สวัสดีค่ะ แนะนำตัวนิดนึงนะคะ เราชื่อมุกค่ะ
เราทำงานอยู่ต่างประเทศที่ต้องแชร์ห้องร่วมกับเพื่อนๆอีก1-2คนใน1ห้องชุดแบบ2-3ห้องนอน และมีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันคือห้องรับแขกและห้องครัวค่ะ ในตึกเดียวกันก็จะมีเพื่อนห้องอื่นอีกหลายๆห้อง แต่ก็จะมีการไปมาหาสู่กินข้าวพบปะกันเป็นประจำตามประสาคนไกลบ้าน ทั้งปาร์ตี้ ดูหนัง ทำอาหาร และรวมถึงหยิบยืมของกินของใช้กันอยู่ตลอดโดยไม่มีใครคิดอะไรเพราะก็คิดว่าแบ่งๆกันกินแบ่งๆกันใช้ค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เรามีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทคนนึง(สมมติว่าชื่อเอ)ไม่ค่อยชอบอยู่ห้องตัวเอง มักจะมาอยู่ที่ห้องเราหรือห้องเพื่อนคนอื่นเสมอ กินข้าวด้วยกันกับเราและรูมเมทเกือบทุกมื้อ เวลาไม่ได้ทำงานก็จะอยู่ห้องเราเกือบตลอดเวลา ซึ่งต้องบอกก่อนว่ากลุ่มพวกเราอยู่ร่วมกันมานานพอที่จะเรียกได้ว่ารู้จักกันค่อนข้างดี ดังนั้นสิ่งที่เอทำก็ไม่แปลกอะไรเพราะเพื่อนคนอื่นในหอก็ทำแบบนี้ บางครั้งเราเองก็ไปกินไปเล่นห้องคนอื่นบ้าง
จนวันนึงมีเหตุทำให้เราต้องให้กุญแจสำรองของห้องเรากับเอไป จนเวลาผ่านไปพักใหญ่เราก็ลืมทวงกุญแจคืน พร้อมกับไม่ได้คิดอะไรมากเลยเลยตามเลย
แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร ประมาณปีกว่านี้ เอก็มาห้องเราเป็นประจำเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับห้องของเราตามนี้ค่ะ (ขอฮาหน่อยนะคะ กลัวจะเครียดกัน)
- ขาดความเป็นส่วนตัว เช่น จู่ๆเขาก็ไขประตูเข้ามาเลยทั้งๆที่ไม่ได้บอกว่าจะมา
- ของกินของใช้ในห้องเริ่มหมดเร็วกว่าปกติ โดยไม่มีการซื้อมาเพิ่มเติม เช่น น้ำขวด ข้าวสาร ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงซักผอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯลฯ ซึ่งของพวกนี้ปกติเราหารกับรูมเมทและวางไว้ส่วนกลาง โดยบางครั้งไม่ได้กินได้ใช้มานานพออยากจะใช้ขึ้นมาก็ไม่มี เหลือแต่ขวด เป็นแบบนี้อยู่นานเป็นปีจนเราเริ่มคิดว่ามันเป็นปัญหาค่ะ
- ค่าน้ำค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ห้องรกขึ้นมากแม้ว่าเรากับรูมเมทจะสลับกันทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิม
- สุดท้ายปัญหาสำคัญคือเวลาเราออกไปซื้อของกินของใช้กับรูมเมทเราจะหารกันทุกครั้ง และเอก็รู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากจะช่วยหาร หรือบางครั้งเราเอ่ยปาก เอก็เอออแต่ก็เงียบไปไม่ค่อยได้จ่าย ทั้งๆที่เอกินข้าวกินน้ำที่ห้องเราอยู่เป็นประจำ (โดยปกติเวลาเราไปกินห้องคนอื่นเราก็จะขอหาร ไม่ก็ทำกับข้าวไปร่วมแจมค่ะ แต่เอทำแบบนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะกินอย่างเดียว ไม่ก็ซื้อกับข้าวมาบ้างนานๆที ไม่ว่ากับห้องไหนก็ตาม) แถมเวลากินเสร็จก็ไม่ช่วยล้างจานด้วยค่ะ
***แต่เอไม่ได้ขี้ขโมยนะคะ ของมีค่าในห้องไม่ได้หายค่ะ***
ปัญหาเท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มีเท่านี้ค่ะ แต่ขออธิบายหน่อยนะคะ ว่าเพื่อนเอคนนี้เค้าเป็นคนไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร เป็นคนน่ารัก คุยสนุก ไม่คิดเล็กคิดน้อย เวลาเพื่อนมีเรื่องเครียดอยากปรึกษาก็สามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ จนทำให้สนิทกันในระดับหนึ่งในช่วงแรก
เข้าคำถามเลยนะคะ
1. เราให้กุญแจไปโดยไม่ได้ถามรูมเมทค่ะ เห็นว่าก็เป็นเพื่อนๆกันอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา เพื่อนๆในพันทิปคิดว่ามีความเห็นยังไงถ้ารูมเมทของคุณให้กุญแจสำรองกับบุคคลที่สามโดยไม่ถามความเห็น
2. คิดว่าเราถูกเอาเปรียบและรู้สึกว่ากุญเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อยากขอคืนต้องพูดยังไงให้ไม่แรงคะ
3. เราจะมีวิธีอย่างไรในการแก้ปัญหาที่โดนเอาเปรียบ โดยบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น เพราะเราก็ไม่ได้อยากเลิกคบเอนะคะ เราเลยไม่ค่อยกล้าพูด หรือพอพูดออกไปก็ไม่หนักแน่นพอเพราะก็เกรงใจเหมือนอารมณ์ทวงตังค์น่ะค่ะ พูดยากและส่วนตัวแล้วรู้ว่าเรื่องแบบนี้น่าจะรู้ตัวเองไม่ต้องให้คนอื่นบอก
4. ข้อนี้เราอยากรู้มากที่สุดเลยค่ะคือ คนที่มีลักษณะนิสัยแบบเอ (ที่เราคิดว่าชอบมาเนียนเอาเปรียบคนอื่น) เค้าคิดอะไรกันอยู่เหรอคะ
5. เพื่อนๆที่มีประสบการณ์คล้ายกันแชร์ทางแก้ แชร์เรื่องกันได้นะคะ
ขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะถ้าแทกผิดห้องหรือโพสคำถามซ้ำ และขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ
-มุก-
จะทำยังไงหากคุณถูกเพื่อนร่วมหอเอาเปรียบ
เราทำงานอยู่ต่างประเทศที่ต้องแชร์ห้องร่วมกับเพื่อนๆอีก1-2คนใน1ห้องชุดแบบ2-3ห้องนอน และมีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันคือห้องรับแขกและห้องครัวค่ะ ในตึกเดียวกันก็จะมีเพื่อนห้องอื่นอีกหลายๆห้อง แต่ก็จะมีการไปมาหาสู่กินข้าวพบปะกันเป็นประจำตามประสาคนไกลบ้าน ทั้งปาร์ตี้ ดูหนัง ทำอาหาร และรวมถึงหยิบยืมของกินของใช้กันอยู่ตลอดโดยไม่มีใครคิดอะไรเพราะก็คิดว่าแบ่งๆกันกินแบ่งๆกันใช้ค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เรามีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทคนนึง(สมมติว่าชื่อเอ)ไม่ค่อยชอบอยู่ห้องตัวเอง มักจะมาอยู่ที่ห้องเราหรือห้องเพื่อนคนอื่นเสมอ กินข้าวด้วยกันกับเราและรูมเมทเกือบทุกมื้อ เวลาไม่ได้ทำงานก็จะอยู่ห้องเราเกือบตลอดเวลา ซึ่งต้องบอกก่อนว่ากลุ่มพวกเราอยู่ร่วมกันมานานพอที่จะเรียกได้ว่ารู้จักกันค่อนข้างดี ดังนั้นสิ่งที่เอทำก็ไม่แปลกอะไรเพราะเพื่อนคนอื่นในหอก็ทำแบบนี้ บางครั้งเราเองก็ไปกินไปเล่นห้องคนอื่นบ้าง
จนวันนึงมีเหตุทำให้เราต้องให้กุญแจสำรองของห้องเรากับเอไป จนเวลาผ่านไปพักใหญ่เราก็ลืมทวงกุญแจคืน พร้อมกับไม่ได้คิดอะไรมากเลยเลยตามเลย
แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร ประมาณปีกว่านี้ เอก็มาห้องเราเป็นประจำเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับห้องของเราตามนี้ค่ะ (ขอฮาหน่อยนะคะ กลัวจะเครียดกัน)
- ขาดความเป็นส่วนตัว เช่น จู่ๆเขาก็ไขประตูเข้ามาเลยทั้งๆที่ไม่ได้บอกว่าจะมา
- ของกินของใช้ในห้องเริ่มหมดเร็วกว่าปกติ โดยไม่มีการซื้อมาเพิ่มเติม เช่น น้ำขวด ข้าวสาร ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงซักผอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯลฯ ซึ่งของพวกนี้ปกติเราหารกับรูมเมทและวางไว้ส่วนกลาง โดยบางครั้งไม่ได้กินได้ใช้มานานพออยากจะใช้ขึ้นมาก็ไม่มี เหลือแต่ขวด เป็นแบบนี้อยู่นานเป็นปีจนเราเริ่มคิดว่ามันเป็นปัญหาค่ะ
- ค่าน้ำค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ห้องรกขึ้นมากแม้ว่าเรากับรูมเมทจะสลับกันทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิม
- สุดท้ายปัญหาสำคัญคือเวลาเราออกไปซื้อของกินของใช้กับรูมเมทเราจะหารกันทุกครั้ง และเอก็รู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากจะช่วยหาร หรือบางครั้งเราเอ่ยปาก เอก็เอออแต่ก็เงียบไปไม่ค่อยได้จ่าย ทั้งๆที่เอกินข้าวกินน้ำที่ห้องเราอยู่เป็นประจำ (โดยปกติเวลาเราไปกินห้องคนอื่นเราก็จะขอหาร ไม่ก็ทำกับข้าวไปร่วมแจมค่ะ แต่เอทำแบบนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะกินอย่างเดียว ไม่ก็ซื้อกับข้าวมาบ้างนานๆที ไม่ว่ากับห้องไหนก็ตาม) แถมเวลากินเสร็จก็ไม่ช่วยล้างจานด้วยค่ะ
***แต่เอไม่ได้ขี้ขโมยนะคะ ของมีค่าในห้องไม่ได้หายค่ะ***
ปัญหาเท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มีเท่านี้ค่ะ แต่ขออธิบายหน่อยนะคะ ว่าเพื่อนเอคนนี้เค้าเป็นคนไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร เป็นคนน่ารัก คุยสนุก ไม่คิดเล็กคิดน้อย เวลาเพื่อนมีเรื่องเครียดอยากปรึกษาก็สามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ จนทำให้สนิทกันในระดับหนึ่งในช่วงแรก
เข้าคำถามเลยนะคะ
1. เราให้กุญแจไปโดยไม่ได้ถามรูมเมทค่ะ เห็นว่าก็เป็นเพื่อนๆกันอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา เพื่อนๆในพันทิปคิดว่ามีความเห็นยังไงถ้ารูมเมทของคุณให้กุญแจสำรองกับบุคคลที่สามโดยไม่ถามความเห็น
2. คิดว่าเราถูกเอาเปรียบและรู้สึกว่ากุญเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อยากขอคืนต้องพูดยังไงให้ไม่แรงคะ
3. เราจะมีวิธีอย่างไรในการแก้ปัญหาที่โดนเอาเปรียบ โดยบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น เพราะเราก็ไม่ได้อยากเลิกคบเอนะคะ เราเลยไม่ค่อยกล้าพูด หรือพอพูดออกไปก็ไม่หนักแน่นพอเพราะก็เกรงใจเหมือนอารมณ์ทวงตังค์น่ะค่ะ พูดยากและส่วนตัวแล้วรู้ว่าเรื่องแบบนี้น่าจะรู้ตัวเองไม่ต้องให้คนอื่นบอก
4. ข้อนี้เราอยากรู้มากที่สุดเลยค่ะคือ คนที่มีลักษณะนิสัยแบบเอ (ที่เราคิดว่าชอบมาเนียนเอาเปรียบคนอื่น) เค้าคิดอะไรกันอยู่เหรอคะ
5. เพื่อนๆที่มีประสบการณ์คล้ายกันแชร์ทางแก้ แชร์เรื่องกันได้นะคะ
ขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะถ้าแทกผิดห้องหรือโพสคำถามซ้ำ และขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ
-มุก-