public : ทะเลาะกันทุกวันแต่อยู่ด้วยกันเพื่อรอวันที่จะไปจากกันจริงๆ

กระทู้คำถาม
เรื่องราวมีอยู่ว่าเรามีแฟนเป็นชาวเกาหลีใต้ เรากับแฟนคบกันมาได้ หกปีแล้วเราตัดสินใจแต่งงานกันและได้ย้ายมาอาศียอยู่ที่เกาหลีกัน เราจะเล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้ฟังก่อนนะค่ะ อาจจะยาวหน่อยนะ อิอิ
ช่วงเวลา ห้าปีที่เป็นแฟนกันเราสองคนมีความสุขกันมากเลย แต่พอตัดสินใจแต่งงานกันแล้ว เราก็ได้ทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ซึ่งแฟนเราเค้าอยากให้เราย้ายไปอยู่เกาหลีกันหลังจากที่แต่งงานเสร็จ แต่เราบอกกับเขาว่า เราขอเวลาหนึ่งปีได้ไหมถ้าทำธุรกิจแล้วมันไม่ดีเราจะย้ายไปอยู่ที่กับเกาหลีกับเขา ซึ่งเขาเองก็ตกลงและได้อาศัยอยู่ที่เมืองไทยเพื่อรอเรา แต่ในระหว่างที่เราทำธุรกิจและเขาเองไม่ไดทำงานเลย เราต้องทำงานและดูแลเขาด้วย เวลาผ่านไปธุรกิจของเราเริ่มมีปัญหา เริ่มขาดทุน เราเองก็เริ่มมีปันหากับเขาและทำให้เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น  และทะเลาะกันจนถึงขั้นจะหย่ากันเลย แต่เราก็ไม่ได้หย่ากันและสุดท้ายเราสองคนก็ย้ายมาอยู่ที่เกาหลีกัน ซึ่งเราเองไม่อยากมาแต่ที่มาก็เพื่ออนาคตของเราสองคน เดือนแรกที่เรามาอยู่ที่เกาหลีเราคิดถึงพ่อกับแม่เรามากเลย อารมณํของคนที่ต้องจากบ้านเกิดจากพ่อแม่ก็ต้องมีเหงา อ้างว้างกันบ้างเพราะเรายังปรับตัวให้กับสภาพแวดล้อมของที่นี่ไม่ได้ เราบอกกับเขาว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกแน่เลยเขาเองก็ไม่พอใจและทะเลาะกัน เราทะเลาะกันไม่คุยกันสาม สี่ วัน  และคำพูดที่ออกมาจากปากของเค้าคือถ้าเรากลับไทยก็หย่ากันเถอะนี้เป็นครั้งที่นะที่เขาพูดกับเราแบบนี้ และเราก็เพิ่งมาอยู่เกาหลีได้ยังไม่ถึงเดือน คำนี้ทำให้เรารู้เลยว่าเขาไม่ได้รักเราเลย เราถามว่าแค่เรากลับไปหาพ่อกับแม่ของเรากลับแค่แป๊บเดียวต้องเลิกกันเลยใช่ไหม เขาตอบว่า "ยังไงถ้าเราทะเลาะกันอีกเราก็พูดจะกลับไทย และถ้าทะเลาะกันบ่อยๆเราก็จะทำแบบนี้อีก เขาบอกว่าเขาเหนื่อยแล้ว หย่ากันดีกว่า"วันต่อมาเราสองคนก็ไปที่เขตเพื่อเซนเอกสารหย่ากัน ( แต่ที่ประเทศเกาหลีการหย่าคือทางเขตจะให้เรารอหนึ่งเดือนและระหว่างที่รอหนึ่งเดือนมีเวลาให้ทั้งสองฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันเสียก่อน แต่ถ้าครบกำหนดหนึ่งเดือนแล้วไม่มาตามที่เขตนัดคือแสดงว่าคุณไม่หย่ากันแล้วคุณปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ) ต่อนะค่ะ หลังจากที่เซนเอกสารเสร็จและกลับมาที่บ้านเราอยู่ที่บ้านคนเดียวส่วนเขาก็ออกไปเจอน้องสาวของเขา อารมณํของเราตอนนั้นคือเราจะทำไงต่อไปต้องรออีกหนึ่งเดือนแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน อยากกลับไทยให้เร็วที่สุดคิดวนไปวนมาเรื่องที่อยู่และพอมาเกาหลี ทำไมเขากล้าหย่าจริงทำเอดสารจริงๆและสิ่งที่เราคิดมาตลอดคือมันใช่จริงตอนอยู่ที่ไทยเราบอกจะหย่าแต่เขาก็ง้อเราและขอโทษเราเพื่อไม่ให้เราหย่ากับเขา แต่พอมาอยู่ที่เกาหลีแล้วเขากลับจะหย่าจริงๆ ที่ผ่านมาตอนอยู่ที่เราไม่เคยทำเอกสารหย่าเราแค่พูดว่าจะหย่าเฉยๆ แต่ไม่ได้จะหย่าจริงๆ
เรานั่งคิดอยู่สักพักกจากนั้น เราก็อารมณํของเรามันก็ระเบิดออกมาเราแค้นที่เขาทำแบบนี้กับเรา เขาทำเหมือนเราเป็นหมู หมาเราเกรธมากเราทำข้างของในบ้านพังหมดเลย เราเฟี้ยงแก้วแตกกระจายและเราเอาเก้าอี้ทุบทีวีหน้าจอแตก ทุบคอมพิวเตอรํจนพัง จากนั้นเราก็โทรไปถามเขาว่าตอนอยู่ที่ไทยทำไมไม่ยอมหย่าพอมาเกาหลีแล้วทำไมถึงหย่า หลังจากว่างสายไปเขาก็กลับมาที่บ้านและก็เจอสภาพของใช้ในบ้านพังหมดเลย เขาไม่มองหน้าเราและไม่พูดกับเราเลยสักคำ เขาก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้วที่แตกและเก็บข้าวของภายในบ้านให้เหมือนเดิม เก็บของเสร็จเผ่านไปสอง ชม. น้องสาวของเขาก็มาที่บ้าน และได้นั่งคุยกับเราว่าเราจะทำยังไงต่อ คิดยังไงถึงจะหย่ากัน เราคุยกันและได้คุยถึงปัญหาของเราสองคน และตกลงกันว่าเราจะพยายามเปลี่ยนเพื่อกันและกัน เราบอกกับน้องสาวเขาว่า เวลาที่ทะเลาะอย่าพูดว่าหย่ากันและห้ามไล่เรากลับไทย เขาไล่เราเหมือนหมู หมา ตอนที่อยู่เมืองไทยเราไม่เคยไล่เขากลับเกาหลีไม่เคยไล่เขาเหมือนหมู เหมือนหมาเลยนะ เขาเองก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้กับเรา เราเองก็รับปากว่าจะพยามยามใจเย็นกว่านี้  เวลาผ่านไปเกือบเดือนเราสองคนเข้าใจกันมากขึ้นและถึงวันนัดเซนเอกสารเราก็ไม่ได้ตามที่เขตนัดและไม่ได้เซนเอกสารหย่ากันจริงๆ แต่เราก็ยังทะเลาะกันและยังพูดคำว่า หย่ากันเหมือนแต่ก็ไม่ได้ทำเอกสารแล้ว ทุกครั้งที่เราสองคนทะเลาะกันเราจะไม่คุยกันสามสี่วัน จนบางครั้งเราก็คิดนะว่าเราควรจะหย่ากันจริงๆเถอะอย่าอยู่แบบนี้เลย เราเองก็เหนื่อยเขาเองก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้หย่ากันสักที่และไม่รู้ว่าจะต้องทะเลาะกันอีกกี่รั้งพูดคำว่าหย่ากันอีกกี่รอบ เราสองคนถึงจะเลิกกันจริงๆและไปจากกันจริงๆ เม่าเหม่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่