ตอนก่อนหน้า
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001
ในตอนนี้จะมาพูดถึงกันเรื่อง การลำดับความคิด หรือแนวทาง...การวินิจฉัยด้วยการแพทย์แผนจีน
และนำมาเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการ Trade หุ้นนะครับ
ในการแพทย์แผนจีนนั้น มีปรัชญาพื้นฐานที่เป็นหลัก ในการวิเคราะห์เลยคือ "หยินหยาง" 阴阳
**หยิน หยาง คือ ตัวแทนระหว่างสิ่งสองสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน....เช่น น้ำ กับ ไฟ เย็น กับ ร้อน ดำ กับ ขาวและแน่นอน ในหุ้นก็คือ "ลงกับขึ้น"
ต่อไปเรามาดูกันนะครับว่า ศาสตร์ 2 ศาสตร์ มันจะมาเชื่อมกันอย่างไร ...? และหลักการในแพทย์จีนจะมาใช้ในการ วิเคราะห์กราฟเทคนิคหุ้นได้หรือไม่?..
เมื่อผู้ป่วยมาหาแพทย์จีน สิ่งแรกที่หมอจีนอย่างเราๆจะทำกันก็คือ วิเคราะห์ว่า อาการที่ผู้ป่วยเล่ามานั้น เป็น "หยิน (เย็น)" หรือ "หยาง (ร้อน)"
หลังจากนั้นเมื่อรู้แล้ว ว่าผู้ป่วยมีอาการ เป็น "หยิน (เย็น)" หรือ "หยาง (ร้อน)" เราก็จะต้องมาวิเคราะห์ต่อไปว่า อยู่ที่ตำแหน่งใด อวัยวะใด?
ถ้าอย่างนั้นในหุ้น สิ่งแรกเลยที่เราเปิดกราฟ ก็ต้องวิเคราะห์ว่า เป็น "หยิน (ขาลง)" หรือ "หยาง (ขาขึ้น)"
ในตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่า หุ้นเป็น "หยิน(ขาลง)" หรือ "หยาง(ขาขึ้น)" เราก็จะมาดูต่อไปว่า อยู่ในช่วงไหน ตำแหน่งไหน...?
ดังนั้นสมมติว่าเรารู้แล้วว่าตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะเย็น (หยิน) เราวิเคราะห์ได้แล้วว่า อาการเย็นนั้นอยู่ในอวัยวะ ไต
การรักษาของเราก็จะเจาะจงลงไปทำการรักษาที่ อวัยวะไต โดย การจ่ายยาร้อน เพื่อไปรักษาอาการเย็น ของไต
ดังนั้นสมมติว่าเรารู้แล้วว่าตอนนี้ หุ้น อยู่ในภาวะขาลง (หยิน) เราก็จะต้องมาวิเคราะห์ต่อไปว่า อยู่ในช่วงใดของขาลง อาจจะใช้ ทฤษฎี Elliot wave ช่วย
เช่น เราอาจดูแล้วตาม ทบ. Elliot wave อยู่ช่วงเริ่มต้น Wave2 c เราก็จะรู้แล้วว่า เราควรจะเปิดสถานะขาย (Open short) หรือถ้าในตลาดหุ้น ก็แปลว่า ถ้าเราติดดอยอยุ่ ตรงนี้ควรขายขาดทุนไปก่อน และลงไปรับใหม่ข้างล่าง เมื่อจบ Wave2 c ....ถ้าไม่มีหุ้น ก็ไม่ควรซื้อ เพราะจะลงต่อ..
ในแพทย์แผนจีนนั้น การวิเคราะห์แยกแยะระหว่าง "หยิน หยาง" นั้น มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
(ปล. หยิน หยาง ไม่จำกัด แค่ร้อนเย็น แต่ยังรวมถึง ตำแหน่งบน ล่าง นอกใน ฯลฯ และที่สำคัญกว่านั้น ใน"หยิน" ก็สามารถแบ่งเป็น "หยิน หยาง" ได้อีก...
เหมือนรูป "หยิน หยาง" ที่จะเห็นว่า ในสีขาว มีจุดสีดำ ในสีดำ มีจุดสีขาว ----- ในหุ้นก็คือ ในขาลงใหญ่ ก็ยังมีขาขึ้น และ ขาลง เล็กๆซ่อนอยู่)
**สรุปใจความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ในทางการแพทย์จีนหรือว่าจะเป็นการวิเคราะห์เทคนิคหุ้น สิ่งที่ควรจะเริ่มเหมือนกันก็คือ เริ่มจากภาพใหญ่และค่อยๆย่อยลงสู่ภาพเล็กลงๆ เรื่อยๆ**
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เราจะวิเคราะห์ หรือ วินิจฉัยได้ ก็ต้องอาศัย พื้นฐานความรู้ ในเรื่องนั้นๆ
หากว่าเรายังไม่สามารถแยกแยะระหว่าง "หยิน หยาง" ได้นั้น แสดงว่า ความรู้พื้นฐานของเรายังไม่พอ....
จึงควรต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
ปล.ในบทความนี้ก็จะกล่าวเพียงเท่านี้ก่อน ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยนำบทความต่างๆมาลงเรื่อยๆ ตามโอกาสและเวลาที่เอื้ออำนวย
สุดท้ายนี้ อยากจะเรียนทุกท่านทว่า ความรู้ผมมีจำกัด ทั้งในด้านแพทย์จีนและการเทรดหุ้น หากเกิดข้อผิดพลาด หรือเขียนสิ่งใดที่ท่านเห็นว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง กรุณาทักท้วงได้เลยครับ...
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความต่างๆที่ผมได้เขียนมาลงนั้น จะมีประโยชน์ต่อทุกท่าน...ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งในการเทรดหุ้นและดำเนินชีวิต
ระหว่างวัน อาจจะมีการอัพเดท ผ่าน Facebook คับ ติดตามได้ที่
www.facebook.com/Talkwithphukijj
และกระทู้อื่นๆได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2.1 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น @ การติดดอย)
http://ppantip.com/topic/34432424
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34427403
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
เมียน้อย เมียหลวง และหุ้น
http://ppantip.com/topic/34405375
"Trade หุ้น" ให้เหมือนกับ "การจ่ายยารักษาโรค"
http://ppantip.com/topic/34378203
การตั้งคำถามกับหุ้น สำคัญไฉน? BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34409960
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 3 @ ลำดับความคิด) BY ภูกิจ
ตอนก่อนหน้า
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001
ในตอนนี้จะมาพูดถึงกันเรื่อง การลำดับความคิด หรือแนวทาง...การวินิจฉัยด้วยการแพทย์แผนจีน
และนำมาเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการ Trade หุ้นนะครับ
ในการแพทย์แผนจีนนั้น มีปรัชญาพื้นฐานที่เป็นหลัก ในการวิเคราะห์เลยคือ "หยินหยาง" 阴阳
**หยิน หยาง คือ ตัวแทนระหว่างสิ่งสองสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน....เช่น น้ำ กับ ไฟ เย็น กับ ร้อน ดำ กับ ขาวและแน่นอน ในหุ้นก็คือ "ลงกับขึ้น"
ต่อไปเรามาดูกันนะครับว่า ศาสตร์ 2 ศาสตร์ มันจะมาเชื่อมกันอย่างไร ...? และหลักการในแพทย์จีนจะมาใช้ในการ วิเคราะห์กราฟเทคนิคหุ้นได้หรือไม่?..
เมื่อผู้ป่วยมาหาแพทย์จีน สิ่งแรกที่หมอจีนอย่างเราๆจะทำกันก็คือ วิเคราะห์ว่า อาการที่ผู้ป่วยเล่ามานั้น เป็น "หยิน (เย็น)" หรือ "หยาง (ร้อน)"
หลังจากนั้นเมื่อรู้แล้ว ว่าผู้ป่วยมีอาการ เป็น "หยิน (เย็น)" หรือ "หยาง (ร้อน)" เราก็จะต้องมาวิเคราะห์ต่อไปว่า อยู่ที่ตำแหน่งใด อวัยวะใด?
ถ้าอย่างนั้นในหุ้น สิ่งแรกเลยที่เราเปิดกราฟ ก็ต้องวิเคราะห์ว่า เป็น "หยิน (ขาลง)" หรือ "หยาง (ขาขึ้น)"
ในตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่า หุ้นเป็น "หยิน(ขาลง)" หรือ "หยาง(ขาขึ้น)" เราก็จะมาดูต่อไปว่า อยู่ในช่วงไหน ตำแหน่งไหน...?
ดังนั้นสมมติว่าเรารู้แล้วว่าตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะเย็น (หยิน) เราวิเคราะห์ได้แล้วว่า อาการเย็นนั้นอยู่ในอวัยวะ ไต
การรักษาของเราก็จะเจาะจงลงไปทำการรักษาที่ อวัยวะไต โดย การจ่ายยาร้อน เพื่อไปรักษาอาการเย็น ของไต
ดังนั้นสมมติว่าเรารู้แล้วว่าตอนนี้ หุ้น อยู่ในภาวะขาลง (หยิน) เราก็จะต้องมาวิเคราะห์ต่อไปว่า อยู่ในช่วงใดของขาลง อาจจะใช้ ทฤษฎี Elliot wave ช่วย
เช่น เราอาจดูแล้วตาม ทบ. Elliot wave อยู่ช่วงเริ่มต้น Wave2 c เราก็จะรู้แล้วว่า เราควรจะเปิดสถานะขาย (Open short) หรือถ้าในตลาดหุ้น ก็แปลว่า ถ้าเราติดดอยอยุ่ ตรงนี้ควรขายขาดทุนไปก่อน และลงไปรับใหม่ข้างล่าง เมื่อจบ Wave2 c ....ถ้าไม่มีหุ้น ก็ไม่ควรซื้อ เพราะจะลงต่อ..
ในแพทย์แผนจีนนั้น การวิเคราะห์แยกแยะระหว่าง "หยิน หยาง" นั้น มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
(ปล. หยิน หยาง ไม่จำกัด แค่ร้อนเย็น แต่ยังรวมถึง ตำแหน่งบน ล่าง นอกใน ฯลฯ และที่สำคัญกว่านั้น ใน"หยิน" ก็สามารถแบ่งเป็น "หยิน หยาง" ได้อีก...
เหมือนรูป "หยิน หยาง" ที่จะเห็นว่า ในสีขาว มีจุดสีดำ ในสีดำ มีจุดสีขาว ----- ในหุ้นก็คือ ในขาลงใหญ่ ก็ยังมีขาขึ้น และ ขาลง เล็กๆซ่อนอยู่)
**สรุปใจความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ในทางการแพทย์จีนหรือว่าจะเป็นการวิเคราะห์เทคนิคหุ้น สิ่งที่ควรจะเริ่มเหมือนกันก็คือ เริ่มจากภาพใหญ่และค่อยๆย่อยลงสู่ภาพเล็กลงๆ เรื่อยๆ**
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เราจะวิเคราะห์ หรือ วินิจฉัยได้ ก็ต้องอาศัย พื้นฐานความรู้ ในเรื่องนั้นๆ
หากว่าเรายังไม่สามารถแยกแยะระหว่าง "หยิน หยาง" ได้นั้น แสดงว่า ความรู้พื้นฐานของเรายังไม่พอ....
จึงควรต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
ปล.ในบทความนี้ก็จะกล่าวเพียงเท่านี้ก่อน ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยนำบทความต่างๆมาลงเรื่อยๆ ตามโอกาสและเวลาที่เอื้ออำนวย
สุดท้ายนี้ อยากจะเรียนทุกท่านทว่า ความรู้ผมมีจำกัด ทั้งในด้านแพทย์จีนและการเทรดหุ้น หากเกิดข้อผิดพลาด หรือเขียนสิ่งใดที่ท่านเห็นว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง กรุณาทักท้วงได้เลยครับ...
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความต่างๆที่ผมได้เขียนมาลงนั้น จะมีประโยชน์ต่อทุกท่าน...ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งในการเทรดหุ้นและดำเนินชีวิต
ระหว่างวัน อาจจะมีการอัพเดท ผ่าน Facebook คับ ติดตามได้ที่
www.facebook.com/Talkwithphukijj
และกระทู้อื่นๆได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2.1 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น @ การติดดอย)
http://ppantip.com/topic/34432424
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34427403
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
เมียน้อย เมียหลวง และหุ้น
http://ppantip.com/topic/34405375
"Trade หุ้น" ให้เหมือนกับ "การจ่ายยารักษาโรค"
http://ppantip.com/topic/34378203
การตั้งคำถามกับหุ้น สำคัญไฉน? BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34409960
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001