ผมมีโอกาสไปร่วม Workshop ในงาน “Cadtus Lover ใคร ๆ ก็ปลูกแคคตัสให้สวยได้” ที่ทางพันทิปดอทคอม (ppantip.com) ร่วมกับสำนักพิมพ์ Steps และร้านนายอินทร์ สาขา สยามพารากอน ได้จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ในครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมดี ๆ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกต้นแคคตัสหรือว่าต้นกระบองเพชร เพื่อที่จะได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับต้นไม้หนามเยอะที่หลาย ๆ ท่านรักและหลงใหล รวมทั้งได้ทราบถึงวิธีการดูแลต้นกระบองเพชรให้เติบโตได้อย่างสวยงามและออกดอกให้เราได้ชื่นชมตลอดไป
ที่ผ่านมาผมอาจจะให้ความสนใจต้นกระบองเพชรน้อยไปสักนิด แต่ผมรู้เป็นอย่างดีว่ามีผู้หญิงหลาย ๆ คนที่รักและหลงใหลต้นกระบองเพชรพวกนี้ และผมก็เคยได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชอบต้นไม้มีหนามพวกนี้มา 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนนั้นต่างก็เป็นหญิงสาวที่สวยและน่ารัก จึงทำให้ผมสรุปได้ว่าผู้หญิงที่ชอบต้นกระบองเพชรนี้มักจะเป็นสาวที่สวยน่ารักและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ถ้าท่านไม่เชื่อในทฤษฎีที่ผมอ้างไว้นี้ท่านสามารถที่จะดูเองได้ว่าคนที่รักแคคตัสเป็นชีวิตจิตใจนั้นจะเป็นคนที่สวยจริงหรือไม่? ท่านลองพิสูจน์ดูจากหญิงสาวคนนี้ก็ได้
สาวสวยน่ารักชวนฝันคนนี้เป็นคนที่รักและหลงใหลในต้นกระบองเพชรเป็นอย่างมาก เธอทำความรู้จักกับต้นไม้มีหนามนี้ได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งเธอสามารถเขียนหนังสือเล่มนี้ได้ หนังสือเล่มที่มีชื่อว่า “Cadtus Lover แด่เธอผู้ตกหลุมรักแคคตัส” เธอคือสาวสวยบุคลิกดูดีมีความสุขที่ชื่อ คุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน เธอเป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นแคคตัสสำหรับกิจกรรมเวิร์คช็อบในวันนี้ด้วย
เริ่มต้นที่คุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน ได้บอกถึงสาเหตุที่ทำให้ชอบต้นแคคตัสก็เพราะว่า ต้นกระบองเพชรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่มีรูปทรงน่ารัก เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายเหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเรา และในเวลาที่มันพร้อมจะออกดออกนั้นเราก็จะได้ลุ้นไปด้วยว่าดอกจะสวยงามมากขนาดไหน? ซึ่งคุณแป้งเชื่อว่าท่านที่เลี้ยงแคคตัสจนได้เห็นดอกของมันนั้นท่านจะมีความสุขใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่รักและหลงใหลต้นไม้มีหนามพวกนี้จึงทำให้ในปัจจุบันคุณแป้งมีต้นกระบองเพชรอยู่ในความครอบครองมากกว่า 300 ต้นแล้ว ซึ่งการเลี้ยงดูก็ไม่ได้ยากอะไรเลยเพียงแค่รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
ในลำดับต่อมาคุณแป้งได้แนะนำให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านได้อยู่จักกับต้นแคคตัส โดยคุณแป้งนำต้นน้องหนามมาโชว์ตัวให้ดูประมาณ 20 ต้น โดยแต่ละต้นคุณแป้งจะบอกว่ามันชื่อว่าอะไร ซึ่งแน่นอนว่าผมจำชื่อไม่ได้เลยสักต้นเพราะว่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษ แต่ผมจะจำชื่อเล่นของบางต้นที่คุณแป้งเรียกเป็นภาษาไทยได้ นอกจากจะได้รู้จักชื่อของแต่ละต้นแล้วผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังได้ทราบถึงลักษณะพิเศษของแคคตัสแต่ละต้นด้วย เช่น บางต้นมีหนามที่แหลมคมมาก แถมเมื่อโดนหนามตำจะเกิดอาการคัน , บางต้นรูปร่างอ้วนกลม , บางต้นรูปร่างเป็นเหมือนมีกิ่งยาวยื่นออกมาเป็นกอ , บางต้นมีขนที่อ่อนนุ่มสามารถเอามือจับหรือลูปเล่นได้ , บางต้นก็แทบจะไม่มีหนามเลยแต่มีขนขาว ๆ เล็ก ๆ แทน ฯลฯ
อุปกรณ์สำหรับปลูกต้นแคคตัส
หลังจากที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ได้รู้จักต้นกระบองเพชรที่คุณแป้งนำมาโชว์ตัวแล้ว คุณแป้งก็อธิบายให้ทราบถึงวิธีการเลี้ยงต้นกระบองเพชร การให้น้ำและการดูแลความเหมาะสมให้แก่ต้นกระบองเพชร แล้วคุณแป้งก็สาธิตการผสมดินสำหรับเป็นเครื่องปลูกต้นแคคตัสให้ดู จากการที่เธอลองสูตรผสมดินตามอัตราส่วนที่ลงตัวแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ก็จะได้ดินสำหรับการลองปลูกต้นกระบองเพชรใส่กระถางกันทุกคน
แล้วก็มาถึงช่วงที่เป็นการเวิร์คช็อปในวันนี้ โดยเป็นการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ทุกคนลองปลูกต้นกระบองเพชรลงกระถางดู โดยคุณแป้งได้เตรียมกระบองเพชรต้นเล็ก ๆ ที่ล้างรากไว้แล้ว รวมทั้งอุปกรณ์การปลูกต่าง ๆ เอาไว้ให้สำหรับทุกคน แน่นอนว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือกระถางใบเล็ก ๆ สำหรับปลูกน้องหนามต้นน้อยพวกนี้ โดยที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จะต้องปลูกต้นกระบองเพชรลงกระถางเล็ก ๆ และตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมให้ดูสวยงาม ในระว่างที่แต่ละคนกำลังวุ่นกับการจัดน้องหนามใส่กระถางเล็ก ๆ ผมเห็นว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลายท่านที่ไม่เคยปลูกต้นกระบองเพชรมาก่อนเลย แต่ก็ทำการปลูกได้โดยได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากคุณแป้งโดยตลอด ตัวเธอทั้งเดินดู เดินแนะนำว่าต้องทำอย่างไร? และที่สำคัญที่สุดเธอคงช่วยแอบลุ้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ทุกท่านปลูกลงกระถางได้สำเร็จทุกคน
ส่วนตัวแล้วผมเคยปลูกต้นไม้มาก่อน ที่ผ่านมาผมก็เป็นพวก “บ้าต้นไม้” คนหนึ่งเหมือนกัน ในอดีตผมมักจะแฝงตัวอยู่ในห้องต้นไม้ ที่อยู่ภายใต้ห้องจตุจักรของเว็บพันทิปนี้เสมอ แต่ว่าผมก็ยังไม่เคยลองปลูกต้นแคคตัสมาก่อนเหมือนกัน ผมได้แต่ซื้อต้นที่คนขายเขาปลูกใส่กระถางแล้ววางขายไว้ ในครั้งหนึ่งจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ในการปลูกแคคตัสของผม ซึ่งการปลูกต้นกระบองเพชรสำหรับผมนั้นไม่เป็นการยากสักเท่าไหร่เลย แต่มีอุปสรรคสำคัญที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมก็คือหนามอันแหลมคมของมัน ผมมักจะเผลอโดนหนามตำในทุกครั้งที่จับต้นมัน
แต่ผมก็ปลูกต้นแคคตัสลงกระถางสำเร็จจนได้และผมทำได้ดีมากด้วย ทำให้ผมต้องหวนกลับมาคิดถึงเรื่องหนามอันแหลมคมเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งคิดถึงคำกล่าวที่ว่า
“ในทุกความสวยงามมักจะมีหนามอันแหลมคมซ่อนอยู่เสมอ”
คงเหมือนกับความงามของอิสตรีที่จะมีความร้ายกาจเป็นหนามแหลมคมซ่อนอยู่แน่ ๆ ใช่แล้วครับผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ เพราะว่าหลังจากที่ผมผ่านหนามอันแหลมคมของมันมาได้ผมก็ได้ต้นแคคตัสสวย ๆในกระถางที่ถูกห่อตกแต่งอย่างดูดีไว้เป็นรางวัลติดมือกลับบ้าน พร้อมทั้งรางวัลชนะเลิศที่ได้รับจากคุณแป้งด้วย (โห ... ไม่ค่อยจะคุยเลยเนอะ)
ผลงานที่เสร็จแล้ว (ของคุณตี๋ที่ได้รางวัลที่ 3)
รับรางวัลจากมือคุณแป้ง
ผมถามคุณแป้งว่า “ถ้าผมอยากจะได้ต้นแคคตัสที่ออกดอก ผมควรจะเลือกซื้ออย่างไรดี?” ซึ่งคุณแป้งได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ว่า ตอนที่ซื้อเราควรจะเลือกซื้อต้นที่กำลังมีตุ่มเล็ก ๆ งอกออกมา ซึ่งตุ่มเล็ก ๆ นั้นจะโตกลายเป็นดอกในอนาคตนั้นเอง นอกจากนั้นคุณแป้งยังแนะนำด้วยว่า เวลาที่ซื้อต้นแคคตัสควรจะเลือกมาเป็นคู่ คือเลือกซื้อชนิดเดียวกันมา 2 ต้น เมื่อที่เวลามันออกดอกพร้อมกันเราจะได้เอาเกสรของดอกทั้ง 2 ต้นมาผสมกันเพื่อให้มันสามารถขยายพันธ์ได้ การที่เอาเกสรจากดอก 2 ต้นมาผสมกันนั้นก็เพื่อความแข็งแรงของสายพันธ์ที่จะเกิดขึ้นมานั้นเอง
คุณแป้งแนะนำให้ซื้อแคคตัสที่ละ 2 ต้น ... ใช่ครับ ในอดีตผมเคยทำอย่างที่คุณแป้งบอกจริง ๆ แต่ผมไม่ได้ต้องการเอาเกสรของมันมาผสมกันอย่างที่คุณแป้งแนะนำ ที่ผ่านมาผมซื้อต้นกระบองเพชรเป็นคู่ก็เพราะผมต้องการที่จะพูดว่า
“ต้นนึงของเรานะ ส่วนอีกต้นนึงของเธอ”
ใช่ครับ ... แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านกำลังคิดจริง ๆ ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนักต้นกระบองเพชรทั้งคู่มันก็ตายลง โดยที่ผมไม่อาจจะบอกได้ว่าต้นไหนตายก่อน ผมเชื่อมั่นว่าผมสามารถเลี้ยงต้นแคคตัสได้ตลอดรอดฝั่งแน่ ๆ แต่ต้นของผมคงตายเพราะมันรู้ว่าต้นที่เป็นคู่ของมันตายไปแล้วก็ได้
ฟังดูแล้วเหมือนเรื่องเศร้าเนอะ ... ผมไม่อยากให้ท่านรู้สึกอย่างนั้น
เอาเป็นว่า ... หลังจากที่ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้แล้วผมก็เกิดรู้สึกรักต้นแคคตัสขึ้นมาอีกครั้ง จะเป็นด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตามแต่ผมก็เชื่ออย่างสนิทใจว่า หลังจากที่ผมได้ทำความรู้จักกับต้นกระบองเพชรนี้แล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความน่ารักน่าหลงใหลในความเป็นตัวมัน มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาประดับโลกนี้ จึงทำให้ผมคิดได้ว่าผมควรจะต้องเริ่มกลับไปหาซื้อต้นกระบองเพชรมาเลี้ยงอีกสักครั้ง ซึ่งในคราวนี้อาจจะไม่ซื้อมาเป็นคู่แล้วก็ได้ แต่ผมจะซื้อมาเลี้ยงให้เป็นฝูงเต็มบ้านเต็มพื้นที่ที่แดดเลียถึงเลย
หนังสือ Cadtus Lover แด่เธอผู้ตกหลุมรักแคคตัส
ในเล่มมีทั้งเนื้อหาและภาพสี่สีสวยงาม
สำหรับท่านใดที่อยากจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับต้นแคคตัสมากกว่าที่ผมกล่าวมานี้ ท่านสามารถไปหาหนังสือชื่อ “Cadtus Lover แด่เธอผู้ตกหลุมรักแคคตัส” ที่เขียนโดยคุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน ของสำนักพิมพ์ Steps (ในเครืออมรินทร์) มาอ่านเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมดูก็ได้ครับ หนังสือเล่มนี้พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม มีทั้งคำบรรยายและภาพประกอบที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ หนังสือหนาประมาณ 200 หน้าราคาประมาณ 200 กว่าบาท ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้คุ้มค่าสำหรับเป็นความรู้ที่ดีในการปลูกแคคตัสหรือต้นกระบองเพชร ท่านที่สนใจลองไปหามาอ่านกันดูนะครับ
(ต้องโฆษณาให้เขาหน่อยครับ หนังสือเขาดีจริง)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ ขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ
กิจกรรมเวิร์คช็อป "Cadtus Lover ใคร ๆ ก็ปลูกแคคตัสให้สวยได้"
ผมมีโอกาสไปร่วม Workshop ในงาน “Cadtus Lover ใคร ๆ ก็ปลูกแคคตัสให้สวยได้” ที่ทางพันทิปดอทคอม (ppantip.com) ร่วมกับสำนักพิมพ์ Steps และร้านนายอินทร์ สาขา สยามพารากอน ได้จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ในครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมดี ๆ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกต้นแคคตัสหรือว่าต้นกระบองเพชร เพื่อที่จะได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับต้นไม้หนามเยอะที่หลาย ๆ ท่านรักและหลงใหล รวมทั้งได้ทราบถึงวิธีการดูแลต้นกระบองเพชรให้เติบโตได้อย่างสวยงามและออกดอกให้เราได้ชื่นชมตลอดไป
ที่ผ่านมาผมอาจจะให้ความสนใจต้นกระบองเพชรน้อยไปสักนิด แต่ผมรู้เป็นอย่างดีว่ามีผู้หญิงหลาย ๆ คนที่รักและหลงใหลต้นกระบองเพชรพวกนี้ และผมก็เคยได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชอบต้นไม้มีหนามพวกนี้มา 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนนั้นต่างก็เป็นหญิงสาวที่สวยและน่ารัก จึงทำให้ผมสรุปได้ว่าผู้หญิงที่ชอบต้นกระบองเพชรนี้มักจะเป็นสาวที่สวยน่ารักและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ถ้าท่านไม่เชื่อในทฤษฎีที่ผมอ้างไว้นี้ท่านสามารถที่จะดูเองได้ว่าคนที่รักแคคตัสเป็นชีวิตจิตใจนั้นจะเป็นคนที่สวยจริงหรือไม่? ท่านลองพิสูจน์ดูจากหญิงสาวคนนี้ก็ได้
สาวสวยน่ารักชวนฝันคนนี้เป็นคนที่รักและหลงใหลในต้นกระบองเพชรเป็นอย่างมาก เธอทำความรู้จักกับต้นไม้มีหนามนี้ได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งเธอสามารถเขียนหนังสือเล่มนี้ได้ หนังสือเล่มที่มีชื่อว่า “Cadtus Lover แด่เธอผู้ตกหลุมรักแคคตัส” เธอคือสาวสวยบุคลิกดูดีมีความสุขที่ชื่อ คุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน เธอเป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นแคคตัสสำหรับกิจกรรมเวิร์คช็อบในวันนี้ด้วย
เริ่มต้นที่คุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน ได้บอกถึงสาเหตุที่ทำให้ชอบต้นแคคตัสก็เพราะว่า ต้นกระบองเพชรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่มีรูปทรงน่ารัก เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายเหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเรา และในเวลาที่มันพร้อมจะออกดออกนั้นเราก็จะได้ลุ้นไปด้วยว่าดอกจะสวยงามมากขนาดไหน? ซึ่งคุณแป้งเชื่อว่าท่านที่เลี้ยงแคคตัสจนได้เห็นดอกของมันนั้นท่านจะมีความสุขใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่รักและหลงใหลต้นไม้มีหนามพวกนี้จึงทำให้ในปัจจุบันคุณแป้งมีต้นกระบองเพชรอยู่ในความครอบครองมากกว่า 300 ต้นแล้ว ซึ่งการเลี้ยงดูก็ไม่ได้ยากอะไรเลยเพียงแค่รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
ในลำดับต่อมาคุณแป้งได้แนะนำให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านได้อยู่จักกับต้นแคคตัส โดยคุณแป้งนำต้นน้องหนามมาโชว์ตัวให้ดูประมาณ 20 ต้น โดยแต่ละต้นคุณแป้งจะบอกว่ามันชื่อว่าอะไร ซึ่งแน่นอนว่าผมจำชื่อไม่ได้เลยสักต้นเพราะว่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษ แต่ผมจะจำชื่อเล่นของบางต้นที่คุณแป้งเรียกเป็นภาษาไทยได้ นอกจากจะได้รู้จักชื่อของแต่ละต้นแล้วผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังได้ทราบถึงลักษณะพิเศษของแคคตัสแต่ละต้นด้วย เช่น บางต้นมีหนามที่แหลมคมมาก แถมเมื่อโดนหนามตำจะเกิดอาการคัน , บางต้นรูปร่างอ้วนกลม , บางต้นรูปร่างเป็นเหมือนมีกิ่งยาวยื่นออกมาเป็นกอ , บางต้นมีขนที่อ่อนนุ่มสามารถเอามือจับหรือลูปเล่นได้ , บางต้นก็แทบจะไม่มีหนามเลยแต่มีขนขาว ๆ เล็ก ๆ แทน ฯลฯ
หลังจากที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ได้รู้จักต้นกระบองเพชรที่คุณแป้งนำมาโชว์ตัวแล้ว คุณแป้งก็อธิบายให้ทราบถึงวิธีการเลี้ยงต้นกระบองเพชร การให้น้ำและการดูแลความเหมาะสมให้แก่ต้นกระบองเพชร แล้วคุณแป้งก็สาธิตการผสมดินสำหรับเป็นเครื่องปลูกต้นแคคตัสให้ดู จากการที่เธอลองสูตรผสมดินตามอัตราส่วนที่ลงตัวแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ก็จะได้ดินสำหรับการลองปลูกต้นกระบองเพชรใส่กระถางกันทุกคน
แล้วก็มาถึงช่วงที่เป็นการเวิร์คช็อปในวันนี้ โดยเป็นการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ทุกคนลองปลูกต้นกระบองเพชรลงกระถางดู โดยคุณแป้งได้เตรียมกระบองเพชรต้นเล็ก ๆ ที่ล้างรากไว้แล้ว รวมทั้งอุปกรณ์การปลูกต่าง ๆ เอาไว้ให้สำหรับทุกคน แน่นอนว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือกระถางใบเล็ก ๆ สำหรับปลูกน้องหนามต้นน้อยพวกนี้ โดยที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จะต้องปลูกต้นกระบองเพชรลงกระถางเล็ก ๆ และตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมให้ดูสวยงาม ในระว่างที่แต่ละคนกำลังวุ่นกับการจัดน้องหนามใส่กระถางเล็ก ๆ ผมเห็นว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลายท่านที่ไม่เคยปลูกต้นกระบองเพชรมาก่อนเลย แต่ก็ทำการปลูกได้โดยได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากคุณแป้งโดยตลอด ตัวเธอทั้งเดินดู เดินแนะนำว่าต้องทำอย่างไร? และที่สำคัญที่สุดเธอคงช่วยแอบลุ้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ทุกท่านปลูกลงกระถางได้สำเร็จทุกคน
ส่วนตัวแล้วผมเคยปลูกต้นไม้มาก่อน ที่ผ่านมาผมก็เป็นพวก “บ้าต้นไม้” คนหนึ่งเหมือนกัน ในอดีตผมมักจะแฝงตัวอยู่ในห้องต้นไม้ ที่อยู่ภายใต้ห้องจตุจักรของเว็บพันทิปนี้เสมอ แต่ว่าผมก็ยังไม่เคยลองปลูกต้นแคคตัสมาก่อนเหมือนกัน ผมได้แต่ซื้อต้นที่คนขายเขาปลูกใส่กระถางแล้ววางขายไว้ ในครั้งหนึ่งจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ในการปลูกแคคตัสของผม ซึ่งการปลูกต้นกระบองเพชรสำหรับผมนั้นไม่เป็นการยากสักเท่าไหร่เลย แต่มีอุปสรรคสำคัญที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมก็คือหนามอันแหลมคมของมัน ผมมักจะเผลอโดนหนามตำในทุกครั้งที่จับต้นมัน
แต่ผมก็ปลูกต้นแคคตัสลงกระถางสำเร็จจนได้และผมทำได้ดีมากด้วย ทำให้ผมต้องหวนกลับมาคิดถึงเรื่องหนามอันแหลมคมเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งคิดถึงคำกล่าวที่ว่า
“ในทุกความสวยงามมักจะมีหนามอันแหลมคมซ่อนอยู่เสมอ”
คงเหมือนกับความงามของอิสตรีที่จะมีความร้ายกาจเป็นหนามแหลมคมซ่อนอยู่แน่ ๆ ใช่แล้วครับผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ เพราะว่าหลังจากที่ผมผ่านหนามอันแหลมคมของมันมาได้ผมก็ได้ต้นแคคตัสสวย ๆในกระถางที่ถูกห่อตกแต่งอย่างดูดีไว้เป็นรางวัลติดมือกลับบ้าน พร้อมทั้งรางวัลชนะเลิศที่ได้รับจากคุณแป้งด้วย (โห ... ไม่ค่อยจะคุยเลยเนอะ)
ผมถามคุณแป้งว่า “ถ้าผมอยากจะได้ต้นแคคตัสที่ออกดอก ผมควรจะเลือกซื้ออย่างไรดี?” ซึ่งคุณแป้งได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ว่า ตอนที่ซื้อเราควรจะเลือกซื้อต้นที่กำลังมีตุ่มเล็ก ๆ งอกออกมา ซึ่งตุ่มเล็ก ๆ นั้นจะโตกลายเป็นดอกในอนาคตนั้นเอง นอกจากนั้นคุณแป้งยังแนะนำด้วยว่า เวลาที่ซื้อต้นแคคตัสควรจะเลือกมาเป็นคู่ คือเลือกซื้อชนิดเดียวกันมา 2 ต้น เมื่อที่เวลามันออกดอกพร้อมกันเราจะได้เอาเกสรของดอกทั้ง 2 ต้นมาผสมกันเพื่อให้มันสามารถขยายพันธ์ได้ การที่เอาเกสรจากดอก 2 ต้นมาผสมกันนั้นก็เพื่อความแข็งแรงของสายพันธ์ที่จะเกิดขึ้นมานั้นเอง
คุณแป้งแนะนำให้ซื้อแคคตัสที่ละ 2 ต้น ... ใช่ครับ ในอดีตผมเคยทำอย่างที่คุณแป้งบอกจริง ๆ แต่ผมไม่ได้ต้องการเอาเกสรของมันมาผสมกันอย่างที่คุณแป้งแนะนำ ที่ผ่านมาผมซื้อต้นกระบองเพชรเป็นคู่ก็เพราะผมต้องการที่จะพูดว่า
“ต้นนึงของเรานะ ส่วนอีกต้นนึงของเธอ”
ใช่ครับ ... แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านกำลังคิดจริง ๆ ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนักต้นกระบองเพชรทั้งคู่มันก็ตายลง โดยที่ผมไม่อาจจะบอกได้ว่าต้นไหนตายก่อน ผมเชื่อมั่นว่าผมสามารถเลี้ยงต้นแคคตัสได้ตลอดรอดฝั่งแน่ ๆ แต่ต้นของผมคงตายเพราะมันรู้ว่าต้นที่เป็นคู่ของมันตายไปแล้วก็ได้
ฟังดูแล้วเหมือนเรื่องเศร้าเนอะ ... ผมไม่อยากให้ท่านรู้สึกอย่างนั้น
เอาเป็นว่า ... หลังจากที่ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้แล้วผมก็เกิดรู้สึกรักต้นแคคตัสขึ้นมาอีกครั้ง จะเป็นด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตามแต่ผมก็เชื่ออย่างสนิทใจว่า หลังจากที่ผมได้ทำความรู้จักกับต้นกระบองเพชรนี้แล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความน่ารักน่าหลงใหลในความเป็นตัวมัน มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาประดับโลกนี้ จึงทำให้ผมคิดได้ว่าผมควรจะต้องเริ่มกลับไปหาซื้อต้นกระบองเพชรมาเลี้ยงอีกสักครั้ง ซึ่งในคราวนี้อาจจะไม่ซื้อมาเป็นคู่แล้วก็ได้ แต่ผมจะซื้อมาเลี้ยงให้เป็นฝูงเต็มบ้านเต็มพื้นที่ที่แดดเลียถึงเลย
สำหรับท่านใดที่อยากจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับต้นแคคตัสมากกว่าที่ผมกล่าวมานี้ ท่านสามารถไปหาหนังสือชื่อ “Cadtus Lover แด่เธอผู้ตกหลุมรักแคคตัส” ที่เขียนโดยคุณแป้ง ปวรวรรณ สีนาคล้วน ของสำนักพิมพ์ Steps (ในเครืออมรินทร์) มาอ่านเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมดูก็ได้ครับ หนังสือเล่มนี้พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม มีทั้งคำบรรยายและภาพประกอบที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ หนังสือหนาประมาณ 200 หน้าราคาประมาณ 200 กว่าบาท ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้คุ้มค่าสำหรับเป็นความรู้ที่ดีในการปลูกแคคตัสหรือต้นกระบองเพชร ท่านที่สนใจลองไปหามาอ่านกันดูนะครับ
(ต้องโฆษณาให้เขาหน่อยครับ หนังสือเขาดีจริง)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ ขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ