งานใหญ่มาแล้วจ้า!

World Film Festival of Bangkok เทศกาลหนังแห่งปีมีหนังมากที่สุดกว่า 60 เรื่อง เยอะขนาดนี้เราหาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ว่าเรื่องไหนน่าสนใจ เป็นไกด์ให้เพื่อน ๆ ที่อยากลองลิ้มชิมภาพยนตร์รสชาติใหม่ไปด้วยกันนะจ๊ะ

เปิดงานด้วย Snap ฝีมือผกก. คงเดช จาตุรันต์รัศมีที่ว่าด้วยความรักในช่วงประกาศกฎอัยการศึก ฟังดูหนักแต่น่าจะเป็น Romantic Dramedy นุ่มนวลนำแสดงโดยโทนี่ รากแก่น ปิดเทศกาลด้วย Suffragette จากเหตุการณ์เรียกร้องสิทธิสตรีในอังกฤษ นำทีมโดย Carey Mulligan เศร้าใจต้องได้รับเชิญเท่านั้น ทั้งสองเรื่องฉายรอบปกติเดือนธันวา

*Edit รู้สึกตัวเองเขียนคลุมเครือ: เฉพาะ Suffragette นะจ๊ะที่เป็น Invitation Only, Snap มีรอบ public ด้วยจ้ะ ดูได้จากตารางโปรแกรมเลย*

หนังไทยน่าชมอีกเรื่องคือ Vanishing Point ที่คว้ารางวัลใหญ่จากรอทเทอร์ดาม ใครพลาดจากการฉายแบบเงียบฉี่เมื่อเดือนก่อนนี่คือโอกาสแก้ตัว (เราเองแหละ) ในกลุ่มหนังเอเชียยังมี Underground Fragrance จากจีนที่ไปเฉิดฉายงานเวนิส ชายตาบอดชั่วคราวกับสาวไนท์คลับที่มองหาชีวิตที่ดีขึ้นในย่านชานเมืองปักกิ่ง


ไฮไลท์ของงานคือหนังที่สร้างความฮือฮาจากคานส์ Arabian Nights ใช้เวลา 6 ชั่วโมงโยงสังคมโปรตุเกสเข้ากับนิทานพันหนึ่งราตรี หนังซอยออกเป็นสามตอนและมาฉายครบหมดไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องปวดฉี่ ผกก.Miguel Gomes บินมาไทยเพื่อร่วมเสวนากับผู้ชมด้วย หนังเป็นตัวแทนโปรตุเกสชิงชัยออสการ์ปีนี้

คนรักหนังคานส์จะต้องร้องกรี๊ดกับเหล่าหนังสายประกวด หนังปาล์มทองปีล่าสุด Dheepan ชายศรีลังกาพาครอบครัวอุปโลกน์อพยพเข้าฝรั่งเศส จนถึงหนังเนื้อหาแรง Marguerite & Julien หนังพีเรียดความรักฉันท์ชู้สาวของพี่น้อง และย้อนรอยคานส์ 2014 กับ The Search หนังหนีตายช่วงสงครามของผกก. Michel Hazanavicius (The Artist)


งานมีความสัมพันธ์อันดีกับวงการหนังอิสราเอล ส่งหนังเก่าปนใหม่ล้วนได้ชิงหรือชนะรางวัล Ophir หรือออสการ์อิสราเอล The Human Resources Manager ผู้จัดการผ่ายบุคคลขนศพลูกจ้างสาวกลับยุโรปเพื่อรักษาชื่อเสียงบริษัท, The Matchmaker หนังก้าวข้ามวัยของเด็กชายผู้ช่วยนักจับคู่, Zero Motivation อลหม่านกลุ่มทหารหญิงในฐานทัพกลางทะเลทราย ทุกเรื่องมีโทนขำขันฉีกจากภาพที่อาจคิดไปเองว่าประเทศนี้มีแต่สงครามและความซีเรียส

กลุ่มหนังจากเมริกาใต้ ที่น่าสนใจมี Climas ชีวิตสาวเปรูสู้ชีวิตจากสามถิ่นฐาน และ Videophilia (And Other Viral Syndromes) ตามติดชีวิตวัยรุ่นเมืองลิม่าผ่านเทคนิคภาพเก๋ไก๋ เสียดายเราลุ้นหนังจากโซนทวีปนี้ไว้หลายเรื่องเพราะปีนี้มาแรงมากแต่มาน้อยเรื่องจัง

สายหนังสารคดี เราจะไม่พลาด The Overnighters บาทหลวงเปิดโบสถ์ให้คนงานไร้บ้านพักเพื่อหางานทำตามบ่อน้ำมัน หนังติด shortlist 15 หนังสารคดียอดเยี่ยมของออสการ์ปีก่อน


ปิดท้ายด้วยหนังวินเทจเป็นโอกาสชมภาพยนตร์คลาสสิคบนจอใหญ่ Contempt (Le Mepris) ผลงานขึ้นหิ้งของ Jean-Luc Godard เสียดสีสังคมและวงการหนังนำโดยสาวเซ็กซี่สะบึมอารมณ์ Brigitte Bardot ฟากเอเชีย สปอตไลท์ลงที่ Hou Hsiao-Hsien ผกก.ระดับมาสเตอร์ชาวไต้หวัน มี 2 หนังจากยุค 80s คือ The Time to Live and The Time to Die และ Dust in The Wind ใครหลงรักหนังชีวิตงามนาบเนิบก็อย่าได้พลาด

โอ๊ยย! เยอะมว้าก! ความเริ่ดคือหลายเรื่องมี Q&A กับผู้สร้างหลังหนังจบ เช็คโปรแกรมได้ ขอบคุณผู้จัดงานที่สร้างความสุขเปี่ยมล้นให้คนรักหนังทั่วกรุงจ้ะ โน้ตนิดนึงว่าบางเรื่อง Eng Sub Only ก็อย่าได้แคร์โนะ สตรอว์ง!

งานจัดวันที่ 13 -22 พ.ย. SF CTW 120 บาททุกที่นั่ง

รายละเอียด เรื่องย่อ โปรแกรมฉาย และช่องทางการจองตั๋ว -> http://www.sfcinemacity.com/index.php/th/promotion-detail/13th-World-Film-Festival-of-Bangkok-2015
Official Web -> http://www.worldfilmbkk.com/

แบ่งปันข้อมูลจากเพจ https://www.facebook.com/jijabanang ของเราเองจ้ะ
สนใจไปดูเรื่องอะไรกันบ้างเอ่ย? อยากให้มีคนไปร่วมงานเยอะ ๆ จังเลย