เริ่มจากมีการถกเถียงเรื่องความเชื่อเรื่องผีมีจริงหรือไม่มีจริง
นายคัน (นามสมมุติ) เป็นผู้ที่เชื่อว่าผีมีจริง จึงเล่าว่า เด็กข้างบ้านไปเอาตุ๊กตาม้าลายที่ศาลมาเล่น พอกลับถึงบ้านมีอาการผีเข้า เสียงเปลี่ยน ถีบพ่อถีบแม่ ดิ้นพลั่กๆๆๆๆ (อาการเหมือนในหนังเป๊ะ ผีมันไม่เข้าแล้วร้องเพลงบ้างหรือไงนะ ต้องแด๊นซ์อย่างเดียวสิน่า) จึงรีบนำตุ๊กตาเจ้าปัญหาไปคืนศาล อาการหายทันที
นายโปร่งและสมาชิกที่ไม่เชื่อจึงบอกว่าทำไมไม่ไปพบแพทย์ หรือไปหาแพทย์หลายๆ ราย อาจจะเกิดจากอาการอย่างอื่น ฯลฯ เถียงกันไปมา จบที่ถ้างั้นลองไปเอาตุ๊กตามาอีกที ดูว่าผีจะเข้าอีกหรือเปล่า (ถ้าผีมันหวงตุ๊กตาจริง มันต้องโกรธกว่าเดิมแหงมๆ จริงมั๊ยครับเพราะไปหยามมันรอบสอง)
นายคันเริ่มลังเล งึมๆงัมๆ บอกว่า อืมมมม ถ้าไปเอามาอีกก็ไม่แน่ใจว่าผีจะเข้าหรือเปล่า เพราะมันแล้วแต่ผี (ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดด)
จบการสนทนารอบแรก นายโปร่งและสมาชิกฝ่ายที่ไม่เชื่อ จึงพากันล้อเรียกนายคัน ว่ากลัวแม้กระทั่งผีม้าลาย
เหตุที่นายคันมีติ๊กเกอร์เป็นรูปนักฟุตบอลสุดแมน จึงไม่พอใจที่ถูกล้อว่า กลัวผี จึงแก้เกมส์ว่า ไม่เคยพิมพ์คำว่า "กลัว" ประมาณแค่เล่าให้ฟังไม่ได้บอกว่ากลัว เรียกร้องให้นายโปร่งขอโทษ ที่ไปกล่าวหาว่า นายคันกลัวตุ๊กตาม้าลาย จบด้วยการขอโทษ ไม่กลัวก็ไม่กลัว ตามใจครับ แต่ก็เป็นที่มาของสรรพนาม ผีม้าลายมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้นนายคัน มีการท้าต่อว่า นายคันจะไปเตะม้าลายให้ดู ถ้านายคันเตะ นายโปร่งต้องกราบ Teen นายคัน (ขออภัยในคำไม่สุภาพแต่ใน inbox พิมพ์มาอย่างนี้จริงๆ ครับ) แต่หารู้ไม่ว่าไม่มีใครสนใจคำท้าของนายคัน เพราะทุกคนคิดว่ามันจบไปตั้งแต่นายคันมาเล่าอย่างตื่นเต้นแล้วครับ แถมจบภาคสองไปเมื่อตอนที่บอกว่า ถ้าไปเอาตุ๊กตาอีกก็ไม่รู้ผีจะเข้าหรือเปล่า แล้วแต่ผี 55555
จนทุกวันนี้นายคัน ยังมาตามท้าว่าจะไปเตะม้าลายให้ดู ไม่มีใครกล้ารับคำท้าของนายคันเลย ป๊อด ตุ๊ด ทั้งนั้น
------ จบบริบูรณ์ 3 ภาค--------
ลำดับเหตุการณ์ ผีม้าลาย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะเล่าประสบการณ์ผีๆ
นายคัน (นามสมมุติ) เป็นผู้ที่เชื่อว่าผีมีจริง จึงเล่าว่า เด็กข้างบ้านไปเอาตุ๊กตาม้าลายที่ศาลมาเล่น พอกลับถึงบ้านมีอาการผีเข้า เสียงเปลี่ยน ถีบพ่อถีบแม่ ดิ้นพลั่กๆๆๆๆ (อาการเหมือนในหนังเป๊ะ ผีมันไม่เข้าแล้วร้องเพลงบ้างหรือไงนะ ต้องแด๊นซ์อย่างเดียวสิน่า) จึงรีบนำตุ๊กตาเจ้าปัญหาไปคืนศาล อาการหายทันที
นายโปร่งและสมาชิกที่ไม่เชื่อจึงบอกว่าทำไมไม่ไปพบแพทย์ หรือไปหาแพทย์หลายๆ ราย อาจจะเกิดจากอาการอย่างอื่น ฯลฯ เถียงกันไปมา จบที่ถ้างั้นลองไปเอาตุ๊กตามาอีกที ดูว่าผีจะเข้าอีกหรือเปล่า (ถ้าผีมันหวงตุ๊กตาจริง มันต้องโกรธกว่าเดิมแหงมๆ จริงมั๊ยครับเพราะไปหยามมันรอบสอง)
นายคันเริ่มลังเล งึมๆงัมๆ บอกว่า อืมมมม ถ้าไปเอามาอีกก็ไม่แน่ใจว่าผีจะเข้าหรือเปล่า เพราะมันแล้วแต่ผี (ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดด)
จบการสนทนารอบแรก นายโปร่งและสมาชิกฝ่ายที่ไม่เชื่อ จึงพากันล้อเรียกนายคัน ว่ากลัวแม้กระทั่งผีม้าลาย
เหตุที่นายคันมีติ๊กเกอร์เป็นรูปนักฟุตบอลสุดแมน จึงไม่พอใจที่ถูกล้อว่า กลัวผี จึงแก้เกมส์ว่า ไม่เคยพิมพ์คำว่า "กลัว" ประมาณแค่เล่าให้ฟังไม่ได้บอกว่ากลัว เรียกร้องให้นายโปร่งขอโทษ ที่ไปกล่าวหาว่า นายคันกลัวตุ๊กตาม้าลาย จบด้วยการขอโทษ ไม่กลัวก็ไม่กลัว ตามใจครับ แต่ก็เป็นที่มาของสรรพนาม ผีม้าลายมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้นนายคัน มีการท้าต่อว่า นายคันจะไปเตะม้าลายให้ดู ถ้านายคันเตะ นายโปร่งต้องกราบ Teen นายคัน (ขออภัยในคำไม่สุภาพแต่ใน inbox พิมพ์มาอย่างนี้จริงๆ ครับ) แต่หารู้ไม่ว่าไม่มีใครสนใจคำท้าของนายคัน เพราะทุกคนคิดว่ามันจบไปตั้งแต่นายคันมาเล่าอย่างตื่นเต้นแล้วครับ แถมจบภาคสองไปเมื่อตอนที่บอกว่า ถ้าไปเอาตุ๊กตาอีกก็ไม่รู้ผีจะเข้าหรือเปล่า แล้วแต่ผี 55555
จนทุกวันนี้นายคัน ยังมาตามท้าว่าจะไปเตะม้าลายให้ดู ไม่มีใครกล้ารับคำท้าของนายคันเลย ป๊อด ตุ๊ด ทั้งนั้น
------ จบบริบูรณ์ 3 ภาค--------