ประเทศ "สิงค์โปร" หนึ่งในอาเซียนประเทศเพื่อนบ้านที่เราสามารถไปเที่ยวได้ และเป็นประเทศที่มีความเจริญมากที่สุดอีกประเทศหนึ่งของโลกค่ะ พูดถึงสิงคโปร์สิ่งแรกที่เรารู้จักตอนเด็กคือ "สิงโตตัวใหญ่ แต่ตัวเป็นปลา" (เมอร์ไลออน) มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นสิงคโปร์มากที่สุด ถ้าใครไม่ได้แวะชมหรือแวะเซลฟี่เก็บไว้ แสดงว่ามาไม่ถึงสิงค์โปรนะ ขอบอก ^^ ส่วนปัจจุบันราคาตั้วเครื่องบินถูกกว่าเมื่อก่อนเยอะมากจึงทำให้ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันเยอะขึ้น เราก็เปนหนึ่งในนั้นค่ะ เราเริ่มค้นหาข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ประจวบเหมาะกับสายการบินพี่หางแดง(เจ้าประจำ)ปล่อยโปรโมชั่น ไป-กลับ ราคา 3500 บาท ต่อคน เราคิดว่าราคานี้ก็ถูกแล้ว แต่สายการบินนี้ขอบอกเลยว่ามีโปรถูกกว่านี้อีกบางโปร ไป-กลับ ไม่เกิน 2000 ต่อคนก็มีค่ะ เจ๋งสุดๆเลย เราโทรหาคุณแม่ทันทีว่าอยากไปเที่ยวสิงคโปร์ไหม? คำตอบคือ " ไป " หลังจากวางสาย รออะไรล่ะ จัดสิค่ะ!! จองตั๋วเครื่องบินทันที 555 โดยมีผู้ร่วมทริปเดินทาง 4 คนค่ะ
มาถึงคิวจองโรงแรมเราเลือกอยู่ย่าน ลาเวนเดอร์ ค่ะ เพราะคนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ เราจอง อาร์ตั้น บูติค (Arton Boutique Hotel) โรงแรมห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน 600 เมตร เดินเท้า 10 นาที
***เราแนะนำสำหรับวัยรุ่นนะค่ะ ราคาไม่สูง โรงแรมดี มีมินิบาร์ฟรีทุกวัน ทำความสะอาดทุกวัน ห้องพักไม่แคบจนเกินไป มีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลยค่ะ ^^ แต่ถ้ามีผู้สูงอายุมาด้วยแนะนำโรงแรมที่ติดรถไฟฟ้าเลยดีกว่า แค่วันแรกแม่เราก็บ่นจนหูชาซะแล้ว 555 ว่าโรงแรมไกลไป พอดีคุณแม่เอ็นข้อเข่าไม่ค่อยดีค่ะเดินเยอะมากไม่ได้ ต้องนั่งพักเป็นครั้งคราว สำหรับการเดินทางสะดวกพอกับฮ่องกงเลยค่ะ จะอยู่ย่านไหนก็ไปเที่ยวแต่ละสถานที่ทั่วถึงไปหมด ราคาโรงแรมจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับย่านนั้นๆด้วยค่ะ วันแรก พร้อมกันที่สนามบินดอนเมืองรอขึ้นเครื่องไฟท์ 10.30น. (ทริปนี้เรามาก่อน 3 ชั่วโมง ไม่ตกเครื่องแบบรอบฮ่องกงแล้วน้าาา ^^") ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึง ประเทศสิงคโปร์แล้ว
ถึงคิวเตรียมผ่าน ตม. ความรู้สึกครั้งนี้ไม่ค่อยอึดอัดมากเท่าไหร่เพราะมากับครอบครัวเลยทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ว่าคงไม่ถามอะไรแน่ๆ เพราะนามสกุลเดียวกัลทั้งหมด เราเลยให้คุณแม่กับน้องไปก่อนค่ะ เพราะถ้ามีอะไรเราจะได้พุ่งเข้าไปทันที 555 (ภาษาไม่ได้หรอกค่ะ แต่ต้องช่วยครอบครัวเราก่อน ^^") สรุปก็ผ่านกันทั้งหมดโดยเจ้าหน้าที่ไม่ถามอะไรเลยสักคนค่ะ (ปล. อย่าลืมหยิบลูกอมตรงตม. มาชิมนะค่ะ อร่อยจริงๆค่ะ หยิบพอประมาณไม่เยอะเกินไปนะค่ะ เผื่อคนข้างหลังบ้างน้าา ^^
ก่อนอื่นเราหาซื้อบัตร ez-link ก่อนเลยมันสะดวกสบายในการจ่ายเงินมาก ใช้จ่ายผ่านบัตรได้หลายอย่างเลยค่ะ ได้บัตรมาเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อไปโรงแรม นั่งยาวไปถึงสถานีลาเวนเดอร์เลยค่ะ สะดวกสุดๆ อากาศที่นี่ค่อนข้างร้อน ประเทศสิงคโปร์ ไม่มีฤดูหนาวต่อให้มาเดือน ธค.-กพ. ก็ไม่หนาวค่ะ แต่จะมีไฟประดับตามข้างทางเยอะมากๆ ก่อนคริสมาสต์ปลายเดือนพย.ก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ เราเดินทางวันที่ 30 พย.-4ธค. 57ที่เลือกมา 5 วัน 4 คืน เพราะไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยเกินไปค่ะ ถ้ามาแบบสไตล์วัยรุ่น 3 วัน 2 คืนก็พอแล้ววว ^^
ถึงโรงแรมเวลา 16.00น. (เวลาสิงคโปร์) เช็คอินเข้าโรงแรมเสร็จเรียบร้อย ให้คุณแม่พักเหนื่อยสักหน่อยแล้วออกไปทานข้าวใกล้ๆโรงแรมค่ะพูดถึงรสชาติอาหารของที่นั่นหลายๆเมนู เราทานได้หมดเลยนะ มันเป็นรสชาติที่ยังพอคุ้นเคยคล้ายๆที่ไทยอยู่ เสร็จแล้วก็พากันเดินแถวบริเวณโรงแรม แวะซุปเปอร์มาเก็ต ซื้อผลไม้ น้ำ ขนม กลับไปทานต่อที่โรงแรมและพักผ่อนค่ะ วันแรกขอพักเต็มที่เตรียมลุยวันต่อไปค่ะ ^^
วันที่ 2 เราแวะกินข้าว Kopitiam ที่ห้าง Vivo City ชั้น B2 ราคาไม่แพง อิ่ม อร่อยค่ะ แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 3 เพื่อจะไป Universal Studio จะเจอทางเข้า Sentosa Express เลยค่ะ ใช้บัตร EZ-Link แตะใช้บริการได้เลย ( เราซื้อบัตรเข้าจากที่ไทยมาเลยเพื่อประหยัดเวลาค่ะ )การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วง มาลงที่สถานี HarbourFront Station ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมีป้ายบอกตลอดทางค่ะ Sentosa Express มีทั้งหมด 4 สถานี
สถานีที่ 1 คือ Sentosa Station ( ห้าง Vivo City ที่เราขึ้นนั่นแหละค่ะ)
สถานีที่ 2 คือ WaterFront Station (Resort World) Universal Studio อยู่สถานีนี้นะค่ะเราลงสถานีนี้ที่แรกเลยค่ะผ่านประตูเข้าไปไม่ทันไหร่ก็พากันถ่ายรูปความประทับใจกับ พี่ลูกโลกหมุนๆ สุดฮอตกันทันที ทันใด ^^
เดินเข้ามาอีกนิดเจอพี่ มินเนี่ยน ตัวโปรด ^^
เครื่องเล่นที่ 1. โซน MADAGASCAR น่ารักดีค่ะ ร้องเพลงตามแล้วโยกตามจังหวะเพลงไปด้วย
เครื่องเล่นที่ 2. โซน Shrek 4-D Adventure เป็นหนัง 4D หรือ หนังสี่มิติ ค่ะ สนุกสมจริง คุณแม่ชอบมาก
เครื่องเล่นที่ 3. โซน The Lost World พอดีเราสังเกตจากคนที่ซื้อเสื้อกันฝน คิดในใจว่าต้องเปียกแน่ๆ จะเปียกหรือไม่เปียกอยู่ที่ดวงล้วนๆ พอเข้าไปด้านในเราว่ามันมืดจนเวียนหัวเกินไปอ่ะค่ะ มืดสนิทมากตลอดทางจนใกล้จบจุดพีคอยู่ตรงนี้ ^^
ขอพักทานข้าวที่ discovery Food court ในโซน The Lost World นั่นแหละค่ะ หื้มมม!! ..ราคาแพงเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าไม่คิดมากลองสักครั้งก็ไม่เป็นไรน้า ^^
เครื่องเล่นที่ 4. โซน Ancient Egypt อันนี้ไม่ได้เข้าเล่นนะค่ะ เพราะคิวเยอะมาก เลยแค่เก็บภาพบรรยากาศด้านนอกจ้า
เครื่องเล่นที่ 5. โซน ทรานเฟอร์เมอร์ ยกอันนี้ให้เป็นที่ 1 ในใจค่ะ สนุกมากๆ มันส์มาก อยากเล่นซ้ำๆหลายๆรอบเลยค่ะ แต่ขอบอกต่อคิวนานมากกก
สถานีที่ 3 คือ Imbiah Station แวะถ่ายรูปคู่กับพี่สิงโต
สถานีที่ 4 คือ Beach Station (ดูโชว์แสง สี เสียง Wings of Time Theatre)
แวะถ่ายรูปต้นต้นคริสมาสต์ยักษ์ที่ห้าง Vivo City สักแปป
พี่น้องหยอกล้อกันเล่น ^^"
เดินเหนื่อยแล้ว ท้องก็ร้องหิว หิว เราแวะกินข้าวที่ร้าน din tai fung เสี่ยวหลงเปา ที่ห้าง paragon ถนน Orchard ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ เราน่งรอคิวเรียกอยู่ 20 นาที เพราะคนเยอะมากๆ พอถึงคิวเข้าไปปุ๊บ สั่งกระจาย รสชาติอาหารโอเครค่ะ รวมๆแล้วประทับใจ ^^ ออกมาเดินย่อยถ่ายรูปหน้าห้างสักพัก ย่านนี้ประดับไฟตามทางถนนสวยละลานตามากเลยค่ะ
วันที่ 3 แวะกินข้าวเช้าที่ Food cort ย่านลาเวนเดอร์ พอท้องอิ่มแล้วก็ออกไปเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ (chinatown) นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานี Chinatown เลยค่ะ ออก Pagoda Street Exit A
สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก เราแวะเดินดูซื้อของฝากไปเรื่อยๆ แล้วก็มุ่งหน้าไป วัดพระเขี้ยวแก้วกันต่อค่ะ
มีไอติมหลอดแบบบ้านเราด้วย ^^
ตกเย็นเราก็ไปย่าน คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) ลมเย็นสบาย บรรยากาศดีสุดๆ
เด๋วมาต่อวันที่เหลือให้จบน้าาา ขอตัวไปนอนก่อนค่าาาา ^^
พาครอบครัวตะลุยกิน..เที่ยว "สิงค์โปร"
มาถึงคิวจองโรงแรมเราเลือกอยู่ย่าน ลาเวนเดอร์ ค่ะ เพราะคนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ เราจอง อาร์ตั้น บูติค (Arton Boutique Hotel) โรงแรมห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน 600 เมตร เดินเท้า 10 นาที
***เราแนะนำสำหรับวัยรุ่นนะค่ะ ราคาไม่สูง โรงแรมดี มีมินิบาร์ฟรีทุกวัน ทำความสะอาดทุกวัน ห้องพักไม่แคบจนเกินไป มีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลยค่ะ ^^ แต่ถ้ามีผู้สูงอายุมาด้วยแนะนำโรงแรมที่ติดรถไฟฟ้าเลยดีกว่า แค่วันแรกแม่เราก็บ่นจนหูชาซะแล้ว 555 ว่าโรงแรมไกลไป พอดีคุณแม่เอ็นข้อเข่าไม่ค่อยดีค่ะเดินเยอะมากไม่ได้ ต้องนั่งพักเป็นครั้งคราว สำหรับการเดินทางสะดวกพอกับฮ่องกงเลยค่ะ จะอยู่ย่านไหนก็ไปเที่ยวแต่ละสถานที่ทั่วถึงไปหมด ราคาโรงแรมจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับย่านนั้นๆด้วยค่ะ วันแรก พร้อมกันที่สนามบินดอนเมืองรอขึ้นเครื่องไฟท์ 10.30น. (ทริปนี้เรามาก่อน 3 ชั่วโมง ไม่ตกเครื่องแบบรอบฮ่องกงแล้วน้าาา ^^") ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึง ประเทศสิงคโปร์แล้ว
ถึงคิวเตรียมผ่าน ตม. ความรู้สึกครั้งนี้ไม่ค่อยอึดอัดมากเท่าไหร่เพราะมากับครอบครัวเลยทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ว่าคงไม่ถามอะไรแน่ๆ เพราะนามสกุลเดียวกัลทั้งหมด เราเลยให้คุณแม่กับน้องไปก่อนค่ะ เพราะถ้ามีอะไรเราจะได้พุ่งเข้าไปทันที 555 (ภาษาไม่ได้หรอกค่ะ แต่ต้องช่วยครอบครัวเราก่อน ^^") สรุปก็ผ่านกันทั้งหมดโดยเจ้าหน้าที่ไม่ถามอะไรเลยสักคนค่ะ (ปล. อย่าลืมหยิบลูกอมตรงตม. มาชิมนะค่ะ อร่อยจริงๆค่ะ หยิบพอประมาณไม่เยอะเกินไปนะค่ะ เผื่อคนข้างหลังบ้างน้าา ^^
ก่อนอื่นเราหาซื้อบัตร ez-link ก่อนเลยมันสะดวกสบายในการจ่ายเงินมาก ใช้จ่ายผ่านบัตรได้หลายอย่างเลยค่ะ ได้บัตรมาเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อไปโรงแรม นั่งยาวไปถึงสถานีลาเวนเดอร์เลยค่ะ สะดวกสุดๆ อากาศที่นี่ค่อนข้างร้อน ประเทศสิงคโปร์ ไม่มีฤดูหนาวต่อให้มาเดือน ธค.-กพ. ก็ไม่หนาวค่ะ แต่จะมีไฟประดับตามข้างทางเยอะมากๆ ก่อนคริสมาสต์ปลายเดือนพย.ก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ เราเดินทางวันที่ 30 พย.-4ธค. 57ที่เลือกมา 5 วัน 4 คืน เพราะไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยเกินไปค่ะ ถ้ามาแบบสไตล์วัยรุ่น 3 วัน 2 คืนก็พอแล้ววว ^^
ถึงโรงแรมเวลา 16.00น. (เวลาสิงคโปร์) เช็คอินเข้าโรงแรมเสร็จเรียบร้อย ให้คุณแม่พักเหนื่อยสักหน่อยแล้วออกไปทานข้าวใกล้ๆโรงแรมค่ะพูดถึงรสชาติอาหารของที่นั่นหลายๆเมนู เราทานได้หมดเลยนะ มันเป็นรสชาติที่ยังพอคุ้นเคยคล้ายๆที่ไทยอยู่ เสร็จแล้วก็พากันเดินแถวบริเวณโรงแรม แวะซุปเปอร์มาเก็ต ซื้อผลไม้ น้ำ ขนม กลับไปทานต่อที่โรงแรมและพักผ่อนค่ะ วันแรกขอพักเต็มที่เตรียมลุยวันต่อไปค่ะ ^^
วันที่ 2 เราแวะกินข้าว Kopitiam ที่ห้าง Vivo City ชั้น B2 ราคาไม่แพง อิ่ม อร่อยค่ะ แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 3 เพื่อจะไป Universal Studio จะเจอทางเข้า Sentosa Express เลยค่ะ ใช้บัตร EZ-Link แตะใช้บริการได้เลย ( เราซื้อบัตรเข้าจากที่ไทยมาเลยเพื่อประหยัดเวลาค่ะ )การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วง มาลงที่สถานี HarbourFront Station ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมีป้ายบอกตลอดทางค่ะ Sentosa Express มีทั้งหมด 4 สถานี
สถานีที่ 1 คือ Sentosa Station ( ห้าง Vivo City ที่เราขึ้นนั่นแหละค่ะ)
สถานีที่ 2 คือ WaterFront Station (Resort World) Universal Studio อยู่สถานีนี้นะค่ะเราลงสถานีนี้ที่แรกเลยค่ะผ่านประตูเข้าไปไม่ทันไหร่ก็พากันถ่ายรูปความประทับใจกับ พี่ลูกโลกหมุนๆ สุดฮอตกันทันที ทันใด ^^
เดินเข้ามาอีกนิดเจอพี่ มินเนี่ยน ตัวโปรด ^^
เครื่องเล่นที่ 1. โซน MADAGASCAR น่ารักดีค่ะ ร้องเพลงตามแล้วโยกตามจังหวะเพลงไปด้วย
เครื่องเล่นที่ 2. โซน Shrek 4-D Adventure เป็นหนัง 4D หรือ หนังสี่มิติ ค่ะ สนุกสมจริง คุณแม่ชอบมาก
เครื่องเล่นที่ 3. โซน The Lost World พอดีเราสังเกตจากคนที่ซื้อเสื้อกันฝน คิดในใจว่าต้องเปียกแน่ๆ จะเปียกหรือไม่เปียกอยู่ที่ดวงล้วนๆ พอเข้าไปด้านในเราว่ามันมืดจนเวียนหัวเกินไปอ่ะค่ะ มืดสนิทมากตลอดทางจนใกล้จบจุดพีคอยู่ตรงนี้ ^^
ขอพักทานข้าวที่ discovery Food court ในโซน The Lost World นั่นแหละค่ะ หื้มมม!! ..ราคาแพงเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าไม่คิดมากลองสักครั้งก็ไม่เป็นไรน้า ^^
เครื่องเล่นที่ 4. โซน Ancient Egypt อันนี้ไม่ได้เข้าเล่นนะค่ะ เพราะคิวเยอะมาก เลยแค่เก็บภาพบรรยากาศด้านนอกจ้า
เครื่องเล่นที่ 5. โซน ทรานเฟอร์เมอร์ ยกอันนี้ให้เป็นที่ 1 ในใจค่ะ สนุกมากๆ มันส์มาก อยากเล่นซ้ำๆหลายๆรอบเลยค่ะ แต่ขอบอกต่อคิวนานมากกก
สถานีที่ 3 คือ Imbiah Station แวะถ่ายรูปคู่กับพี่สิงโต
สถานีที่ 4 คือ Beach Station (ดูโชว์แสง สี เสียง Wings of Time Theatre)
แวะถ่ายรูปต้นต้นคริสมาสต์ยักษ์ที่ห้าง Vivo City สักแปป
พี่น้องหยอกล้อกันเล่น ^^"
เดินเหนื่อยแล้ว ท้องก็ร้องหิว หิว เราแวะกินข้าวที่ร้าน din tai fung เสี่ยวหลงเปา ที่ห้าง paragon ถนน Orchard ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ เราน่งรอคิวเรียกอยู่ 20 นาที เพราะคนเยอะมากๆ พอถึงคิวเข้าไปปุ๊บ สั่งกระจาย รสชาติอาหารโอเครค่ะ รวมๆแล้วประทับใจ ^^ ออกมาเดินย่อยถ่ายรูปหน้าห้างสักพัก ย่านนี้ประดับไฟตามทางถนนสวยละลานตามากเลยค่ะ
วันที่ 3 แวะกินข้าวเช้าที่ Food cort ย่านลาเวนเดอร์ พอท้องอิ่มแล้วก็ออกไปเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ (chinatown) นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานี Chinatown เลยค่ะ ออก Pagoda Street Exit A
สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก เราแวะเดินดูซื้อของฝากไปเรื่อยๆ แล้วก็มุ่งหน้าไป วัดพระเขี้ยวแก้วกันต่อค่ะ
มีไอติมหลอดแบบบ้านเราด้วย ^^
ตกเย็นเราก็ไปย่าน คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) ลมเย็นสบาย บรรยากาศดีสุดๆ
เด๋วมาต่อวันที่เหลือให้จบน้าาา ขอตัวไปนอนก่อนค่าาาา ^^