สำหรับสมาชิกพันทิปยุคห้องแท็กนี่คงสงสัยว่า "คะน้า" เป็นใครทำไมอยู่ดี ๆ โผล่มา
แต่สมาชิกรุ่นซัก 10 ปีที่แล้ว ยุคก่อนพันทิปแท็ก หรือยุคเว็ปล้านทิป (คู่แข่งลับ ๆ ของพันทิป)
น่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ "คะน้า" กันอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย
และอาจจะจำได้ว่า ผมเคยเขียนนิยายแบบขำ ๆ ขึ้นมาเรื่องนึง โดยใช้ คะน้า เป็นตัวเอก
เขียนไปได้ 10 ตอน ก็เลิกเขียนเพราะต้องย้ายบ้านย้ายงานอีกรอบ เลยหยุดเขียนและหลงลืมมันไป
คะน้าเป็นใคร ??
คะน้า เป็นแมวไทยตัวเมีย สามสี ตัวอ้วน ๆ กลม ๆ ครับ
คะน้า เป็นแมวเก็บมาเลี้ยง เมื่อประมาณ เกือบ ๆ 20 ปีก่อน
...................................................................
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องราวของ คะน้า ในเรื่อง ความสุขของคะน้า ตอนที่ 1-10 สามารถหาอ่านได้ที่
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=smannoi14&group=8
....................................................................
"ความสุขของคะน้า" ตอนที่ 11 "ตอนอวสาน"
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 18.30 น.
มีสายเข้าจากแม่ผม ระหว่างทางที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ผมกดรับและกรอกเสียงลงไปแข่งกับเสียงรถที่กำลังวิ่งผ่านไปมา
"ฮัลโหล ว่าไงแม่"
เสียงแม่ตอบกลับมา ทำเอาผมนิ่งไปชั่วครู่
"หมันคะน้าแย่แล้ว รีบกลับมาดูมันเถอะ มันรอเราอยู่"
ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่ แต่เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า และรีบบิดมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
ผมขี่เร็วที่สุดเท่าที่ชีวิตผมเคยขี่ เพื่อจะรีบกลับไปดูใจคะน้าเป็นครั้งสุดท้าย
มีสัญญาณเตือนมาหลายครั้งแล้วในช่วงหลังสำหรับคะน้า
ว่า อีกไม่นานแล้ว ก็จะถึงเวลาของมัน!!!
ผมกับแม่ ก็พยายามดูแลมันให้ดีเป็นพิเศษในช่วงปีหลัง ๆ
ผมเดินทางมาถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่ม ก็รีบเข้าไปดูอาการของมัน
แม่บอกว่ามันอยู่ชั้นบน มันกินน้ำเสร็จ มันก็ลากสังขารตัวเองจากชั้นล่าง ขึ้นไปนอนที่ชั้นบนมันนอนรอเราอยู่หน้าห้อง
คะน้าไม่ขึ้นมาชั้นสองนานมากแล้ว เพราะแก่มาก นอกจากผมจะเป็นคนอุ้มขึ้นมานอนด้วยในห้อง
ผมเดินขึ้นมาเพื่อดูมัน
เพียงแค่เห็นสภาพสังขารของมันเท่านั้น น้ำตาผมก็ไหลออกมา
มันเหมือนแมวที่ตายแล้ว แต่ยังไม่ตาย เพราะมันยังหายใจอยู่
ลมหายใจเป็นจังหวะลึก และ ปกติ และมีการถอนหายใจเป็นช่วง ๆ
ผมเรียกชื่อมัน "คะน้า เป็นไงบ้าง"
มันลืมตา ผงกหัวขึ้นมาจากการนอน และ อ้าปากส่งเสียงร้องออกมานิดหน่อย แล้วก็ฟุบลงไปนอนต่อในท่าเดิม
นั่น.............. เป็นครั้งสุดท้ายที่มันสามารถผงกหัวและส่งเสียงออกมาได้
ผมบอกกับแม่ ในขณะที่อุ้มมันขึ้นมาไว้แนบอก
"ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้"
แม่เอื้อมมือมาลูบหัวและพูดบอกมันว่า "ไม่ไหวก็ไปเถอะนะลูก ทางนี้ไม่ต้องห่วง หลับให้สบายเถอะ"
คะน้าหลับตาลง ผมอุ้มมันไปนอนในห้อง ตรงที่มันเคยนอนอยู่เสมอ ๆ บนเตียงของผม
ผมนั่งเฝ้าอาการของมันแทบทั้งคืน จำได้ว่าล้มตัวลงนอนตอนตี 4
ก่อนนอนก็กระซิบบอกมันว่า "หลับให้สบายนะคะน้า ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน"
ตื่นมาตอนประมาณ 9 โมงเช้า คะน้ายังอยู่!!!
ผมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว จับเปลี่ยนท่านอนให้สบาย เปิดหน้าต่างห้องระบายอากาศให้มันนอนสบาย ๆ
15.00 น. ผมออกไปหาอะไรกินนอกบ้าน
15.30 น. ผมกลับมาถึงบ้าน แม่กลับมาจากทำงานแล้ว
ผมเดินขึ้นมาบนห้อง พร้อมแม่ คะน้ายังอยู่ในท่าเดิม แต่ที่น้อยลงจนแทบสังเกตไม่เห็นเลย คือ "ลมหายใจ"
ผมวางของที่ซื้อมา และหันไปบอกแม่ว่า "ใกล้แล้วแม่"
ลมหายใจของคะน้าเริ่มขาดช่วง มีบางช่วงที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ซักพักมันก็จะเหมือนฮุบเอาอากาศเข้าไปอีกรอบ
เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 10 นาที ตัวมันก็เริ่มเกร็ง และ เหมือนจะพยายามหายใจอีกครั้ง
อีกครั้ง.............
และ
.
.
.
.
.
.
.
อีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
15.57 น. โดยประมาณ ลมหายใจสุดท้ายของคะน้า ก็สิ้นสุด
ผมกับแม่ นั่งร้องไห้ให้มัน
..........................................................................
เราอยู่ด้วยกันมา 20 ปีแล้วนะคะน้า
.
.
สุขด้วยกัน ทุกข์ใจด้วยกัน กินข้าวจานเดียวกัน เข้าห้องน้ำเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน วิ่งไล่จับกัน มาตลอด 20 ปี แม้ช่วงปีหลัง คะน้าจะไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งเราก็เข้าใจดี
ผมรู้มาตลอดว่า อีกไม่นาน คะน้าก็คงต้องจากผมกับแม่ไปแล้ว
การจากไปของคะน้า มันไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่เร็วเกินคาด หรือ ไม่ใช่เวลาอันควรแต่อย่างใด
ผมรู้ดีว่า มันใกล้ถึงเวลาที่เราต้องจากกัน
แต่.............
พอถึงเวลาที่มันหายใจเฮือกสุดท้ายพร้อมเกร็งตัว และจากไปจริง ๆ ผมกับแม่ ก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี
คนเราจะรู้ว่า อีกคนหนึ่งสำคัญแค่ไหนก็ตอนที่อีกคนนึงตายจากกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง
ผมนอนเฝ้ามันทั้งคืน แม้กระทั่งวันนี้ ผมก็ลางานเฝ้ามัน เฝ้ามันจนกระทั่งมันหมดลมหายใจสุดท้ายของมัน
มันตายต่อหน้าผม มันตายตอนที่หัวมันยังเกยมือผมอยู่ เหมือนที่มันทำมาตลอดชีวิตของมันตอนอยู่กับผม
.
.
20 ปีที่ผ่านมา ถ้าเปรียบตามอายุแมว ก็น่าจะเหยียบร้อย
.
.
คะน้าไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ ไม่เคยดื้อ ไปไหนไปกัน เราย้ายบ้าน 3 รอบ และ
คะน้าก็ติดสอยห้อยตามเราไปทั้งสามรอบ เราอยุ่ด้วยกันมาตลอด
.
.
คะน้า แมวสามสี ตัวอ้วนกลม ถูกแม่ผมเก็บมาเลี้ยงเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน
ตอนมันไม่สามารถคลอดลูกเองได้จากแถว ๆ โรงงานของแม่ มันเติบโตมาพร้อม ๆ กับผม
จากแมวผอมกระหร่อง กลายเป็นแมวอ้วนพีสีสวยและเป็นที่รักของทุกคน
.
.
มันทำหน้าที่แมวเลี้ยงของบ้านผมได้อย่างครบถ้วนกระบวนความแล้ว
ไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน นอกจากความทรงจำที่มีอยู่
ผมไม่อายที่จะร้องไห้ให้มันปานญาติผมตาย
.
.
.
คะน้า แมวสามสี
ที่ไม่ได้เป็นแค่แมวสำหรับผม มันเป็นทั้ง เพื่อน พี่ น้อง เจ้านาย ลูกน้อง บางทีก็เป็นแม่ผม
.
.
แมวสามสี ที่แม่เรียกกินข้าวก่อนลูกชายตัวเอง
.
.
คะน้า
.
.
แมวที่เคยมีแฟนคลับจากพันทิป มาหาถึงบ้าน เพื่อขอดูตัวจริง
.
.
คะน้า
.
.
แมวที่จะอยู่ในความทรงจำของผม และ แม่
.
.
ตลอดไป
.
.
ลาก่อน
--["ความสุขของคะน้า" ตอนที่ 11 "ตอนอวสาน"]--
แต่สมาชิกรุ่นซัก 10 ปีที่แล้ว ยุคก่อนพันทิปแท็ก หรือยุคเว็ปล้านทิป (คู่แข่งลับ ๆ ของพันทิป)
น่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ "คะน้า" กันอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย
และอาจจะจำได้ว่า ผมเคยเขียนนิยายแบบขำ ๆ ขึ้นมาเรื่องนึง โดยใช้ คะน้า เป็นตัวเอก
เขียนไปได้ 10 ตอน ก็เลิกเขียนเพราะต้องย้ายบ้านย้ายงานอีกรอบ เลยหยุดเขียนและหลงลืมมันไป
คะน้าเป็นใคร ??
คะน้า เป็นแมวไทยตัวเมีย สามสี ตัวอ้วน ๆ กลม ๆ ครับ
คะน้า เป็นแมวเก็บมาเลี้ยง เมื่อประมาณ เกือบ ๆ 20 ปีก่อน
...................................................................
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องราวของ คะน้า ในเรื่อง ความสุขของคะน้า ตอนที่ 1-10 สามารถหาอ่านได้ที่
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=smannoi14&group=8
....................................................................
"ความสุขของคะน้า" ตอนที่ 11 "ตอนอวสาน"
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 18.30 น.
มีสายเข้าจากแม่ผม ระหว่างทางที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ผมกดรับและกรอกเสียงลงไปแข่งกับเสียงรถที่กำลังวิ่งผ่านไปมา
"ฮัลโหล ว่าไงแม่"
เสียงแม่ตอบกลับมา ทำเอาผมนิ่งไปชั่วครู่
"หมันคะน้าแย่แล้ว รีบกลับมาดูมันเถอะ มันรอเราอยู่"
ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่ แต่เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า และรีบบิดมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
ผมขี่เร็วที่สุดเท่าที่ชีวิตผมเคยขี่ เพื่อจะรีบกลับไปดูใจคะน้าเป็นครั้งสุดท้าย
มีสัญญาณเตือนมาหลายครั้งแล้วในช่วงหลังสำหรับคะน้า
ว่า อีกไม่นานแล้ว ก็จะถึงเวลาของมัน!!!
ผมกับแม่ ก็พยายามดูแลมันให้ดีเป็นพิเศษในช่วงปีหลัง ๆ
ผมเดินทางมาถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่ม ก็รีบเข้าไปดูอาการของมัน
แม่บอกว่ามันอยู่ชั้นบน มันกินน้ำเสร็จ มันก็ลากสังขารตัวเองจากชั้นล่าง ขึ้นไปนอนที่ชั้นบนมันนอนรอเราอยู่หน้าห้อง
คะน้าไม่ขึ้นมาชั้นสองนานมากแล้ว เพราะแก่มาก นอกจากผมจะเป็นคนอุ้มขึ้นมานอนด้วยในห้อง
ผมเดินขึ้นมาเพื่อดูมัน
เพียงแค่เห็นสภาพสังขารของมันเท่านั้น น้ำตาผมก็ไหลออกมา
มันเหมือนแมวที่ตายแล้ว แต่ยังไม่ตาย เพราะมันยังหายใจอยู่
ลมหายใจเป็นจังหวะลึก และ ปกติ และมีการถอนหายใจเป็นช่วง ๆ
ผมเรียกชื่อมัน "คะน้า เป็นไงบ้าง"
มันลืมตา ผงกหัวขึ้นมาจากการนอน และ อ้าปากส่งเสียงร้องออกมานิดหน่อย แล้วก็ฟุบลงไปนอนต่อในท่าเดิม
นั่น.............. เป็นครั้งสุดท้ายที่มันสามารถผงกหัวและส่งเสียงออกมาได้
ผมบอกกับแม่ ในขณะที่อุ้มมันขึ้นมาไว้แนบอก
"ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้"
แม่เอื้อมมือมาลูบหัวและพูดบอกมันว่า "ไม่ไหวก็ไปเถอะนะลูก ทางนี้ไม่ต้องห่วง หลับให้สบายเถอะ"
คะน้าหลับตาลง ผมอุ้มมันไปนอนในห้อง ตรงที่มันเคยนอนอยู่เสมอ ๆ บนเตียงของผม
ผมนั่งเฝ้าอาการของมันแทบทั้งคืน จำได้ว่าล้มตัวลงนอนตอนตี 4
ก่อนนอนก็กระซิบบอกมันว่า "หลับให้สบายนะคะน้า ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน"
ตื่นมาตอนประมาณ 9 โมงเช้า คะน้ายังอยู่!!!
ผมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว จับเปลี่ยนท่านอนให้สบาย เปิดหน้าต่างห้องระบายอากาศให้มันนอนสบาย ๆ
15.00 น. ผมออกไปหาอะไรกินนอกบ้าน
15.30 น. ผมกลับมาถึงบ้าน แม่กลับมาจากทำงานแล้ว
ผมเดินขึ้นมาบนห้อง พร้อมแม่ คะน้ายังอยู่ในท่าเดิม แต่ที่น้อยลงจนแทบสังเกตไม่เห็นเลย คือ "ลมหายใจ"
ผมวางของที่ซื้อมา และหันไปบอกแม่ว่า "ใกล้แล้วแม่"
ลมหายใจของคะน้าเริ่มขาดช่วง มีบางช่วงที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ซักพักมันก็จะเหมือนฮุบเอาอากาศเข้าไปอีกรอบ
เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 10 นาที ตัวมันก็เริ่มเกร็ง และ เหมือนจะพยายามหายใจอีกครั้ง
อีกครั้ง.............
และ
.
.
.
.
.
.
.
อีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
15.57 น. โดยประมาณ ลมหายใจสุดท้ายของคะน้า ก็สิ้นสุด
ผมกับแม่ นั่งร้องไห้ให้มัน
..........................................................................
เราอยู่ด้วยกันมา 20 ปีแล้วนะคะน้า
.
.
สุขด้วยกัน ทุกข์ใจด้วยกัน กินข้าวจานเดียวกัน เข้าห้องน้ำเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน วิ่งไล่จับกัน มาตลอด 20 ปี แม้ช่วงปีหลัง คะน้าจะไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งเราก็เข้าใจดี
ผมรู้มาตลอดว่า อีกไม่นาน คะน้าก็คงต้องจากผมกับแม่ไปแล้ว
การจากไปของคะน้า มันไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่เร็วเกินคาด หรือ ไม่ใช่เวลาอันควรแต่อย่างใด
ผมรู้ดีว่า มันใกล้ถึงเวลาที่เราต้องจากกัน
แต่.............
พอถึงเวลาที่มันหายใจเฮือกสุดท้ายพร้อมเกร็งตัว และจากไปจริง ๆ ผมกับแม่ ก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี
คนเราจะรู้ว่า อีกคนหนึ่งสำคัญแค่ไหนก็ตอนที่อีกคนนึงตายจากกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง
ผมนอนเฝ้ามันทั้งคืน แม้กระทั่งวันนี้ ผมก็ลางานเฝ้ามัน เฝ้ามันจนกระทั่งมันหมดลมหายใจสุดท้ายของมัน
มันตายต่อหน้าผม มันตายตอนที่หัวมันยังเกยมือผมอยู่ เหมือนที่มันทำมาตลอดชีวิตของมันตอนอยู่กับผม
.
.
20 ปีที่ผ่านมา ถ้าเปรียบตามอายุแมว ก็น่าจะเหยียบร้อย
.
.
คะน้าไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ ไม่เคยดื้อ ไปไหนไปกัน เราย้ายบ้าน 3 รอบ และ
คะน้าก็ติดสอยห้อยตามเราไปทั้งสามรอบ เราอยุ่ด้วยกันมาตลอด
.
.
คะน้า แมวสามสี ตัวอ้วนกลม ถูกแม่ผมเก็บมาเลี้ยงเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน
ตอนมันไม่สามารถคลอดลูกเองได้จากแถว ๆ โรงงานของแม่ มันเติบโตมาพร้อม ๆ กับผม
จากแมวผอมกระหร่อง กลายเป็นแมวอ้วนพีสีสวยและเป็นที่รักของทุกคน
.
.
มันทำหน้าที่แมวเลี้ยงของบ้านผมได้อย่างครบถ้วนกระบวนความแล้ว
ไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน นอกจากความทรงจำที่มีอยู่
ผมไม่อายที่จะร้องไห้ให้มันปานญาติผมตาย
.
.
.
คะน้า แมวสามสี
ที่ไม่ได้เป็นแค่แมวสำหรับผม มันเป็นทั้ง เพื่อน พี่ น้อง เจ้านาย ลูกน้อง บางทีก็เป็นแม่ผม
.
.
แมวสามสี ที่แม่เรียกกินข้าวก่อนลูกชายตัวเอง
.
.
คะน้า
.
.
แมวที่เคยมีแฟนคลับจากพันทิป มาหาถึงบ้าน เพื่อขอดูตัวจริง
.
.
คะน้า
.
.
แมวที่จะอยู่ในความทรงจำของผม และ แม่
.
.
ตลอดไป
.
.
ลาก่อน