สมัยเรียน อาจารย์ที่โรงเรียนเคยบอกว่า ศาสนาพุทธ ถ้าเปรียบกับต้นไม้ ก็ ประกอบด้วย เปลือก เเก่น เเละ กระพี้ จึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้ามีเเต่คำสอนอย่างเดียว ที่เป็นเเก่น ศาสนาพุทธอาจไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะคนละกิเลสได้จริงมีน้อย
ถ้าไม่มีพระพุทธรูป พิธีกรรม ความเชื่อเรื่องภพชาติหลังความตาย การทำบุญสร้างกุศล ฯลฯ ศาสนาพุทธจะยังอยู่ถึงทุกวันนี้ไหม เพราะคนที่เชื่อพุทธศาสนาเเนวคำสอนล้วนล้วน ไม่เชื่อไม่สนเรื่องชาติหน้า วิญญาน ผี มีไม่น้อยเลย ที่ไม่ทำบุญ ไม่เข้าวัด ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ปฎิบัติทางจิต ละทุกข์ละกิเลสอย่างเดียว บางพวกก็ศึกษารู้ทฤษฎี เเต่ไม่ปฎิบัติอะไรเลย มีบางคนบอกว่า จิตใจคนส่วนมาก ชอบวิธีลัด ชอบที่พี่งกำลังใจจากสิ่งเหนือธรรมชาติ ถ้าต้องการทำลายศาสนาพุทธ ก็ให้เน้นคำสอนอย่างเดียว เอาเเต่เเก่น ไม่เอาความเชื่ออื่น เขาบอกว่า ภายนอกดูเหมือนส่งเสริมศาสนา เเต่จริงจริง คือ ให้คนออกห่างศาสนาไปเรื่อยเรื่อย เพราะคนส่วนใหญ่ยังมีกิเลส เเละไม่อยากปฎิบัติการละกิเลส ถ้าว่า ไม่ยึดมั่น ปล่อยวาง ไม่ทุกข์ เขาว่า เขาทำได้ทุกที่ ไม่ต้องยุ่งกับศาสนาพุทธก็ได้ เเละไม่จำเป็นต้องตัดกิเลสทั้งหมด เอาเเค่ไม่ทุกข์เกินไปก็พอ เเต่ที่ศาสนาพุทธอยู่มาได้ เพราะที่ผ่านมา ชาวพุทธยุคก่อนสามารถประสานคำสอนทางศาสนา ความเชื่อท้องถิ่น ฯลฯ จึงอยู่มาได้ ใครสามารถตัดกิเลสดับทุกข์ได้สิ้นเชิงก็มี ใครยังไปไม่ถึง ยังมีความเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังประสานกับคำสอนว่า เทพ เป็นผู้ปฎิบัติดี จีงได้เกิดเป็นเทพ ฯลฯ ทำให้ศาสนาพุทธมีคนนับถือหลายรูปเเบบหลายระดับอย่างกว้างขวางยิ่งขี้นในปัจจุบัน
พุทธเเง่คำสอน พุทธพิธีกรรม เปลือกกระพี้
ถ้าไม่มีพระพุทธรูป พิธีกรรม ความเชื่อเรื่องภพชาติหลังความตาย การทำบุญสร้างกุศล ฯลฯ ศาสนาพุทธจะยังอยู่ถึงทุกวันนี้ไหม เพราะคนที่เชื่อพุทธศาสนาเเนวคำสอนล้วนล้วน ไม่เชื่อไม่สนเรื่องชาติหน้า วิญญาน ผี มีไม่น้อยเลย ที่ไม่ทำบุญ ไม่เข้าวัด ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ปฎิบัติทางจิต ละทุกข์ละกิเลสอย่างเดียว บางพวกก็ศึกษารู้ทฤษฎี เเต่ไม่ปฎิบัติอะไรเลย มีบางคนบอกว่า จิตใจคนส่วนมาก ชอบวิธีลัด ชอบที่พี่งกำลังใจจากสิ่งเหนือธรรมชาติ ถ้าต้องการทำลายศาสนาพุทธ ก็ให้เน้นคำสอนอย่างเดียว เอาเเต่เเก่น ไม่เอาความเชื่ออื่น เขาบอกว่า ภายนอกดูเหมือนส่งเสริมศาสนา เเต่จริงจริง คือ ให้คนออกห่างศาสนาไปเรื่อยเรื่อย เพราะคนส่วนใหญ่ยังมีกิเลส เเละไม่อยากปฎิบัติการละกิเลส ถ้าว่า ไม่ยึดมั่น ปล่อยวาง ไม่ทุกข์ เขาว่า เขาทำได้ทุกที่ ไม่ต้องยุ่งกับศาสนาพุทธก็ได้ เเละไม่จำเป็นต้องตัดกิเลสทั้งหมด เอาเเค่ไม่ทุกข์เกินไปก็พอ เเต่ที่ศาสนาพุทธอยู่มาได้ เพราะที่ผ่านมา ชาวพุทธยุคก่อนสามารถประสานคำสอนทางศาสนา ความเชื่อท้องถิ่น ฯลฯ จึงอยู่มาได้ ใครสามารถตัดกิเลสดับทุกข์ได้สิ้นเชิงก็มี ใครยังไปไม่ถึง ยังมีความเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังประสานกับคำสอนว่า เทพ เป็นผู้ปฎิบัติดี จีงได้เกิดเป็นเทพ ฯลฯ ทำให้ศาสนาพุทธมีคนนับถือหลายรูปเเบบหลายระดับอย่างกว้างขวางยิ่งขี้นในปัจจุบัน