พ่อแม่ดิฉันเกษียณแล้วอยู่ต่างจังหวัด อย่างที่รู้ๆกันว่าต่างจังหวัดก็มีหมาแมวจรจัดมากมายไม่น้อยกว่าในกรุงเทพ พ่อแม่ดิฉันไม่ใช่คนรักสัตว์จี๋จ๋า แต่ก็ไม่ได้รังเกียจถึงขนาดทำร้ายหรือไล่ตี ปกติถ้ามีหมาแมวจรจัดมาขออาหารพ่อแม่จะเลี้ยงแบบโบราณคือเลือกเลี้ยงเฉพาะตัวผู้เพราะตัวผู้ไม่ท้องออกลูกออกหลาน แล้วก็เลี้ยงแบบปล่อยจะไปไหนก็ไป จะมากินข้าวก็กลับมา ถ้าเจ็บป่วยไม่หนักหนาสาหัสจริงๆก็ปล่อยให้หายเอง หรือถ้าหมาแมวก่อปัญหามากเช่นกัดกะตัวอื่นเพื่อแย่งตัวเมีย ฉี่รอบบ้านเพื่อประกาศการเป็นเจ้าถิ่น อึไม่เป็นที่ทาง หรือแม้กระทั่งขุดทำลายต้นไม้ที่ปลูก วิธีการแก้ปัญหาคือเอาไปปล่อยวัด
วิธีการเลี้ยงแบบนี้ดิฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กและผู้คนในหมู่บ้านก็เลี้ยงแบบเดียวกัน ต่อเมื่อโตขึ้นได้เรียนรู้เห็นอะไรมากขึ้นก็เริ่มต่อต้านกับวิธีการเลี้ยงแบบนี้ โชคดีที่พ่อแม่เลี้ยงจริงจังแบบรับเข้าบ้านเป็นการถาวร 2-3 ตัว ที่เหลือคือขาจรไปๆมาๆ หายไปมาใหม่เป็นรุ่นๆ เจ้าพวกที่รับเลี้ยงถาวรนี่ดิฉันสามารถนำไปทำหมันฉีดวัคซีนได้สำเร็จเนื่องจากอยู่เมืองไทย แต่เนื่องจากตอนนี้ดิฉันย้ายมาอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ไลน์หาพ่อแม่ทุกวัน ทราบมาว่าพ่อแม่รับลูกแมวตัวผู้มาเลี้ยงเมื่อหกเดือนที่แล้ว ดิฉันบอกให้พาไปทำหมันก่อนที่จะติดสัด บอกหลายรอบก็เฉยหรือไม่ก็รับปากส่งๆไป ดิฉันรู้ว่าอีกไม่นานเจ้าแมวตัวนี้อนาคตไม่แคล้วต้องไปอยู่วัดแน่ๆถ้าไปกัดกะตัวผู้ตัวอื่นที่มาจ้องแมวตัวเมียแถวบ้าน หรือฉี่ประกาศอาณาเขตรอบบ้านสร้างความรำคาญใจให้กับพ่อแม่
ตอนนี้ก็เริ่มทะเลาะกับพ่อแม่ทางไลน์เรื่องเอาแมวไปทำหมันแล้ว แกอ้างว่าร่างกายแกเจ็บป่วย (เพราะอายุมากขึ้น) ก็ไม่ควรไปทำให้แมวมันเจ็บไปด้วย บาปกรรม อีกอย่างเลี้ยงแมวแบบปล่อยไม่ได้กักขังเป็นแมวตัวผู้ไม่เป็นไรหรอก ถามหมอแล้ว (หมอไหนบอกฟะ) ดิฉันยืนยันว่ากลับไปเมืองไทยคราวนี้จะเอาแมวไปทำหมันเอง จะเป็นบาปเป็นกรรมก็ให้ตกกับดิฉันเองก็แล้วกัน ดีกว่าเป็นกรรมของแมวที่ต้องโดนอัปเปหิไปอยู่วัดหรือไปสร้างลูกแมวให้เป็นภาระกับสังคมอีก ปรากฎว่าตอนนี้พ่อแม่โกรธดิฉันไปแล้ว ไม่ยอมคุย ไม่ยอมไลน์ด้วย
เฮ้อมีวิธีพูดให้คนแก่เข้าใจอย่างไงดีคะ หรือจะทำไมรู้ไม่ชี้ไม่ยุ่งเกี่ยวดี เหมือนเป็นลูกโซ่ว่าถ้าเอาตัวนี้ไปทำหมันได้ ต่อไปก็มีตัวใหม่มาอีกวนเป็นลูป เหนื่อใจ
มีวิธีพูดให้คนแก่สูงอายุยอมให้พาแมวไปทำหมันไหมคะ
วิธีการเลี้ยงแบบนี้ดิฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กและผู้คนในหมู่บ้านก็เลี้ยงแบบเดียวกัน ต่อเมื่อโตขึ้นได้เรียนรู้เห็นอะไรมากขึ้นก็เริ่มต่อต้านกับวิธีการเลี้ยงแบบนี้ โชคดีที่พ่อแม่เลี้ยงจริงจังแบบรับเข้าบ้านเป็นการถาวร 2-3 ตัว ที่เหลือคือขาจรไปๆมาๆ หายไปมาใหม่เป็นรุ่นๆ เจ้าพวกที่รับเลี้ยงถาวรนี่ดิฉันสามารถนำไปทำหมันฉีดวัคซีนได้สำเร็จเนื่องจากอยู่เมืองไทย แต่เนื่องจากตอนนี้ดิฉันย้ายมาอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ไลน์หาพ่อแม่ทุกวัน ทราบมาว่าพ่อแม่รับลูกแมวตัวผู้มาเลี้ยงเมื่อหกเดือนที่แล้ว ดิฉันบอกให้พาไปทำหมันก่อนที่จะติดสัด บอกหลายรอบก็เฉยหรือไม่ก็รับปากส่งๆไป ดิฉันรู้ว่าอีกไม่นานเจ้าแมวตัวนี้อนาคตไม่แคล้วต้องไปอยู่วัดแน่ๆถ้าไปกัดกะตัวผู้ตัวอื่นที่มาจ้องแมวตัวเมียแถวบ้าน หรือฉี่ประกาศอาณาเขตรอบบ้านสร้างความรำคาญใจให้กับพ่อแม่
ตอนนี้ก็เริ่มทะเลาะกับพ่อแม่ทางไลน์เรื่องเอาแมวไปทำหมันแล้ว แกอ้างว่าร่างกายแกเจ็บป่วย (เพราะอายุมากขึ้น) ก็ไม่ควรไปทำให้แมวมันเจ็บไปด้วย บาปกรรม อีกอย่างเลี้ยงแมวแบบปล่อยไม่ได้กักขังเป็นแมวตัวผู้ไม่เป็นไรหรอก ถามหมอแล้ว (หมอไหนบอกฟะ) ดิฉันยืนยันว่ากลับไปเมืองไทยคราวนี้จะเอาแมวไปทำหมันเอง จะเป็นบาปเป็นกรรมก็ให้ตกกับดิฉันเองก็แล้วกัน ดีกว่าเป็นกรรมของแมวที่ต้องโดนอัปเปหิไปอยู่วัดหรือไปสร้างลูกแมวให้เป็นภาระกับสังคมอีก ปรากฎว่าตอนนี้พ่อแม่โกรธดิฉันไปแล้ว ไม่ยอมคุย ไม่ยอมไลน์ด้วย
เฮ้อมีวิธีพูดให้คนแก่เข้าใจอย่างไงดีคะ หรือจะทำไมรู้ไม่ชี้ไม่ยุ่งเกี่ยวดี เหมือนเป็นลูกโซ่ว่าถ้าเอาตัวนี้ไปทำหมันได้ ต่อไปก็มีตัวใหม่มาอีกวนเป็นลูป เหนื่อใจ