพี่สาวเลยเริ่มทำการท่องโลก ทั้ง Pantip กับ Singapore Fanclub เพื่อหาทั้งที่พักราคาประหยัด และใกล้รถไฟฟ้า เพราะเรารู้ๆกันอยู่สิงคโปร์เป็นเมืองเล็ก การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินค่อนข้างสะดวก และก็หาแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำกันด้วย
เราก็มีการแบ่งหน้าที่กันไป
พี่สาวหาเกี่ยวกับที่พัก ก็ไปหาทั้ง Air BNB กับ Hostel หรือ Guest House ที่เขาแนะนำกัน
ส่วนปาก็หาที่เที่ยวที่เขาแนะนำและจดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งลืมว่าในกลุ่มมีผู้ใหญ่มากอยู่ 2 คนคือ แม่กับน้าสาว 1 คน สิ่งที่จดไว้ว่าจะไปอะไรพวกนี้ก็ลดไปมากมาย แต่ก็สร้างความประทับใจไว้พอสมควร
การเดินทางไปสิงคโปร์ เราใช้ Air Asia วันที่ 28 ตุลาคม Flight FD361 เวลา 06.15 am - 09.40 am และกลับ วันที่ 31 ตุลาคม Flight FD352 เวลา 10.45 pm - 00.10 pm
อย่างที่รู้ๆกัน Air Asia เป็น Low Cost เราเลยไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง โดยเรียกแท็กซี่จากที่คิดค่าบริการเพิ่ม 20 บาท เพราะเช้ามาก ออกมาโบกรถไปดอนเมืองไม่ได้หรอก และอีกใจหนึ่ง กะว่าจะเอารถไปจอด ค่าที่จอดรถคำนวนละมากกว่าค่าแท็กซี่ 2 คันสำหรับขาไปและกลับ
ส่วนทางสิงคโปร์ที่ Changhi International Airport เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่พอสมควร มี 3 Terminal และ Air Asia ไปลงที่ Terminal 1
และที่พักก็ที่ Chinatown เราได้ที่ Beary Best Hostel ทางออก Exit F ที่พักอยู่ตรงข้ามพอดีเลย และถ้าออก Exit E จะออกที่ตึก People Park Complex ที่หัวมุมถนน พอออกมาจะมองเห็น Hotel81 อยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ข้ามถนนและเดินตรงไปเรื่อยๆ เพราะ Beary Best Hostel อยู่ถนนฝั่งเดียวกับ Hotel81 เลยค่ะ และที่พักแห่งนี้สะดวกมากเลย เพราะฝั่งเดียวกับรถไฟใต้ดิน Exit F เดินไปหน่อยจะเจอ Food Court, ตลาดผลไม้ และมีพวกของเบ็ดเตล็ดขายด้วยค่ะ