เตือนภัยชาวพุทธ ยาบำรุงร่างกายระบาดในหมู่พระ

ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นพระ  แต่มีส่วนรู้เห็นเพราะเคยบวชเรียนมาก่อน  (7ปี)  และมีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมครูบาอาจารย์รวมทั้งเพื่อนพระที่เคยบวชเรียนด้วยกันมาหลายที่และหลายจังหวัด   จึงได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเหล่านี้มาเกือบทุกพื้นที่ผมไป


เรื่องของเรื่องก็คือว่า  
เข้าพรรษาที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสแวะไปวัดแห่งหนึ่งในอำเภอประจันตคาม  จังหวัดปราจีนบุรี  เพื่อไปเยี่ยมครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือและรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยบวชเรียน   ไปถึงวัดประมาณสายๆหน่อย  พระท่านกำลังเตรียมจะฉันเพล   พอท่านฉันเสร็จแล้วก็ได้โอกาสพูดคุยกับอาจารย์ท่าน   สอบถามความเป็นอยู่ไปตามปรกติ  และถามเกี่ยวกับงานยกช่อฟ้าโบสถ์ที่ใกล้จะถึง    

ผ่านไปซักพักในขณะที่ผมกำลังเดินดูช่างกำลังทำช่อฟ้า   ก็ได้มีพระรูปนึงเดินมาหาผมเพราะคุ้นเคยกันมาก่อน  พูดคุยได้สักพักท่านก็ถามว่า
"จะออกไปไหนรึเปล่า"
"ว่าจะกลับตอนเย็นๆน่ะครับ  มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ"
"ไม่มีอะไรหรอก  แค่อยากให้พาไปซื้อของหน่อยนึง"
ผมเลยพาท่านขึ้นรถขับไปที่ตัวอำเภอซึ่งห่างออกไปประมาณ10กิโลได้   พาท่านแวะซื้อของใช้แล้วในขณะที่กำลังจะกลับ    ท่านก็ให้แวะที่ร้านสังฆภัณฑ์แห่งหนึ่ง   ผมก็ลงตามท่านไปด้วย

"เอาเหมือนเดิมโหลนึง"  พระท่านสั่งเจ้าของร้าน   ผมก็คิดในใจว่า   สั่งเหมือนกลัวจะรู้ว่าเป็นอะไร
สักพักเจ้าของร้านก็ยกของสิ่งนั้นมา   เป็นขวดเล็กๆไม่ใหญ่มาก   ผมถามว่าอะไรเหรอ   พระท่านก็ตอบว่า  "ยาบำรุงธรรมดา"
เจ้าของร้านก็ช่วยบรรยายต่อว่าบำรุงเลือด  ความดัน  หัวใจ   อะไรประมาณนี้แหละ    ผมก็เลยสนใจเพราะเห็นว่าราคามันถูก
เลยจะขอพระท่านชิมดูซักหน่อย   แต่ท่านไม่ยอม  บ่ายเบี่ยงไปว่า  "มันของพระไม่ใช่ของโยม"


เท่านั้นแหละต่อมความสงสัยผมเริ่มทำงานทันที   เลยอ้อนท่านอยู่พักนึง   จนท่านต้องบอกว่า  "ซื้อไปกินเองเลยสิ  แหม"
ผมเลยบ้าจี้ซื้อมาสองขวด   ระหว่างทางที่กลับท่านก็บอกว่ามันบำรุงนะ  ดีนะ  ทานมาเรื่อยๆแล้วไม่ปวดขาปวดหลังเลย  (ท่านอายุเกือบ60)

มาส่งท่านที่วัดแล้วก็ว่าจะเข้าไปลาอาจารย์ท่านก่อนจะกลับ   ท่านเลยถามว่าเมื่อกี้ไปไหนมา   ผมก็บอกไปว่าพาพระXXXไปซื้อของ
"ซื้อไอ้นั่นรึเปล่า"  ท่านถามเหมือนจะรู้อะไร   ผมก็เลยถามไปว่าอะไรเหรอครับไอ้นั่น   ท่านก็เลยบอกว่า  "ก็ไอ้ที่เขาอ้างว่าเป็นยาบำรุงนั่นไง"

ผมก็ยอมรับว่าพาไปซื้อ   "นั่นไงว่าแล้วเชียว"    

"ทำไมเหรอครับ"   ผมถามย้ำ
"ไอ้นั่นพระทานได้ที่ไหน   มันเป็นเหล้าดองยาชัดๆ"  

ตกใจเลยครับได้ยินแบบนั้น   ผมเลยบอกท่านว่าผมก็เผลอซื้อมาแต่ยังไม่ทันลอง  

"ถ้าจะกินระวังเจอด่านตรวจนะ  เพราะเห็นมากับตา   วันก่อนก็มีพระรูปนึงเมาจนขับรถคว่ำแถวนี้ไปแล้ว"

ด้วยความอยากลองผมเลยเอาที่ซื้อมาต่างหากมาลองจิบดู   จิบแรกรู้สึกว่ามันจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดๆ   เลยลองตัดสินใจยกหมดทั้งสองขวด   (ย้ำนะครับว่าขวดไม่ใหญ่  ประมาณเท่าๆเครื่องดื่มชูกำลัง)    เท่านั้นแหละครับ    ร้อนท้องวูปวาบเลย   รู้สึกเหมือนกินเหล้าขาวดองยาเลยครับ  แต่จะอ่อนกว่านิดหน่อย  

อาจารย์เล่าว่าไอ้นี้น่ะระบาดมากในตอนนี้   ทั้งพระบวชใหม่บวชเก่าติดกันงอมแงม   ไปลงปาฏิโมกข์บางรูปกลิ่นหึ่งเลย  ทั้งลูกวัด  เจ้าอาวาส  เจ้าคณะตำบลอำเภอ  ติดไปหลายท่านแล้ว    แถมยังไปบอกโยมว่ามันเป็นยา  ทานได้   โยมบางคนเห็นพระชอบก็ยิ่งซื้อมาถวายกันใหญ่    

ล่าสุดเห็นวางขายที่ตู้แช่ในร้านขายของชำหลายๆที่ข้างๆขวดเครื่องดื่มชูกำลังเพราะขวดมันเหมือนกัน   ถ้าไม่ดูยี่ห้ออาจเผลอหยิบผิดได้    
ลองๆถามเจ้าของร้านว่าขายดีมาก  พระเณรชอบมาซื้อไปฉันกัน  


จากที่ลองกับตัวมา   สรุปได้ว่าถึงกับเมาได้ครับ   และจากที่เคยบวชเรียนมา   ยาแบบนี้พระฉันไม่ได้แน่ๆ  เพราะ  "ส่วนผสมของเหล้าเยอะเกินไป"

ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้อยเอ็ด   วัดแถวๆบ้านก็มีของพวกนี้เหมือนกันครับ    



ฝากไปถึงชาวพุทธและคณะสงฆ์ผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ   ควรออกมาให้ความรู้ที่ถูกต้องตามพระวินัย  และควรมีการตักเตือนสอดส่องกันบ้างครับ   เห็นแล้วรับไมไ่ด้ไม่ต่างอะไรเลยจากกินเหล้าตรงๆ





ป.ล.  ขวดเล็กๆเท่าM100   ยี่ห้อเป็นสัตว์ทั้งเสือและพญานาค   ขอให้ข้อมูลแค่นี้ก่อนครับ   หาโอกาสได้จะถ่ายรูปมาลง

ป.ล.2  ภาพจากข่าว

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่