วันที่ 23 ตุลาคม - 25 ตุลาคม พวกเราไปเที่ยวแบบงง ๆ กันที่เชียงใหม่มาครับ เลยอยากเอาประสบการณ์ที่เที่ยวแบบไปเรื่อย ๆ มาเล่าให้ฟังครับ
เริ่มแรกทริปนี้เกิดจากเพื่อน 6 คน ครับ อยากไปภูทับเบิกกัน แต่แล้วช่วงเวลานั้น ๆ อยู่ คนไปเต็มเลย...
ทำให้เปลี่ยนใจกันครับ ว่าจะไป แก่งกระจานกัน พอใกล้ ๆ วันจะไป เพื่อนเกิดไม่ว่างขึ้นมา 2 คน ครับ ...
แต่อย่างว่าใจมันจะไป ยังไงก็จะไปให้ได้แต่พอวันไปมาถึง... งานเข้าครับ เกิดปัญหานิดหนึ่ง
ทำให้จุดหมายที่จะไปแก่งกระจานเปลี่ยนไปอีกครับ พวกเรา 4 คนมานั่งมึน ๆ อยู่หน้า 7-11 ปากซอยลาซาลครับ..นั่งหาที่ไป
อยากไปแต่ไม่รู้จะไปไหน เงินช่วงนั้นก็น้อย เต็มที่ คนละ 2000 บาท
คุยกันได้สักพักพวกเราตกลงปลงใจไปครับ... ลองไปหัวลำโพงดูก่อน แต่ไม่รู้จะไปไหน
หลังจากดูรอบรถไฟ รอบใกล้สุดเป็นเชียงใหม่ครับ พวกเราเลยตกลงปลงใจไปเชียงใหม่กันครับ
ที่เราเลือกไปกันจะเป็นรถไฟตู้นอน เลยไปสอบถามครับ ก็เกิดเรื่องอีกก คือ ว่างแค่สองที่ แล้วมีอีกที ก็นู้น 4 ทุ่มเลย
ภาพตัดมาที่พวกเรา 4 คน ยืน งง ท่ามกลางดงผู้คน
เอาไงดีวะ ...ใครสักคนพูดดดขึ้นมา ยังไงก็จะไปเชียงใหม่ให้ได้ ไปครับ
ไปหมอชิตดิครับ มีรถแน่นอนน
ภาพตัดมาอีกรอบ ที่ชายหนุ่ม 4 คน หน้าตู้ขายตั๋ว ...
เนื่องจากงบน้อย และเป็น ชายล้วนแถมลุย ๆ ไม่เรื่องมาก เลยหาที่ถูกสุด เลยจัด บขส ครับ
ม.4ค เชียงใหม่ รอบ 20.00 ราคา 389 บาท ไม่มีห้องน้ำ นะครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับ บอกให้พี่คนขับจอดแวะปั้มได้ครับ..
เพราะผมบอกพี่เขาแวะตั้งสองรอบบ
เราสว่างกันที่ เชียงใหม่ประมาณ 7 โมงเช้าครับ ลงรถได้พวกเราเดินไปตรงที่ร้าน Bikky กะเช่ามอไซต์เต็มที่ ปรากฎว่า รถหมดครับ
หมดแบบไม่เหลือสักคน ทั้งสองสาขา พวกเราเลยมาเช่าอีกร้านครับ ร้านใกล้ ๆ กัน ชื่อร้าน Smile Motorbike ครับ
ตกลงกับพี่เช่า Fino ราคาวันละ 200 ครับแต่พวกเราจะคืนหกโมงเย็นของอีกวัน เลยต้องตีเป็นสองวัน
เท่ากับพวกเราเสียค่าเช่ามอไซค์คนละ 200 บาทครับ
ลืมบอกไปครับ ระหว่างนั่งรถทัวร์ พวกเราหาที่พักกันผ่าน Agoda Booking หลาย ๆ App ที่พักใกล้ ๆ หรือแถวนิมมานส่วนใหญ่เต็ม บางที่ก็เกินงบพวกเราครับ จนมาเจอของ Airasiago ทำให้เราได้เจอที่พัก Grand Living Residence อยู่แถว ๆ แยกทางไป มช ครับ ราคา 1300 พอหารแล้วตกคนละ 325 บาท เป็นห้อง Family Room ครับ สองเตียง สองห้องน้ำ เรียกได้ว่าครบครับ ส่วนรูปภาพถ้าสนใจ ลอง google ดูครับผม ไม่ได้ถ่ายมาครับ
หลังจากเช่ารถเราไปจัด มื้อแรกที่ร้านโจ๊กสมเพชร เพราะว่า... ไม่รู้จะกินอะไรครับ เป็นทางผ่านเลยแวะ
รสชาตก็ ตามนั้นครับ... ต้องไปลองครับ
หลังจากแวะอาบน้ำเก็บของกันประมาณ 11 โมงเราไปครับ ไปดอยสุเทพครับ เนื่องจากเพื่อนบางคนยังไม่เคยขึ้นเลยไปครับ
พวกเราแวะกราบไหว้สักการบูชาขอพรกับอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นดอยสุเทพ
เกือบชั่วโมงครับพวกเราขี่ไปแวะไป ถ่ายรูปไปเรื่อย ประมาณเที่ยงครับ มาถึงบันไดทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพครับ
แดดร้อนมาก ๆ วันนั้น แต่คนก็ยังเยอะมาก ๆ
หลังจากกราบไหว้ขอพร กันเสร็จพวกเราหาที่ไปต่อ เนื่องจากไม่มีเพลนอะไรกันเลยครับ ไหลกันไปเรื่อยย
จุดหมายต่อไปคือ ... ขึ้นไปต่อครับ ว่าจะลองขึ้นไปดอยปุยกันดูครับ
ระหว่างทางไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์เป็นทางกว้าง สวนสบายครับ
แต่หลังจากเลยไป เริ่มเป็นทางเล็ก ๆ 2 เลนสวน แคบ ๆ แล้วครับ
เราขี่กันไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดกางเต๊นท์ ก็ สภาพตอนแรกที่ มโนกันไว้คิดว่าจะเห็นวิวกว้าง ๆ ของเชียงใหม่ แต่เราคาดกันผิดครับ
เหมือนตรงที่เราไปจะเป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีมากกว่า
พวกเราเลยแวะถ่ายรูปกันสักพัก เลยลงมาข้าวกลางวันทานกันครับ
ระหว่างทางลงมาเห็นเหมือนมีจุดชมวิวที่ชาวบ้านทำไว้เป็นลานโล่ง ๆ มีของขายนิดหน่อย พวกเราเลยแวะแปปนึงครับ
เป็นจุดชมวิวที่สวยเลยย
หลังจากลงมาจากดอยสุเทพพวกเราก็ไปกินข้าวซอยฟ้าฮ่ามกัน แล้วก็กลับห้องมาอาบน้ำครับ
นอนพักกันสักพักก็...ถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครับ
จึง ๆ จุดหมายที่เราอยากมากันคืออยากเปลี่ยนที่กินเบียร์กันครับ สถานที่เที่ยวต่าง ๆ ถืออว่าเป็น Bonus ครับ
เรามากันที่ร้าน lism เรานั่งคุยเรื่องของสถานที่สุดท้ายที่เราจะไปวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้ข้อสรุปคือเราจะไป ดอยอินทนนท์ครับ
แต่...พวกเราต้องตื่นกันตีสาม ด้วยความอยากไปก็ไหว..ยังไงก็ไหว
ภาพตัดมาที่พวกเรา 11 โมงครับ... เราตื่นมากัน 11 โมง ความฝันที่จะไปดูพระอาทิตย์สลายหายไป
แผนใหม่จึงเกิดภายในเวลาไม่กี่นาที พวกเราเก็บของ Check out ฝากของแล้วรีบไปครับ
ไปจอมทอง พวกเราเปลี่ยนแผนจะไปดูนาขั้นบันไดที่จอมทองแทน แล้วกลายขึ้นมาขึ้นรถให้ทันภายใน หกโมงเย็นครับ
ประมาณเวลาบ่ายสามโมงเย็น พวกเราก็ถึงจอมทองครับ พวกเรารีบแวะไปนาขั้นบันได
ถือว่าสวยระดับหนึ่งเลยครับ นาขั้นบันไดที่ แม่เตี๊ยะ ใน จอมทอง
พวกเราเห็นป้ายว่ามีน้ำตกแม่เตี๊ยะ น้ำตกอะไรชื่อแปลก ๆ ไม่เคยไป ไม่เคยได้ยิน เลยลองเข้าไปดูครับ
ป้ายบอก 9 กิโลเมตร....
ป้ายลืมเขียนบอกว่า 9 กิโลเมตรขึ้น เขา แล้วทางไม่ค่อยดีด้วยครับ มีสะพานขาดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ
แต่ก็วิ่งได้ครับเนื่องจากช่วงที่ไปไม่มีน้ำเลยครับ ขี่กันมาเกือบชั่วโมง ก็ถึงทางเข้าน้ำตกครับ
ตอนแรกแอบคิดเล็ก ๆ ว่าต้องพลาดอีกและ มันต้องเล็กแน่ ๆ มันไม่สวย ไม่คุ้มแน่นอน
พอเดินไปสักพัก ความคิดเปลี่ยน...คือมันสวยมากกก แล้วคือ ที่นี่ไม่มีคนเลยครับ มีแค่พวกเรา 4 คน
พอเราเดินเข้ามาปรากฎว่าสะพานที่เชื่อมขาดครับ เหมือนมีน้ำป่าพัดมันจนขาด พวกเราขึ้นเดินข้ามลำธารที่ไหลไม่แรงเท่าไหร่ครับ
ภาพที่อยู่ตรงพวกเราคือต้นไม้ที่ถูกบวชไว้มากมาย หลากหลายต้น และน้ำตกที่มีพวกเราแค่ 4 คน..
น้ำตกแม่เตี๊ยะ อยู่ตรงหน้าเป็นน้ำตกที่ดูอลังการมาก
คือแปลกใจนิด ๆ นะครับ ที่ไม่มีคนเลยไม่รู้ว่า มันไกลหรือว่าอย่างไรถึงเงียบมาก แต่ก็สวยมากนะครับ
ทางกลับก็พากันข้ามลำธารกลับเหมือนเดิมครับ
เพื่อนคนนี้ขาลุยครับ..ชอบลุยมาก ๆ ครับ
หลังจากออกจากน้ำตกก็ประมาณ 5 โมงเย็นแล้วครับ พวกเราต้องบิดไปให้ทันเวลา ขึ้นรถตอน 1 ทุ่ม
ระหว่างเราจอดแวะถ่ายรูปนาขั้นบันไดอีกนิดหนึ่งครับ
จบแล้วครับกับทริป เชียงใหม่ 2 วัน 1 คืนของพวกเรา
ตลอดทริปพวกเราหมดกันไปไม่น่าเกิน 2 พันบาทไทยครับ
เพราะว่ามีกันไปแค่คนละ 2 พัน แล้วไม่มีให้กดเพิ่มด้วยครับ
สุดท้ายแล้วพวกเราก็ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นสมใจนะครับ
แต่...พวกเราได้ดูที่ กรุงเทพมหานคร บ้านที่เราจากไปและกลับมาดูพระอาทิตย์ในเช้าวันจันทร์
เพื่อนสนิท กับ แบงค์พันสองใบ ใน เชียงใหม่โนวเพลน 2 วัน 1 คืนน
เริ่มแรกทริปนี้เกิดจากเพื่อน 6 คน ครับ อยากไปภูทับเบิกกัน แต่แล้วช่วงเวลานั้น ๆ อยู่ คนไปเต็มเลย...
ทำให้เปลี่ยนใจกันครับ ว่าจะไป แก่งกระจานกัน พอใกล้ ๆ วันจะไป เพื่อนเกิดไม่ว่างขึ้นมา 2 คน ครับ ...
แต่อย่างว่าใจมันจะไป ยังไงก็จะไปให้ได้แต่พอวันไปมาถึง... งานเข้าครับ เกิดปัญหานิดหนึ่ง
ทำให้จุดหมายที่จะไปแก่งกระจานเปลี่ยนไปอีกครับ พวกเรา 4 คนมานั่งมึน ๆ อยู่หน้า 7-11 ปากซอยลาซาลครับ..นั่งหาที่ไป
อยากไปแต่ไม่รู้จะไปไหน เงินช่วงนั้นก็น้อย เต็มที่ คนละ 2000 บาท
คุยกันได้สักพักพวกเราตกลงปลงใจไปครับ... ลองไปหัวลำโพงดูก่อน แต่ไม่รู้จะไปไหน
หลังจากดูรอบรถไฟ รอบใกล้สุดเป็นเชียงใหม่ครับ พวกเราเลยตกลงปลงใจไปเชียงใหม่กันครับ
ที่เราเลือกไปกันจะเป็นรถไฟตู้นอน เลยไปสอบถามครับ ก็เกิดเรื่องอีกก คือ ว่างแค่สองที่ แล้วมีอีกที ก็นู้น 4 ทุ่มเลย
ภาพตัดมาที่พวกเรา 4 คน ยืน งง ท่ามกลางดงผู้คน
เอาไงดีวะ ...ใครสักคนพูดดดขึ้นมา ยังไงก็จะไปเชียงใหม่ให้ได้ ไปครับ
ไปหมอชิตดิครับ มีรถแน่นอนน
ภาพตัดมาอีกรอบ ที่ชายหนุ่ม 4 คน หน้าตู้ขายตั๋ว ...
เนื่องจากงบน้อย และเป็น ชายล้วนแถมลุย ๆ ไม่เรื่องมาก เลยหาที่ถูกสุด เลยจัด บขส ครับ
ม.4ค เชียงใหม่ รอบ 20.00 ราคา 389 บาท ไม่มีห้องน้ำ นะครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับ บอกให้พี่คนขับจอดแวะปั้มได้ครับ..
เพราะผมบอกพี่เขาแวะตั้งสองรอบบ
เราสว่างกันที่ เชียงใหม่ประมาณ 7 โมงเช้าครับ ลงรถได้พวกเราเดินไปตรงที่ร้าน Bikky กะเช่ามอไซต์เต็มที่ ปรากฎว่า รถหมดครับ
หมดแบบไม่เหลือสักคน ทั้งสองสาขา พวกเราเลยมาเช่าอีกร้านครับ ร้านใกล้ ๆ กัน ชื่อร้าน Smile Motorbike ครับ
ตกลงกับพี่เช่า Fino ราคาวันละ 200 ครับแต่พวกเราจะคืนหกโมงเย็นของอีกวัน เลยต้องตีเป็นสองวัน
เท่ากับพวกเราเสียค่าเช่ามอไซค์คนละ 200 บาทครับ
ลืมบอกไปครับ ระหว่างนั่งรถทัวร์ พวกเราหาที่พักกันผ่าน Agoda Booking หลาย ๆ App ที่พักใกล้ ๆ หรือแถวนิมมานส่วนใหญ่เต็ม บางที่ก็เกินงบพวกเราครับ จนมาเจอของ Airasiago ทำให้เราได้เจอที่พัก Grand Living Residence อยู่แถว ๆ แยกทางไป มช ครับ ราคา 1300 พอหารแล้วตกคนละ 325 บาท เป็นห้อง Family Room ครับ สองเตียง สองห้องน้ำ เรียกได้ว่าครบครับ ส่วนรูปภาพถ้าสนใจ ลอง google ดูครับผม ไม่ได้ถ่ายมาครับ
หลังจากเช่ารถเราไปจัด มื้อแรกที่ร้านโจ๊กสมเพชร เพราะว่า... ไม่รู้จะกินอะไรครับ เป็นทางผ่านเลยแวะ
รสชาตก็ ตามนั้นครับ... ต้องไปลองครับ
หลังจากแวะอาบน้ำเก็บของกันประมาณ 11 โมงเราไปครับ ไปดอยสุเทพครับ เนื่องจากเพื่อนบางคนยังไม่เคยขึ้นเลยไปครับ
พวกเราแวะกราบไหว้สักการบูชาขอพรกับอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นดอยสุเทพ
เกือบชั่วโมงครับพวกเราขี่ไปแวะไป ถ่ายรูปไปเรื่อย ประมาณเที่ยงครับ มาถึงบันไดทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพครับ
แดดร้อนมาก ๆ วันนั้น แต่คนก็ยังเยอะมาก ๆ
หลังจากกราบไหว้ขอพร กันเสร็จพวกเราหาที่ไปต่อ เนื่องจากไม่มีเพลนอะไรกันเลยครับ ไหลกันไปเรื่อยย
จุดหมายต่อไปคือ ... ขึ้นไปต่อครับ ว่าจะลองขึ้นไปดอยปุยกันดูครับ
ระหว่างทางไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์เป็นทางกว้าง สวนสบายครับ
แต่หลังจากเลยไป เริ่มเป็นทางเล็ก ๆ 2 เลนสวน แคบ ๆ แล้วครับ
เราขี่กันไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดกางเต๊นท์ ก็ สภาพตอนแรกที่ มโนกันไว้คิดว่าจะเห็นวิวกว้าง ๆ ของเชียงใหม่ แต่เราคาดกันผิดครับ
เหมือนตรงที่เราไปจะเป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีมากกว่า
พวกเราเลยแวะถ่ายรูปกันสักพัก เลยลงมาข้าวกลางวันทานกันครับ
ระหว่างทางลงมาเห็นเหมือนมีจุดชมวิวที่ชาวบ้านทำไว้เป็นลานโล่ง ๆ มีของขายนิดหน่อย พวกเราเลยแวะแปปนึงครับ
เป็นจุดชมวิวที่สวยเลยย
หลังจากลงมาจากดอยสุเทพพวกเราก็ไปกินข้าวซอยฟ้าฮ่ามกัน แล้วก็กลับห้องมาอาบน้ำครับ
นอนพักกันสักพักก็...ถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครับ
จึง ๆ จุดหมายที่เราอยากมากันคืออยากเปลี่ยนที่กินเบียร์กันครับ สถานที่เที่ยวต่าง ๆ ถืออว่าเป็น Bonus ครับ
เรามากันที่ร้าน lism เรานั่งคุยเรื่องของสถานที่สุดท้ายที่เราจะไปวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้ข้อสรุปคือเราจะไป ดอยอินทนนท์ครับ
แต่...พวกเราต้องตื่นกันตีสาม ด้วยความอยากไปก็ไหว..ยังไงก็ไหว
ภาพตัดมาที่พวกเรา 11 โมงครับ... เราตื่นมากัน 11 โมง ความฝันที่จะไปดูพระอาทิตย์สลายหายไป
แผนใหม่จึงเกิดภายในเวลาไม่กี่นาที พวกเราเก็บของ Check out ฝากของแล้วรีบไปครับ
ไปจอมทอง พวกเราเปลี่ยนแผนจะไปดูนาขั้นบันไดที่จอมทองแทน แล้วกลายขึ้นมาขึ้นรถให้ทันภายใน หกโมงเย็นครับ
ประมาณเวลาบ่ายสามโมงเย็น พวกเราก็ถึงจอมทองครับ พวกเรารีบแวะไปนาขั้นบันได
ถือว่าสวยระดับหนึ่งเลยครับ นาขั้นบันไดที่ แม่เตี๊ยะ ใน จอมทอง
พวกเราเห็นป้ายว่ามีน้ำตกแม่เตี๊ยะ น้ำตกอะไรชื่อแปลก ๆ ไม่เคยไป ไม่เคยได้ยิน เลยลองเข้าไปดูครับ
ป้ายบอก 9 กิโลเมตร....
ป้ายลืมเขียนบอกว่า 9 กิโลเมตรขึ้น เขา แล้วทางไม่ค่อยดีด้วยครับ มีสะพานขาดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ
แต่ก็วิ่งได้ครับเนื่องจากช่วงที่ไปไม่มีน้ำเลยครับ ขี่กันมาเกือบชั่วโมง ก็ถึงทางเข้าน้ำตกครับ
ตอนแรกแอบคิดเล็ก ๆ ว่าต้องพลาดอีกและ มันต้องเล็กแน่ ๆ มันไม่สวย ไม่คุ้มแน่นอน
พอเดินไปสักพัก ความคิดเปลี่ยน...คือมันสวยมากกก แล้วคือ ที่นี่ไม่มีคนเลยครับ มีแค่พวกเรา 4 คน
พอเราเดินเข้ามาปรากฎว่าสะพานที่เชื่อมขาดครับ เหมือนมีน้ำป่าพัดมันจนขาด พวกเราขึ้นเดินข้ามลำธารที่ไหลไม่แรงเท่าไหร่ครับ
ภาพที่อยู่ตรงพวกเราคือต้นไม้ที่ถูกบวชไว้มากมาย หลากหลายต้น และน้ำตกที่มีพวกเราแค่ 4 คน..
น้ำตกแม่เตี๊ยะ อยู่ตรงหน้าเป็นน้ำตกที่ดูอลังการมาก
คือแปลกใจนิด ๆ นะครับ ที่ไม่มีคนเลยไม่รู้ว่า มันไกลหรือว่าอย่างไรถึงเงียบมาก แต่ก็สวยมากนะครับ
ทางกลับก็พากันข้ามลำธารกลับเหมือนเดิมครับ
เพื่อนคนนี้ขาลุยครับ..ชอบลุยมาก ๆ ครับ
หลังจากออกจากน้ำตกก็ประมาณ 5 โมงเย็นแล้วครับ พวกเราต้องบิดไปให้ทันเวลา ขึ้นรถตอน 1 ทุ่ม
ระหว่างเราจอดแวะถ่ายรูปนาขั้นบันไดอีกนิดหนึ่งครับ
จบแล้วครับกับทริป เชียงใหม่ 2 วัน 1 คืนของพวกเรา
ตลอดทริปพวกเราหมดกันไปไม่น่าเกิน 2 พันบาทไทยครับ
เพราะว่ามีกันไปแค่คนละ 2 พัน แล้วไม่มีให้กดเพิ่มด้วยครับ
สุดท้ายแล้วพวกเราก็ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นสมใจนะครับ
แต่...พวกเราได้ดูที่ กรุงเทพมหานคร บ้านที่เราจากไปและกลับมาดูพระอาทิตย์ในเช้าวันจันทร์