ได้ผู้ชนะไปเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับการแข่งขัน ปารีส มาสเตอร์ รายการ มาสเตอร์ 1000 รายกายสุดท้ายของปี
ซึ่งผู้ชนะก็ไม่ใช่ใครที่ไหน โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลก นั่นเอง ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุดๆ
ทำลายสถิติ เป็นนักเทนนิสคนแรกของโลกที่สามารถคว้าแชมป์มาสเตอร์ 1000 ได้ 6 รายการในปีเดียว
ถือเป็นปีที่น่าเหลือเชื่อของ โนวัค จริงๆครับ ลงแข่งทั้งหมด 15 รายการ เข้าชิง 14 รายการ และได้แชมป์มาทั้งหมด 10 รายการในปี 2015
เป็นแชมป์ระดับ GS 3 รายการ และ Master 1000 อีก 6 รายการ
และดูเหมือนมันจะไม่จบแค่นี้ ถ้ายังไม่มีใครหยุดเค้าได้ แต่ .... คำถามคือใครจะหยุดความร้อนแรงของ ยอโควิช เวลานี้ ???
แอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 2 ของโลก ณ ปัจจุบัน ? ที่เจอกันทีไรก็เหมือน โนวัคจะเอาชนะได้ซะส่วนใหญ่ สถิติ H2H ของคู่นี้ คือ 21-9
หรือจะเป็นเฟเดอร์เรอร์ ในวัย 34 ปี ? ซึ่งเป็นคนที่สามารถเอาชนะโนวัคได้มากที่สุดปีนี้ (2 ครั้ง) ที่ดูไบ และ ซินซินนาติ
แต่ก็ไปพ่ายให้กับ โนวัค ในรายการระดับ GS ที่ Wimbledon และ US Open และ มาสเตอร์ 1000 ที่ Rome และ Indian Wells
หรือจะเป็นคู่ปรับตัวฉกาจอย่างราฟาเอล นาดาล ที่ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้
และนี่ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดในการเล่นอาชีพ ของ ราฟา เลยทีเดียว
เพราะเค้าไม่สามารถ คว้าแชมป์ ในรายการระดับ GS และ Master 1000 ในปีนี้ได้เลยสักใบ !!!
มันดูเหมือนกับว่าช่องว่างระหว่าง โนวัค และ คนอื่นๆในทัวร์จะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ
เป็นหน้าที่ของนักเทนนิสคนอื่นๆแล้วละครับ ที่จะต้องยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นมาทัดเทียมกับโนวัคให้ได้
ส่วนโนวัคเองก็เช่นกัน การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์ยากกว่า
ถึงแม้เค้าจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ แต่คำถามคือ เค้าจะสามารถรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมไว้ได้ในปี 2016 หรือเปล่า ???
ย้อนกลับไปการแข่งขันมาสเตอร์ 1000 รอบชิงที่ปารีส ระหว่าง โนเล่ กับ แอนดี้
แอนดี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงสัปดาห์หลังๆ ฟอร์มระหว่างทัวร์นาเมนต์ ถือว่าเป็นต่อโนวัค พอสมควร
เพราะฟอร์มในรายการนี้ของมือ 1 ของโลก ดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และเจ้าตัวก็ไม่พอใจฟอร์มของตนเองเป็นอย่างมาก
ถึงขั้นที่ว่า หลังจากจบแมตช์ กับ จิลล์ ซิมง ในรอบ 3 เสร็จนั้น
แกกลับไปสนามซ้อมต่อทันที เพื่อปรับปรุง แก้ไข ฟอร์มการเล่นของตนเอง ที่เล่นไม่ได้ดั่งใจนัก !!!!
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนว่าจะมีใครทำแบบนี้อีกรึเปล่า แต่ถือว่าแกมีความเป็นมืออาชีพสูงจริงๆ เอาจริงเอาจังสุดๆ
แอนดี้ เมอร์เรย์ ในช่วงระยะหลังพัฒนาเกมการเล่นขึ้นมามาก โดยเฉพาะลูก Backhand ที่หนักหน่วง
สามารถสร้างปัญหาให้คู่ต่อสู้คนอื่นเป็นอย่างมาก แต่นั่นใช้ไม่ได้กับ ยอโควิช
ไม่ใกล้เคียงเลย ...
โดยส่วนตัวผม ผมคิดว่า แอนดี้ เมอร์เรย์ ณ ตอนนี้ คือคนที่มีเกม Baseline ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในทัวร์ อย่างไม่มีข้อสงสัย
แต่มันดูเหมือนว่า gap ของ มือ 1 และ มือ 2 ของโลก จะเริ่มห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเซ็ตแรก
ยอโควิช สามารถควบคุมการเล่นไว้ได้ทั้งหมด เค้าเอาชนะแอนดี้ 69% (27/39) ในการดวลกันที่เบสไลน์
และโดยรวมทั้งแมตช์ นักหวดเซิร์บ เอาชนะแอนดี้ 67% (47/70) ของการเล่นกันที่เบสไลน์ทั้งหมด
ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ ที่ทำให้หวดเซิร์บ สามารถควบคุมเกมส์ไว้ได้ทั้งหมด และเอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็นนัก
ดูเหมือนการปักหลักโต้กันที่ท้ายคอร์ต จะไม่ใช่ไอเดียที่ดีนักในการเล่นกับนักเทนนิสที่มีเกมส์ Baseline ดีที่สุดในโลกอย่าง โนวัค ...
Key ที่สำคัญของแม็ตช์นี้อีกอย่างนึงคือ เราจะเห็นการดวล BH ของคู่นี้อยู่บ่อยครั้ง และถือเป็นอาวุธหลักของทั้งคู่
การดวลกันที่ Backhand นั้น เมอร์เรย์ พลาดแบ็คแฮนด์ไปถึง 25 ลูก ขณะที่ ยอโควิช พลาดไปแค่ 11
ทั้งคู่ต่างจัดได้ว่าเป็นนักเทนนิสที่รีเทิร์นเสิร์ฟดีที่สุดในทัวร์ แต่ ณ ตอนนี้ โนวัคแสดงให้เห็นแล้วว่า ใครดีที่สุด ...
เกมส์รีเทิร์นเสิร์ฟของโนวัค กดดันแอนดี้ได้อย่างมาก ในแต้มเสิร์ฟสองของแอนดี้ ได้แต้มคิดเป็นเปอร์เซนต์ แค่ 35% เท่านั้น (11/31)
เรียกได้ว่า แอนดี้นั้นต้องเผชิญกับ Break Points แทบทุกเกมส์เสิร์ฟของตนเองเลยก็ว่าได้
และถึงแม้แอนดี้ จะยิง Winner ได้มากกว่าแต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะ มือ 1 ของโลกในเวลานี้ได้
แอนดี้ยิง Winner ไป 20 ลูก โนวัค 10 ลูก ในขณะที่ Unforced Errors นั้นแอนดี้ตีเสียเองไป 34 ลูก ส่วนโนวัค แค่ 12 ลูก เท่านั้น
Gap ระหว่าง มือ 1 และมือ 2 ของโลกดูจะเริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆ และผมเชื่อเลยว่า ใครก็ตามที่เป็นแฟนเทนนิส
และไม่ได้เป็น FC ของโนวัค คงไม่มีใครอยากเห็นการผูกขาด หรือ การไล่ล่าความสำเร็จเพียงคนเดียว แบบ ณ ตอนนี้แน่นอน
เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีของวงการเทนนิสเลย ... ที่มีนักเทนนิสเพียงคนเดียว ไล่ล่าเก็บแชมป์ได้เกือบทุกรายการที่ลงแข่งขัน
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ความผิดของ โนวัค ที่ดีเกินไป ...
โนวัคสมควรได้รับเครดิตเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่ดีที่สุดในการเล่นอาชีพของเจ้าตัว แซงหน้า ปี 2011 ไปแล้ว
แต่หากเป็นเรื่องของนักเทนนิสคนอื่นๆต่างหากที่ต้องยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมา
เพื่อวงการเทนนิสโลก จะได้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น ไม่ผูกขาดแชมป์เพียงคนเดียวเหมือนปี 2015
แต่ใครกันล่ะ ... ที่จะหยุด
เครื่องจักรสังหาร จาก เซอร์เบีย ???
ดูเหมือน gap ระหว่าง โนวัค ยอโควิช และ นักเทนนิสมือท็อปคนอื่นๆ จะเริ่มห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ...
ได้ผู้ชนะไปเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับการแข่งขัน ปารีส มาสเตอร์ รายการ มาสเตอร์ 1000 รายกายสุดท้ายของปี
ซึ่งผู้ชนะก็ไม่ใช่ใครที่ไหน โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลก นั่นเอง ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุดๆ
ทำลายสถิติ เป็นนักเทนนิสคนแรกของโลกที่สามารถคว้าแชมป์มาสเตอร์ 1000 ได้ 6 รายการในปีเดียว
ถือเป็นปีที่น่าเหลือเชื่อของ โนวัค จริงๆครับ ลงแข่งทั้งหมด 15 รายการ เข้าชิง 14 รายการ และได้แชมป์มาทั้งหมด 10 รายการในปี 2015
เป็นแชมป์ระดับ GS 3 รายการ และ Master 1000 อีก 6 รายการ
และดูเหมือนมันจะไม่จบแค่นี้ ถ้ายังไม่มีใครหยุดเค้าได้ แต่ .... คำถามคือใครจะหยุดความร้อนแรงของ ยอโควิช เวลานี้ ???
แอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 2 ของโลก ณ ปัจจุบัน ? ที่เจอกันทีไรก็เหมือน โนวัคจะเอาชนะได้ซะส่วนใหญ่ สถิติ H2H ของคู่นี้ คือ 21-9
หรือจะเป็นเฟเดอร์เรอร์ ในวัย 34 ปี ? ซึ่งเป็นคนที่สามารถเอาชนะโนวัคได้มากที่สุดปีนี้ (2 ครั้ง) ที่ดูไบ และ ซินซินนาติ
แต่ก็ไปพ่ายให้กับ โนวัค ในรายการระดับ GS ที่ Wimbledon และ US Open และ มาสเตอร์ 1000 ที่ Rome และ Indian Wells
หรือจะเป็นคู่ปรับตัวฉกาจอย่างราฟาเอล นาดาล ที่ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้
และนี่ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดในการเล่นอาชีพ ของ ราฟา เลยทีเดียว
เพราะเค้าไม่สามารถ คว้าแชมป์ ในรายการระดับ GS และ Master 1000 ในปีนี้ได้เลยสักใบ !!!
มันดูเหมือนกับว่าช่องว่างระหว่าง โนวัค และ คนอื่นๆในทัวร์จะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ
เป็นหน้าที่ของนักเทนนิสคนอื่นๆแล้วละครับ ที่จะต้องยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นมาทัดเทียมกับโนวัคให้ได้
ส่วนโนวัคเองก็เช่นกัน การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์ยากกว่า
ถึงแม้เค้าจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ แต่คำถามคือ เค้าจะสามารถรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมไว้ได้ในปี 2016 หรือเปล่า ???
ย้อนกลับไปการแข่งขันมาสเตอร์ 1000 รอบชิงที่ปารีส ระหว่าง โนเล่ กับ แอนดี้
แอนดี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงสัปดาห์หลังๆ ฟอร์มระหว่างทัวร์นาเมนต์ ถือว่าเป็นต่อโนวัค พอสมควร
เพราะฟอร์มในรายการนี้ของมือ 1 ของโลก ดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และเจ้าตัวก็ไม่พอใจฟอร์มของตนเองเป็นอย่างมาก
ถึงขั้นที่ว่า หลังจากจบแมตช์ กับ จิลล์ ซิมง ในรอบ 3 เสร็จนั้น
แกกลับไปสนามซ้อมต่อทันที เพื่อปรับปรุง แก้ไข ฟอร์มการเล่นของตนเอง ที่เล่นไม่ได้ดั่งใจนัก !!!!
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนว่าจะมีใครทำแบบนี้อีกรึเปล่า แต่ถือว่าแกมีความเป็นมืออาชีพสูงจริงๆ เอาจริงเอาจังสุดๆ
แอนดี้ เมอร์เรย์ ในช่วงระยะหลังพัฒนาเกมการเล่นขึ้นมามาก โดยเฉพาะลูก Backhand ที่หนักหน่วง
สามารถสร้างปัญหาให้คู่ต่อสู้คนอื่นเป็นอย่างมาก แต่นั่นใช้ไม่ได้กับ ยอโควิช
ไม่ใกล้เคียงเลย ...
โดยส่วนตัวผม ผมคิดว่า แอนดี้ เมอร์เรย์ ณ ตอนนี้ คือคนที่มีเกม Baseline ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในทัวร์ อย่างไม่มีข้อสงสัย
แต่มันดูเหมือนว่า gap ของ มือ 1 และ มือ 2 ของโลก จะเริ่มห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเซ็ตแรก
ยอโควิช สามารถควบคุมการเล่นไว้ได้ทั้งหมด เค้าเอาชนะแอนดี้ 69% (27/39) ในการดวลกันที่เบสไลน์
และโดยรวมทั้งแมตช์ นักหวดเซิร์บ เอาชนะแอนดี้ 67% (47/70) ของการเล่นกันที่เบสไลน์ทั้งหมด
ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ ที่ทำให้หวดเซิร์บ สามารถควบคุมเกมส์ไว้ได้ทั้งหมด และเอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็นนัก
ดูเหมือนการปักหลักโต้กันที่ท้ายคอร์ต จะไม่ใช่ไอเดียที่ดีนักในการเล่นกับนักเทนนิสที่มีเกมส์ Baseline ดีที่สุดในโลกอย่าง โนวัค ...
Key ที่สำคัญของแม็ตช์นี้อีกอย่างนึงคือ เราจะเห็นการดวล BH ของคู่นี้อยู่บ่อยครั้ง และถือเป็นอาวุธหลักของทั้งคู่
การดวลกันที่ Backhand นั้น เมอร์เรย์ พลาดแบ็คแฮนด์ไปถึง 25 ลูก ขณะที่ ยอโควิช พลาดไปแค่ 11
ทั้งคู่ต่างจัดได้ว่าเป็นนักเทนนิสที่รีเทิร์นเสิร์ฟดีที่สุดในทัวร์ แต่ ณ ตอนนี้ โนวัคแสดงให้เห็นแล้วว่า ใครดีที่สุด ...
เกมส์รีเทิร์นเสิร์ฟของโนวัค กดดันแอนดี้ได้อย่างมาก ในแต้มเสิร์ฟสองของแอนดี้ ได้แต้มคิดเป็นเปอร์เซนต์ แค่ 35% เท่านั้น (11/31)
เรียกได้ว่า แอนดี้นั้นต้องเผชิญกับ Break Points แทบทุกเกมส์เสิร์ฟของตนเองเลยก็ว่าได้
และถึงแม้แอนดี้ จะยิง Winner ได้มากกว่าแต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะ มือ 1 ของโลกในเวลานี้ได้
แอนดี้ยิง Winner ไป 20 ลูก โนวัค 10 ลูก ในขณะที่ Unforced Errors นั้นแอนดี้ตีเสียเองไป 34 ลูก ส่วนโนวัค แค่ 12 ลูก เท่านั้น
Gap ระหว่าง มือ 1 และมือ 2 ของโลกดูจะเริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆ และผมเชื่อเลยว่า ใครก็ตามที่เป็นแฟนเทนนิส
และไม่ได้เป็น FC ของโนวัค คงไม่มีใครอยากเห็นการผูกขาด หรือ การไล่ล่าความสำเร็จเพียงคนเดียว แบบ ณ ตอนนี้แน่นอน
เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีของวงการเทนนิสเลย ... ที่มีนักเทนนิสเพียงคนเดียว ไล่ล่าเก็บแชมป์ได้เกือบทุกรายการที่ลงแข่งขัน
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ความผิดของ โนวัค ที่ดีเกินไป ...
โนวัคสมควรได้รับเครดิตเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่ดีที่สุดในการเล่นอาชีพของเจ้าตัว แซงหน้า ปี 2011 ไปแล้ว
แต่หากเป็นเรื่องของนักเทนนิสคนอื่นๆต่างหากที่ต้องยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมา
เพื่อวงการเทนนิสโลก จะได้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น ไม่ผูกขาดแชมป์เพียงคนเดียวเหมือนปี 2015
แต่ใครกันล่ะ ... ที่จะหยุด เครื่องจักรสังหาร จาก เซอร์เบีย ???