ขอออกมาพูดถึงซีรีส์ Part of Love เป็นครั้งสุดท้าย ถึง ZENE Bangkok พวกคุณประเมินศักยภาพตัวเองผิดพลาดไปจริงๆ

อยากจะบอกว่าที่ผ่านมาก็พอจะติดตามข่าวสารอะไรจากซีรีส์เรื่องนี้ มีการช่วยโปรโมทตามกำลังที่ตัวเองมีด้วย แต่ครั้งนี้มันเหลืออดที่จะต้องพูดแล้วจริงๆ
ณ จุดๆ นี้จะไม่พูดถึงช่อง 9 แต่ก็ไม่ได้แปลว่าช่อง 9 ไม่ผิด คุณทำความผิดหลายกระทงจนทำให้ความรู้สึกรักใน Love Sick กลายเป็นความเกลียดชังได้ คุณนี่สุดยอดจริงๆ ซึ่งผมจะกล่าวถึงในอีกกระทู้นึงเมื่อมีโอกาสนะครับ

1. มั่นใจในตัวเองมากเกินไป
ที่เห็นได้ชัดคือความตั้งใจของผู้จัดซีรีส์ ที่เชื่อว่าซีรีส์เรื่องนี้ต้องดัง เพราะมีทั้งนักแสดงที่มีกระแส มีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้ น่าจะดึงวัยรุ่นได้อยู่หมัด
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ซีรีส์ที่จะสนุกและดึงคนดูได้จริงๆ มันอยู่ที่บทและการดำเนินเรื่องต่างหาก ไม่ใช่นักแสดง
ถ้าหากเอาเหตุผลนี้เป็นตัววัดความดังในซีรีส์ แนะนำว่าให้ไปดูคลื่นแทรกผีเป็น Case Study นะครับ ปังมาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

2. โปรโมท Main Idea ของเรื่องไม่ถูกทาง
หลายๆ ครั้งที่เราจะเห็นทีมงานของซีรีส์ออกมาโปรโมทอยู่หลายต่อหลายหนว่าเป็น SitSeries (ซิทคอม+ซีรีส์)
และโหมโปรโมทจุดขายเรื่องภาษาถิ่น ภาษาอังกฤษ บลาๆๆ แต่พอผลงานจริงออกมา กลับกลายเป็นเน้นเรื่องความรักและความฝันไปแทน
คือแบบ...ซิทซีรีส์คืออะไร ดูแล้วก็ไม่ต่างกับซีรีส์ธรรมดาๆ ทั่วไปเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แถมพลาดตรงที่ชูจุดขายผิดไปด้วย เพราะภาษาถิ่น ภาษาอังกฤษ มีให้เห็นในเรื่องนี้น้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก.ไก่ล้านตัว (ซับไตเติ้ลแปลเป็นไทยก็ไม่มี)

3. สบประมาทในวิธีการสร้างซีรีส์
บทของเรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไรที่ Impact มากพอที่จะเป็นแกนเรื่องได้เคยดูผลงานคนเขียนบทท่านนี้หลายเรื่อง ทั้งหอหึหึ, หมู่ 7 เด็ดสระตี่, เฮฮาหน้าซอย แต่เรื่องนี้ผิดฟอร์มมากๆ
อย่างเช่นเรื่องความฝัน เหมือนจะให้ความสำคัญเป็นลำดับรองๆ แทน ก็ทำออกมาให้พอมีอะไรแค่นั้น
ประเด็นการหาประธานชมรมดนตรี คือทำไมต้องแบ่งเป็น 2 ทีม และทำไมตัดสินกันนานจัง นี่ล่อไป 10 ตอนแล้วยังไม่มีบทสรุปอะไรเลย
ครั้นจะมาเล่นเรื่องความรัก ก็ทำออกมาอ่อนไป ไม่ทันเห็นความสัมพันธ์ของแต่ละคู่เลย อยู่ๆ ก็รัก อยู่ๆ ก็เลิกซะงั้น เผลอๆ มีสลับคู่ไปมากันอีก (แน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่ Gossip Girl Thailand)
ส่วนบางกอกนานาภาคแฟร์ เป็นการลงทุนที่ไร้ความหมายเลย พอๆ กับงานคริสต์มาสใน Love Sick Season 2 ที่อยู่ๆ จะมีก็มีขึ้นมาซะงั้น แต่ Part of Love พีคกว่าตรงที่มันไม่มีประเด็นอะไรที่ Support ว่าจำเป็นจะต้องเกิดขึ้นในงานนี้เลย
สภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรียนเราไม่เห็นเลย ใครกินอยู่ยังไง ทำอะไร คิดยังไง พ่อแม่ตัวละครล่ะอยู่ไหน ไม่เห็นเลย มีแต่ส่วนของพุ่มข้าวกับฟ้าใสที่นอนบ้านเดียวกันเท่านั้น
และด้วยธรรมชาติของซีรีส์ ต้องมีเส้นเรื่องที่จบในแต่ละตอน แต่ที่ผ่านมา (ไม่นับ EP ที่พี่เฟรมแข่งบาส กับณัชชาร้องเพลง Without You ของมารายห์ แครี) จะพบว่ามันเหมือนละครธรรมดาๆ ทั่วไปที่มีเส้นเรื่องประเภทเล่าไปเรื่อยๆ จนจบเรื่องจริงๆ

4. ดูถูกพลังของ Social Network
เหมือนทีมงานเรื่องนี้จะค่อนข้างไม่สนใจการโปรโมทผ่าน Social Network เท่าที่ควร สังเกตจากหน้าแฟนเพจ, Twitter, IG ของซีรีส์เอาก็แล้วกัน
เงียบ...ร้าง...มีแค่มาแปะคลิปย้อนหลังของแต่ละ EP เท่านั้นเองหรอกเหรอ?
เทียบกับเพจของซีรีส์เรื่องอื่นๆ อย่างฮอร์โมน, เกรียนเฮ้าส์, Love Sick Season 1 เขายังมีอะไรมาอัพเดทลูกเพจอยู่ตลอดๆ เลย ทั้ง HBD นักแสดง, เบื้องหลังกองถ่าย, ภาพโปรโมทแต่ละ EP, สปอตแต่ละ EP
ยิ่งรู้มาว่าทางผู้จัดดูถูกพลังของ Social Network เพราะคิดว่าคงจะดึงได้แค่แฟนคลับนักแสดงเท่านั้น เลยเน้นโปรโมท Outdoor อย่างการส่งทีมงานไปแจกโปสการ์ดที่จตุจักร เพื่อจะให้เน้นเรตติ้ง ดึงคนดูสดผ่านทีวี
คือซีรีส์วัยรุ่น แต่ไปขายให้กลุ่มที่ไม่ใช่ Target ของซีรีส์ แล้วคนมันจะดูเหรอครับ? ไม่ใช้ Social ดึงวัยรุ่นแล้วมันจะมีคนดูเหรอ?
ผมนี่หมดคำพูดเลย

เอาเป็นว่าทั้งหมดทั้งมวล (ที่ผมพอจะนึกออก) น่าจะเป็นสาเหตุที่ Part of Love มีสภาพอย่างที่เป็นอยู่นั่นเองล่ะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่