ไม่พูดพล่ามทำเพลง ขอเล่าเลยละกันครับ จะพยายามไห้กระชับที่สุดเท่าที่จะทำได้
นี่คือโบ้ จะสังเกตุว่าตาของโบ้เศร้ามาก

โบ้เป็นหมาบางแก้วที่ซื่อสัตว์ น่ารักถ้ามันรักไครมันรักเลย โบ้ถูกซื้อมาเลี้ยง แล้วถูกทิ้งโดยเจ้าของคนแรกที่เปิดร้านอาหารร้านนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ด้วยเหตุที่เจ้าของร้านปิดกิจการแล้วไม่พามันไปด้วย
จนกระทั่งเจ้าของร้านคนที่ 2 มาเซ้งร้านต่อ(ผมไปกินร้านเขาประจำจนสนิทกับโบ้เพราะโบ้ชอบมานอนที่โต๊ะผม) ก็อยู่กับโบ้ จนโบ้ก็รักเจ้าของคนนี้มาก ครั้งนึงเจ้าของเก่าแวะมาหามัน มันวิ่งหนีเข้าป่า เหมือนไม่อยากเจอ เราจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้ชื่อโบ้เพราะเจ้าของเรียกชื่องมันเป็นชื่อฝรั่ง
ด้วยเหตุผลที่เจ้าของร้านทนรับภาระทางร้านไม่ได้ จึงต้องปิดร้าน โดยที่พาโบ้ไปด้วยไม่ได้ โบ้จึงถูกทิ้งเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้โบ้อาจจะเป็นหมาเร่ร่อน
พอพวกผมกับเพื่อนรู้ จึงคิดว่าเราจะนิ่งเฉยไม่ได้เพราะสงสารมันมาก แต่ด้วยที่บ้านมีหมาตัวเล็ก เลยเอาโบ้มาเลี้ยงไม่ได้ ช่วงแรกผมจึงทำได้เพียงนำอาหารไปไห้มันเท่านั้น
โบ้ยังนอนรอเจ้าของที่จะไม่กลับมาอีกแล้วอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ภาพที่เห็นยิ่งทำไห้สะเทือนใจ
บางครั้งผมมาหามันตอนกลางคืน เพื่อมานั่งเล่นกับมันพร้อมซื้อเบียมานั่งจุดเทียนกินเพราะที่ร้านตัดไฟ แล้วอยู่เป็นเพื่อนมันจึงกลับบ้าน ที่ร้านยังมีอุปกรณ์ที่เจ้าของไม่ได้เอาไปด้วย เลยยืมมาไส่นิดนึง
พอผมจะกลับบ้านโบ้จะวิ่งมาส่งทุกครั้ง แล้วกลับไปนอนเฝ้าห้องนอนของเจ้านายซึ่งไม่มีไครอยู่แล้ว โบ้ต้องนอนในความมืดลำพัง
ผมได้เล่าเรื่องของโบ้ไห้หลายคนฟัง หลายคนพยายามช่วย ซึ่งผมขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ ที่นี้ จนวันนึง พี่สาว ได้ส่งรูปภาพที่เลี้ยงหมาของกองทัพเรือมาไห้ดู ที่นั่นมีหมอ มีอาหาร ผมจึงคิดว่านี่อาจเป็นทางออกที่ดี ดีกว่าไห้โบ้เป็นหมาเร่ร่อน จึงตกลงกับพี่สาวว่าจะพาโบ้ไปอยู่ โดยพี่สาวเป็นคนติดต่อไห้และนัดวันจะเอาโบ้ไป
นี่คือภาพที่พี่สาวส่งมาไห้ครับ
ผมนั่งครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าโบ้จะอยู่ยังไง จะโดนกัดไหม จะได้รับการดูแลอย่างดีไหม ก็คิดว่าเค้าคงดูแลไห้ดี
แต่! มันจะดีเท่าเราดูแลเองหรือ จึงปรึกษากับเพื่อนที่ก็คุ้นเคยกับโบ้เหมือนกัน จนตกลงกันว่า เราจะช่วยกันเลี้ยงมันเอง โดยไห้ไปอยู่บ้านเพื่อนที่พัทยา(ไม่มีคนอยู่ เพื่อนจะกลับแค่ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์) แล้วผลัดกันไปเลี้ยง และข้างบ้านเพื่อนผม ก็เป็นบ้านพี่สาวเพื่อน ก็จะไห้เค้าช่วยไห้อาหารวันที่พวกผมไม่อยู่ อาทิตย์ละไม่กี่วัน
เราจึงพาโบ้จาก กทม. ไปที่นั่น ตลอดทาง โบ้นั่งเรียบร้อย ไม่ดื้อ ดูหงอยๆ เอาแต่มองข้างทางไม่นอน
พอมาถึงวันแรก โบ้มีอาการซึม ไม่เล่น ไม่ออกไปไหน อาจคงเป็นเพราะคิดถึงบ้าน เอาแต่นอนที่หน้าประตู ไม่สนใจโลก

วันต่อมา พวกผมและเพื่อน อาบน้ำไห้มัน โทรเรียกหมอไห้มาฉีดยาไห้โบ้ กันเห็บหมัด ถ่ายพยาธิ และป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
วันเวลาผ่านไป โบ้เริ่มคุ้นเคยที่อยู่ใหม่ เริ่มวิ่งเล่น ออกจากบ้าน ร่าเริง จากการดูแลที่ดี ทำไห้โบ้กลายเป็นหมาที่ดูสะอาดและสง่าอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือแววตาของโบ้ ต่างไปจากภาพแรกๆที่ผมลงไห้ดูไปมาก โบ้ได้รับชีวิตใหม่ที่ดี กับคนที่ไม่มีวันทิ้งมัน
ผมไม่ใช่คนรักหมา แต่ด้วยความผูกพันธุ์ เพียงแค่ไปกินอาหารที่ร้านที่โบ้เคยอยู่ กลับรักโบ้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ กับหมาตัวอื่น พวกผมยังคงรู้สึกเฉยๆ ไม่รัก ไม่เกลียด ส่วนเพื่อนผม เกลียดหมา แต่ก็ยังยอมแพ้กับความน่ารักของโบ้จนทุกวันนี้รักโบ้มาก คอยเป็นห่วงตลอด ไม่รู้ว่าโบ้ทำได้ยังไง
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกคนที่กำลังคิดจะเริ่มเลี้ยงสุนัขว่า
"อย่าซื้อมันมาเลี้ยง ถ้าไม่มีปัญญาดูแลมันได้ตลอด"
"อย่าเห็นว่ามันน่ารักแค่ตอนเด็ก เพราะโตขึ้น หัวใจมันก็ยังเป็นดวงเดิม"
"คุณอาจมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่มันมีเจ้านายแค่คนเดียว"
"หมาไม่เคยอยากได้เจ้านายที่ร่ำรวย มันต้องการแค่เจ้านายที่ดูแลมันจนหมดลมหายใจ"
สวัสดีครับ
อยากเล่าเรื่องราวของสุนัขที่ชื่อโบ้ เอาไว้เป็นข้อคิดสำหรับคนที่เริ่มคิดจะเริ่มเลี้ยงสุนัขทุกท่าน
นี่คือโบ้ จะสังเกตุว่าตาของโบ้เศร้ามาก
โบ้เป็นหมาบางแก้วที่ซื่อสัตว์ น่ารักถ้ามันรักไครมันรักเลย โบ้ถูกซื้อมาเลี้ยง แล้วถูกทิ้งโดยเจ้าของคนแรกที่เปิดร้านอาหารร้านนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ด้วยเหตุที่เจ้าของร้านปิดกิจการแล้วไม่พามันไปด้วย
จนกระทั่งเจ้าของร้านคนที่ 2 มาเซ้งร้านต่อ(ผมไปกินร้านเขาประจำจนสนิทกับโบ้เพราะโบ้ชอบมานอนที่โต๊ะผม) ก็อยู่กับโบ้ จนโบ้ก็รักเจ้าของคนนี้มาก ครั้งนึงเจ้าของเก่าแวะมาหามัน มันวิ่งหนีเข้าป่า เหมือนไม่อยากเจอ เราจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้ชื่อโบ้เพราะเจ้าของเรียกชื่องมันเป็นชื่อฝรั่ง
ด้วยเหตุผลที่เจ้าของร้านทนรับภาระทางร้านไม่ได้ จึงต้องปิดร้าน โดยที่พาโบ้ไปด้วยไม่ได้ โบ้จึงถูกทิ้งเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้โบ้อาจจะเป็นหมาเร่ร่อน
พอพวกผมกับเพื่อนรู้ จึงคิดว่าเราจะนิ่งเฉยไม่ได้เพราะสงสารมันมาก แต่ด้วยที่บ้านมีหมาตัวเล็ก เลยเอาโบ้มาเลี้ยงไม่ได้ ช่วงแรกผมจึงทำได้เพียงนำอาหารไปไห้มันเท่านั้น
โบ้ยังนอนรอเจ้าของที่จะไม่กลับมาอีกแล้วอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ภาพที่เห็นยิ่งทำไห้สะเทือนใจ
บางครั้งผมมาหามันตอนกลางคืน เพื่อมานั่งเล่นกับมันพร้อมซื้อเบียมานั่งจุดเทียนกินเพราะที่ร้านตัดไฟ แล้วอยู่เป็นเพื่อนมันจึงกลับบ้าน ที่ร้านยังมีอุปกรณ์ที่เจ้าของไม่ได้เอาไปด้วย เลยยืมมาไส่นิดนึง
พอผมจะกลับบ้านโบ้จะวิ่งมาส่งทุกครั้ง แล้วกลับไปนอนเฝ้าห้องนอนของเจ้านายซึ่งไม่มีไครอยู่แล้ว โบ้ต้องนอนในความมืดลำพัง
ผมได้เล่าเรื่องของโบ้ไห้หลายคนฟัง หลายคนพยายามช่วย ซึ่งผมขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ ที่นี้ จนวันนึง พี่สาว ได้ส่งรูปภาพที่เลี้ยงหมาของกองทัพเรือมาไห้ดู ที่นั่นมีหมอ มีอาหาร ผมจึงคิดว่านี่อาจเป็นทางออกที่ดี ดีกว่าไห้โบ้เป็นหมาเร่ร่อน จึงตกลงกับพี่สาวว่าจะพาโบ้ไปอยู่ โดยพี่สาวเป็นคนติดต่อไห้และนัดวันจะเอาโบ้ไป
นี่คือภาพที่พี่สาวส่งมาไห้ครับ
ผมนั่งครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าโบ้จะอยู่ยังไง จะโดนกัดไหม จะได้รับการดูแลอย่างดีไหม ก็คิดว่าเค้าคงดูแลไห้ดี
แต่! มันจะดีเท่าเราดูแลเองหรือ จึงปรึกษากับเพื่อนที่ก็คุ้นเคยกับโบ้เหมือนกัน จนตกลงกันว่า เราจะช่วยกันเลี้ยงมันเอง โดยไห้ไปอยู่บ้านเพื่อนที่พัทยา(ไม่มีคนอยู่ เพื่อนจะกลับแค่ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์) แล้วผลัดกันไปเลี้ยง และข้างบ้านเพื่อนผม ก็เป็นบ้านพี่สาวเพื่อน ก็จะไห้เค้าช่วยไห้อาหารวันที่พวกผมไม่อยู่ อาทิตย์ละไม่กี่วัน
เราจึงพาโบ้จาก กทม. ไปที่นั่น ตลอดทาง โบ้นั่งเรียบร้อย ไม่ดื้อ ดูหงอยๆ เอาแต่มองข้างทางไม่นอน
พอมาถึงวันแรก โบ้มีอาการซึม ไม่เล่น ไม่ออกไปไหน อาจคงเป็นเพราะคิดถึงบ้าน เอาแต่นอนที่หน้าประตู ไม่สนใจโลก
วันต่อมา พวกผมและเพื่อน อาบน้ำไห้มัน โทรเรียกหมอไห้มาฉีดยาไห้โบ้ กันเห็บหมัด ถ่ายพยาธิ และป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
วันเวลาผ่านไป โบ้เริ่มคุ้นเคยที่อยู่ใหม่ เริ่มวิ่งเล่น ออกจากบ้าน ร่าเริง จากการดูแลที่ดี ทำไห้โบ้กลายเป็นหมาที่ดูสะอาดและสง่าอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือแววตาของโบ้ ต่างไปจากภาพแรกๆที่ผมลงไห้ดูไปมาก โบ้ได้รับชีวิตใหม่ที่ดี กับคนที่ไม่มีวันทิ้งมัน
ผมไม่ใช่คนรักหมา แต่ด้วยความผูกพันธุ์ เพียงแค่ไปกินอาหารที่ร้านที่โบ้เคยอยู่ กลับรักโบ้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ กับหมาตัวอื่น พวกผมยังคงรู้สึกเฉยๆ ไม่รัก ไม่เกลียด ส่วนเพื่อนผม เกลียดหมา แต่ก็ยังยอมแพ้กับความน่ารักของโบ้จนทุกวันนี้รักโบ้มาก คอยเป็นห่วงตลอด ไม่รู้ว่าโบ้ทำได้ยังไง
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกคนที่กำลังคิดจะเริ่มเลี้ยงสุนัขว่า
"อย่าซื้อมันมาเลี้ยง ถ้าไม่มีปัญญาดูแลมันได้ตลอด"
"อย่าเห็นว่ามันน่ารักแค่ตอนเด็ก เพราะโตขึ้น หัวใจมันก็ยังเป็นดวงเดิม"
"คุณอาจมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่มันมีเจ้านายแค่คนเดียว"
"หมาไม่เคยอยากได้เจ้านายที่ร่ำรวย มันต้องการแค่เจ้านายที่ดูแลมันจนหมดลมหายใจ"
สวัสดีครับ