อย่างที่บอกในหัวข้อแหละ สีตัวนี้ใช้มาปีกว่าๆแล้ว แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์เอามารีวิวอย่างเป็นการเป็นงานซะที ใช้มาก็นานจนปากกาที่มากับเซ็ทโดนใครไม่รู้ตบเอาไป เลยไปซื้อใหม่มาเป็นของยี่ห้ออื่น แต่เดี๋ยวจะว่าถึงส่วนนี้ทีหลัง ตอนนี้เรามาเริ่มรีวิวสีกันก่อนเลย
สีน้ำ Sakura Koi รุ่นนี้เราซื้อตามคุณแพรแห่ง pairnotebook ด้วยความที่เราชอบทำ travel journal เหมือนกันก็เลยถามเอาไว้ และสุดท้ายเราก็ไปซื้อใช้ตาม ลักษณะคือเป็นสีน้ำแบบตลับ เน้นพกพาสะดวก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพกไปสเก็ตช์ภาพนอกสถานที่เป็นอย่างมาก เพราะในกล่องเขาจะให้พู่กันแทงค์มาด้วย เป็นพู่กันที่เติมน้ำลงไปในด้ามได้ ใช้อยากได้สีเข้มก็ไม่ต้องบีบด้ามมาก อยากได้สีอ่อนก็บีบน้ำเยอะหน่อย สะดวกมาก ไม่ต้องพกกระบอกน้ำและพู่กันมากๆให้เกะกะอีกต่อไป ซึ่งสีรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 3 ไซส์ให้เลือก มีแบบ 12 18 และ 24 สี ตามลำดับ เราเองขี้เกียจยุ่งยากผสมสี เลยเลือกที่ให้สีมากสุดไว้ก่อน สนนราคาก็ถือว่าถูกถ้าเทียบกับสีน้ำตลับหรือสีน้ำก้อนแบบจัดเซ็ทจากแบรนด์อื่นๆ กล่องนี้เราถอยมาจากร้านสมใจ ราคาประมาณ 500 กลางๆ
หลังจากเอากล่องกระดาษทิ้งไป ข้างในก็จะเป็นกล่องพลาสติคสีขาวขุ่นแบบนี้ ด้านบนที่เป็นฝาจะมีรอยกลมบุบๆเรียงกันหลายอัน ไม่รู้เขาออกแบบไว้เพื่อประโยชน์อะไร เดาไม่ออก และมีโลโก้ด้วย
แต่ที่ฝาของเราไม่ยักมีโลโก้แฮะ ซึ่งก็เป็นของแท้แน่นอนนะ ซื้อจากร้านสมใจนี่ยังไงก็ไว้ใจได้แน่ และเราก็อ่านเจอในเนทเห็นของฝรั่งหลายคนก็ไม่มีโลโก้เหมือนกัน ทั้งแบบ 18 หรือ 24 สีอย่างเรานี่แหละ บางคนก็ห่วงว่าจะได้ของปลอมเหมือนกัน
เปิดฝากล่องออกมาก็จะเจอกับจานสีที่วางครอบตัวสีก้อนอยู่ จานของเรานี้ไม่ได้ล้างมานานแค่ไหนจำไม่ได้แล้ว คุ้นๆว่าเคยล้างไปหนเดียวเองมั้งตั้งแต่ซื้อมาใช้แต่มีเช็ดเล็กๆน้อยๆนะ
มาดูตัวสีกันบ้าง สีของเราพยายามรักษาอย่างดี สีไม่เน่า แต่ฟองน้ำที่แถมมาให้เน่าไปอันนึง ส่วนช่องด้านล่างแนวนอนนั้นเอาไว้ใส่พู่กันแทงค์ที่แถมมาให้ ใส่เก็บในนั้นได้เลยสะดวกดีมาก แต่อย่างที่เล่าว่ามีคนตบไปแล้ว ตอนนี้เราเลยใช้พู่กันแทงค์ของ Seikai แทน
ข้างบนนี้เป็นการ swatch สีแบบเข้มและแบบอ่อนนะ พอให้ดูเป็นไอเดีย ทำเรียงกันไปจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง ยกเว้นแค่สีขาวที่ไม่รู้จะระบายให้ดูไปทำไม เพราะเอาเข้าจริงมันใช้น้อยมากๆ ที่เห็นพร่องไปเยอะมากนั่นคือน้องยืมไปใช้ช่วงนึง แต่ส่วนตัวเราเองนานๆจะใช้ที
เนื้อสีเกลี่ยง่ายพอสมควร ระบายเรียบได้ดี แต่การระบายไล่สีอาจจะยังมีตกตะกอนแบบแปลกๆบ้างถ้ายังฝึกไม่ดีพอ อันนี้ไม่รู้เพราะพู่กันยังไม่ดีพอหรือเป็นที่เราห่วยเอง สีบางสีที่ให้มามันคล้ายกันมากเกินไป รู้สึกไม่จำเป็นเท่าไหร่ รวมๆแล้วจัดว่าคุ้มค่าในราคาประมาณเท่านี้สำหรับสีน้ำแบบตลับพกพา เพราะตัวที่ราคาแรงขึ้นไปประมาณ 200-300 บาทก็จะเป็นของแบรนด์อื่นที่ได้แค่ 12-15 สีเท่านั้น ไม่ได้มากถึง 24 แบบนี้ สรุปแล้วเหมาะกับเด็กนักเรียนที่อยากได้สีราคาไม่แพง คุณภาพดีระดับนึง ขี้เกียจบีบจากหลอดผสมเอง หรือใครที่ชอบทำงานศิลปะแบบมือสมัครเล่น และคนที่ชอบพกอุปกรณ์ไปสเก็ตช์ภาพนอกสถานที่ที่ยังอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มหัด ยังไม่โปรฯเท่าไหร่ สีตัวนี้จะตอบโจทย์การใช้งานและเรื่องราคาที่ไม่แรงได้ดีมาก
ทั้งสองภาพด้านบนนี้เป็นตัวอย่างการใช้งานของเรา ปกติเราวาดและระบายสีลงในสมุดสเก็ตช์ของ Midori เราใช้กระดาษเนื้อนี้เป็นหลัก ไม่ได้วาดลงกระดาษวาดเขียนแบบอื่นหรือกระดาษสีน้ำที่ดีเด่อะไรมากมาย ก็ลองดูเอาละกันว่าประมาณไหน ฝีมือเราก็ยังกากๆอยู่ ไม่ได้สวยหรูอะไรมาก วาดแบบแค่พอดูออกว่าเป็นตัวอะไร ไม่ต้องเขียนกำกับเอาก็พอน่ะ ฮ่าๆๆ
เอาละ เรามาพูดถึงพู่กันแทงค์กันบ้าง อย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่ามันสะดวกยังไงในการใช้งาน สำหรับพู่กันของ Seikai ที่เรามี จำไม่ผิดน่าจะไซส์ M นะ เราซื้อมาเพราะเห็นว่ามันถูกกว่าของ Sakura เองถึง 20 บาท ซื้อมา 140 มั้ง แถมด้ามมันใหญ่กว่าด้วย จุน้ำได้มากกว่าหน่อยนึง ก็เลยเลือกมา แต่ปรากฎว่าไอ้ความที่ด้ามมันใหญ่กว่านี่ละมันทำให้เก็บเข้ากล่องไม่ได้
ข้อเสียที่เราเพิ่งจะพบเมื่อวานนี้สดๆร้อนๆแบบที่นึกไม่ถึงเลยก็คือ พู่กันตัวนี้ไม่มีช่องระบายอากาศตรงช่วงหัว ปกติแล้วพู่กันแทงค์ที่ดีเขาจะต้องเจาะช่องระบายอากาศไว้ด้วย เพื่อเป็นการลดความดันตอนบีบน้ำจากตรงด้าม เวลาที่ไม่ได้เจาะไว้แรงดันจากการบีบน้ำที่ด้ามจะทำให้หัวแปรงมันดูเนื้อสีย้อนกลับเข้าไปในหัวแปรง ไปอัดกันอยู่ตรงเนื้อที่ด้านใน ตรงที่เป็นฟองน้ำดำๆน่ะ ไม่รู้มองเห็นกันรึเปล่า ทำให้สีไม่ออกชัดเท่าที่ควร และสีที่ไปค้างด้านในทำให้เราล้างทำความสะอาดหัวแปรงยากขึ้นเวลาที่จะเปลี่ยนเป็นสีต่อไป ต้องพ่นน้ำและซับกันนานเลยว่าสีที่ตกค้างจะออกไปหมด
เวลาที่เริ่มใช้ไปสักเดือนนึงหัวพู่กันที่เป็นขนแบบสังเคราะห์ก็จะติดสีมาบ้างนะ ไม่ต้องตกใจ มันเป็นธรรมดาของพู่กันที่ใช้ขนแบบนี้ แต่มันไม่ได้ทำให้สีเน่านะ การติดของสีจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเองแล้วแต่ช่วงเวลา สีเก่าหลุด สีใหม่มาติด ไม่มีทางที่มันจะกลับไปใสแหนวแบบเดิมอีกแล้ว อย่างดีก็อมเทานิดนึง
สำหรับพู่กันแทงค์ Seikai อันนี้ จะว่าไม่แนะนำเลยก็ไม่เชิงนะ ราคามันไม่ได้แพงมาก ถ้าไม่ตึงเรื่องงบอะไรก็ซื้อมาลองเล่นแก้ขัดได้ ถือว่าซื้อประสบการณ์ เพราะเราเองก็จะไปซื้อของ Sakura แบบเดิมมาใช้แทนแล้วเนี่ย เพราะเบื่อปัญหาตอนไล่สีที่ตกค้างในหัวออกนี่แหละ ความจริงของ Sakura ก็ไม่ได้มีช่องระบายอากาศเหมือนกันนั่นแหละ แต่เท่าที่เคยใช้มานานก็ไม่พบปัญหาดูดสีเข้าไปติด เลยคิดว่าจะซื้อมาใช้อีกรอบ ของแบรนด์อื่นที่ดีๆทำช่องระบายอากาศไว้ให้ก็ราคาแรงกันพอสมควร 200 ปลายๆถึง 300 ปลายๆโน่นแหละ แต่ไว้เราถอยมาเมื่อไหร่จะเอามารีวิวเปรียบเทียบกันอีกที ซื้อสะสมไปเรื่อยๆก่อนช่วงนี้
จบแล้วสำหรับการรีวิว ไม่รู้มีสาระมากพอมั้ย ติชมกันได้ ถ้าเรื่องฝีมือนี่เรายังกากอยู่ อันนี้น้อมรับ อิอิ ยังไงใครที่ใช้ไอเท็มเด็ดๆตัวไหนอยู่ก็มาแนะนำกันได้ เราจะได้หามาลองบ้างถ้าราคามันไม่แรงจนเกินไปนัก แล้วจะได้เอามารีวิวให้ดูกันอีก
[CR] ใช้มาเป็นปีเพิ่งจะรีวิวกับ Sakura Koi Watercolor Pocket Field Sketch Box 24 สี
สีน้ำ Sakura Koi รุ่นนี้เราซื้อตามคุณแพรแห่ง pairnotebook ด้วยความที่เราชอบทำ travel journal เหมือนกันก็เลยถามเอาไว้ และสุดท้ายเราก็ไปซื้อใช้ตาม ลักษณะคือเป็นสีน้ำแบบตลับ เน้นพกพาสะดวก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพกไปสเก็ตช์ภาพนอกสถานที่เป็นอย่างมาก เพราะในกล่องเขาจะให้พู่กันแทงค์มาด้วย เป็นพู่กันที่เติมน้ำลงไปในด้ามได้ ใช้อยากได้สีเข้มก็ไม่ต้องบีบด้ามมาก อยากได้สีอ่อนก็บีบน้ำเยอะหน่อย สะดวกมาก ไม่ต้องพกกระบอกน้ำและพู่กันมากๆให้เกะกะอีกต่อไป ซึ่งสีรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 3 ไซส์ให้เลือก มีแบบ 12 18 และ 24 สี ตามลำดับ เราเองขี้เกียจยุ่งยากผสมสี เลยเลือกที่ให้สีมากสุดไว้ก่อน สนนราคาก็ถือว่าถูกถ้าเทียบกับสีน้ำตลับหรือสีน้ำก้อนแบบจัดเซ็ทจากแบรนด์อื่นๆ กล่องนี้เราถอยมาจากร้านสมใจ ราคาประมาณ 500 กลางๆ
หลังจากเอากล่องกระดาษทิ้งไป ข้างในก็จะเป็นกล่องพลาสติคสีขาวขุ่นแบบนี้ ด้านบนที่เป็นฝาจะมีรอยกลมบุบๆเรียงกันหลายอัน ไม่รู้เขาออกแบบไว้เพื่อประโยชน์อะไร เดาไม่ออก และมีโลโก้ด้วย
แต่ที่ฝาของเราไม่ยักมีโลโก้แฮะ ซึ่งก็เป็นของแท้แน่นอนนะ ซื้อจากร้านสมใจนี่ยังไงก็ไว้ใจได้แน่ และเราก็อ่านเจอในเนทเห็นของฝรั่งหลายคนก็ไม่มีโลโก้เหมือนกัน ทั้งแบบ 18 หรือ 24 สีอย่างเรานี่แหละ บางคนก็ห่วงว่าจะได้ของปลอมเหมือนกัน
เปิดฝากล่องออกมาก็จะเจอกับจานสีที่วางครอบตัวสีก้อนอยู่ จานของเรานี้ไม่ได้ล้างมานานแค่ไหนจำไม่ได้แล้ว คุ้นๆว่าเคยล้างไปหนเดียวเองมั้งตั้งแต่ซื้อมาใช้แต่มีเช็ดเล็กๆน้อยๆนะ
มาดูตัวสีกันบ้าง สีของเราพยายามรักษาอย่างดี สีไม่เน่า แต่ฟองน้ำที่แถมมาให้เน่าไปอันนึง ส่วนช่องด้านล่างแนวนอนนั้นเอาไว้ใส่พู่กันแทงค์ที่แถมมาให้ ใส่เก็บในนั้นได้เลยสะดวกดีมาก แต่อย่างที่เล่าว่ามีคนตบไปแล้ว ตอนนี้เราเลยใช้พู่กันแทงค์ของ Seikai แทน
ข้างบนนี้เป็นการ swatch สีแบบเข้มและแบบอ่อนนะ พอให้ดูเป็นไอเดีย ทำเรียงกันไปจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง ยกเว้นแค่สีขาวที่ไม่รู้จะระบายให้ดูไปทำไม เพราะเอาเข้าจริงมันใช้น้อยมากๆ ที่เห็นพร่องไปเยอะมากนั่นคือน้องยืมไปใช้ช่วงนึง แต่ส่วนตัวเราเองนานๆจะใช้ที
เนื้อสีเกลี่ยง่ายพอสมควร ระบายเรียบได้ดี แต่การระบายไล่สีอาจจะยังมีตกตะกอนแบบแปลกๆบ้างถ้ายังฝึกไม่ดีพอ อันนี้ไม่รู้เพราะพู่กันยังไม่ดีพอหรือเป็นที่เราห่วยเอง สีบางสีที่ให้มามันคล้ายกันมากเกินไป รู้สึกไม่จำเป็นเท่าไหร่ รวมๆแล้วจัดว่าคุ้มค่าในราคาประมาณเท่านี้สำหรับสีน้ำแบบตลับพกพา เพราะตัวที่ราคาแรงขึ้นไปประมาณ 200-300 บาทก็จะเป็นของแบรนด์อื่นที่ได้แค่ 12-15 สีเท่านั้น ไม่ได้มากถึง 24 แบบนี้ สรุปแล้วเหมาะกับเด็กนักเรียนที่อยากได้สีราคาไม่แพง คุณภาพดีระดับนึง ขี้เกียจบีบจากหลอดผสมเอง หรือใครที่ชอบทำงานศิลปะแบบมือสมัครเล่น และคนที่ชอบพกอุปกรณ์ไปสเก็ตช์ภาพนอกสถานที่ที่ยังอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มหัด ยังไม่โปรฯเท่าไหร่ สีตัวนี้จะตอบโจทย์การใช้งานและเรื่องราคาที่ไม่แรงได้ดีมาก
ทั้งสองภาพด้านบนนี้เป็นตัวอย่างการใช้งานของเรา ปกติเราวาดและระบายสีลงในสมุดสเก็ตช์ของ Midori เราใช้กระดาษเนื้อนี้เป็นหลัก ไม่ได้วาดลงกระดาษวาดเขียนแบบอื่นหรือกระดาษสีน้ำที่ดีเด่อะไรมากมาย ก็ลองดูเอาละกันว่าประมาณไหน ฝีมือเราก็ยังกากๆอยู่ ไม่ได้สวยหรูอะไรมาก วาดแบบแค่พอดูออกว่าเป็นตัวอะไร ไม่ต้องเขียนกำกับเอาก็พอน่ะ ฮ่าๆๆ
เอาละ เรามาพูดถึงพู่กันแทงค์กันบ้าง อย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่ามันสะดวกยังไงในการใช้งาน สำหรับพู่กันของ Seikai ที่เรามี จำไม่ผิดน่าจะไซส์ M นะ เราซื้อมาเพราะเห็นว่ามันถูกกว่าของ Sakura เองถึง 20 บาท ซื้อมา 140 มั้ง แถมด้ามมันใหญ่กว่าด้วย จุน้ำได้มากกว่าหน่อยนึง ก็เลยเลือกมา แต่ปรากฎว่าไอ้ความที่ด้ามมันใหญ่กว่านี่ละมันทำให้เก็บเข้ากล่องไม่ได้
ข้อเสียที่เราเพิ่งจะพบเมื่อวานนี้สดๆร้อนๆแบบที่นึกไม่ถึงเลยก็คือ พู่กันตัวนี้ไม่มีช่องระบายอากาศตรงช่วงหัว ปกติแล้วพู่กันแทงค์ที่ดีเขาจะต้องเจาะช่องระบายอากาศไว้ด้วย เพื่อเป็นการลดความดันตอนบีบน้ำจากตรงด้าม เวลาที่ไม่ได้เจาะไว้แรงดันจากการบีบน้ำที่ด้ามจะทำให้หัวแปรงมันดูเนื้อสีย้อนกลับเข้าไปในหัวแปรง ไปอัดกันอยู่ตรงเนื้อที่ด้านใน ตรงที่เป็นฟองน้ำดำๆน่ะ ไม่รู้มองเห็นกันรึเปล่า ทำให้สีไม่ออกชัดเท่าที่ควร และสีที่ไปค้างด้านในทำให้เราล้างทำความสะอาดหัวแปรงยากขึ้นเวลาที่จะเปลี่ยนเป็นสีต่อไป ต้องพ่นน้ำและซับกันนานเลยว่าสีที่ตกค้างจะออกไปหมด
เวลาที่เริ่มใช้ไปสักเดือนนึงหัวพู่กันที่เป็นขนแบบสังเคราะห์ก็จะติดสีมาบ้างนะ ไม่ต้องตกใจ มันเป็นธรรมดาของพู่กันที่ใช้ขนแบบนี้ แต่มันไม่ได้ทำให้สีเน่านะ การติดของสีจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเองแล้วแต่ช่วงเวลา สีเก่าหลุด สีใหม่มาติด ไม่มีทางที่มันจะกลับไปใสแหนวแบบเดิมอีกแล้ว อย่างดีก็อมเทานิดนึง
สำหรับพู่กันแทงค์ Seikai อันนี้ จะว่าไม่แนะนำเลยก็ไม่เชิงนะ ราคามันไม่ได้แพงมาก ถ้าไม่ตึงเรื่องงบอะไรก็ซื้อมาลองเล่นแก้ขัดได้ ถือว่าซื้อประสบการณ์ เพราะเราเองก็จะไปซื้อของ Sakura แบบเดิมมาใช้แทนแล้วเนี่ย เพราะเบื่อปัญหาตอนไล่สีที่ตกค้างในหัวออกนี่แหละ ความจริงของ Sakura ก็ไม่ได้มีช่องระบายอากาศเหมือนกันนั่นแหละ แต่เท่าที่เคยใช้มานานก็ไม่พบปัญหาดูดสีเข้าไปติด เลยคิดว่าจะซื้อมาใช้อีกรอบ ของแบรนด์อื่นที่ดีๆทำช่องระบายอากาศไว้ให้ก็ราคาแรงกันพอสมควร 200 ปลายๆถึง 300 ปลายๆโน่นแหละ แต่ไว้เราถอยมาเมื่อไหร่จะเอามารีวิวเปรียบเทียบกันอีกที ซื้อสะสมไปเรื่อยๆก่อนช่วงนี้
จบแล้วสำหรับการรีวิว ไม่รู้มีสาระมากพอมั้ย ติชมกันได้ ถ้าเรื่องฝีมือนี่เรายังกากอยู่ อันนี้น้อมรับ อิอิ ยังไงใครที่ใช้ไอเท็มเด็ดๆตัวไหนอยู่ก็มาแนะนำกันได้ เราจะได้หามาลองบ้างถ้าราคามันไม่แรงจนเกินไปนัก แล้วจะได้เอามารีวิวให้ดูกันอีก