สวัสดีอีกครั้งค่ะ

กระทู้นี้จะมารีวิวงานเรื่องแต่งงานกันต่อ คราวนี้มาดูเรื่องโรงแรมที่จัดงานกันนะคะ
เราจัดงานไปเมื่อ สิงหาคม 2558 ค่ะ จัดพิธีเลี้ยงพระเช้า/  พิธีหมั้น/ และงานเลี้ยงฉลองกลางวัน
อย่างที่บอกในกระทู้ที่แล้วคือเรากับแฟนใช้เวลาเตรียมงานล่วงหน้า 1 ปีเต็ม
และสิ่งสำคัญที่เราต้องใช้เวลาเลือกกันนานเลยก็คือสถานที่ที่ใช้จัดงานค่ะ ^^


เนื่องจากเรามี concept เป็นยุค Gatsby 1920s (ยุคเฟื่องฟู หลังสงครามโลกครั้งที่ 2)
เป็นยุคที่คนแต่งตัวสวย เข้าสังคม เลี้ยงฉลอง รื่นเริง ซึ่งไทยเราก็รับวัฒนธรรมมาเช่นกัน



งานพิธีไทยช่วงเช้า เราก็ได้แรงบันดาลใจมาประมาณนี้ค่ะ




ส่วนงานกลางวัน ก็เป็น Gatsby แบบตะวันตก





ขั้นแรกเรา list ออกมาก่อนว่า เรามองสถานที่หาแบบ....

- ดูดี สง่างาม ไทยย้อนยุค แบบผสมตะวันตก
- indoor (ไม่ต้องกลัวร้อน ฝน ลม)
- รองรับแขกได้ 500-600 ท่าน
- เอาใจแขกผู้ใหญ่เป็นหลัก
- สีสว่างๆขาวๆ
- มีสวน ต้นไม้ ดอกไม้ ไทยๆหรือ English Garden
- เรือนไทยขนมปังขิง ไม่ใช่เรือนไทยโบราณ
- เดินทางสะดวก และมีที่จอดรถเพียงพอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำแนะนำ:  ที่ควรจะ list เป็นอันดับแรกเลย คือ
1. ธีมเป็นแบบไหน
2. จะจัดกลางแจ้ง ในสวน ในร่ม ในบอลรูม ริมทะเล หรือดาดฟ้า
3. จำนวนแขก
4. ลักษณะแขกส่วนใหญ่ที่มา เป็นผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่น สนิทมากน้อยแค่ไหน
5. อยากจัด buffet, cocktail, โต๊ะจีน, หรือ long table

ที่จริงแล้วเราก็ชอบสถานที่แนวไทยๆยุค 1920s หลายที่นะคะ
เราก็ดูหมดทุกรูปแบบ ทุกราคา (มีเวลา 6 เดือนก่อนวันงาน)
โดยการ search และติดต่อขอเข้าไปชมสถานที่ด้วยตัวเองค่ะ ที่ดูไว้ก็มี...

สยามสมาคม http://www.siam-society.org/index_th.html
สมาคมธรรมศาสตร์ http://www.tuasso.com/
ร้านอาหารไทยชาววังบุษราคัม http://www.bussaracum.com/th/menu
The Garden of Dinsor Palace http://www.thegardenspalace.com/
โรงแรม The Siam Hotel http://www.thesiamhotel.com/
โรงแรม Hua Chang Heritage Hotel สะพานหัวช้าง http://www.huachangheritagehotel.com/

แต่เนื่องจากบางที่ไม่ตรงกับ criteria ที่เราตั้งไว้ในบางข้อ และบางที่จองไม่ทัน
สุดท้ายเราก็เลยได้ที่ที่ตรงใจที่สุด ทั้งเรื่องconcept เรื่องราคา และสถานที่ที่ยังว่างอยู่
(เพราะเราโทรไปจองก่อนวันที่เขาจัด wedding fair ของทางโรงแรม) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงแรมเกือบทุกที่ที่รับจัดเลี้ยงแต่งงานจะมีวันที่จัด showcase ของตัวเอง ซึ่งทางโรงแรมจะจำลองงานแต่งงานในห้องต่างๆ ให้ว่าที่คู่บ่าวสาวมาชมฟรี รับของที่ระลึก ชิมอาหารขนม และถ้าถูกใจก็จองสถานที่กันวันนั้นเลย


ก็คือที่ THE SUKOSOL ค่ะ


เราเริ่มจากเข้า website ของโรงแรม http://www.thesukosol.com/th
เพื่อโทรสอบถามรายละเอียดกับแผนกจัดเลี้ยง (wedding planner)
บทสนทนากับ sale ก็มีดังนี้ค่ะ

1. งานจัดวันที่เท่าไหร่ เดือนไหน เวลาเท่าไหร่
2. จำนวนแขกกี่ท่าน
3. มีพิธีอะไรบ้าง เช่น เลี้ยงพระ ขันหมาก หมั้น รดน้ำสังข์ เลี้ยงฉลอง
4. สถานที่ว่างไหม
5. จากนั้นก็นัดเข้าไปคุยกับ sale ค่ะ





เมื่อถึงวันที่นัดหมาย เราก็ไปที่โรงแรม เดอะสุโกศล ซึ่งตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา

_{**ภาพจาก google}

ภายในนี่ใช่เลยสำหรับเรา สง่า โทนสีสว่าง ไทยย้อนยุค ตกแต่งแบบตะวันตก ส่วนพนักงานก็ยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่ รปภ.ที่อยู่ด้านหน้าในชุดโจงกระเบน จนถึง front ค่ะ สุภาพ ทักทาย เราก็แบบ....เฮ่อสบายใจ

ห้องที่เซลเชิญเราเข้าไปนั่งคุยสวยมากค่ะ สบาย แต่เสียนิดนึง ตรงที่เห็นมี pantryเล็กๆในห้องนั้น มีน้ำดื่ม ชากาแฟ น่าจะสำหรับเตรียมไว้บริการลูกค้า แต่คุณเซลไม่หยิบให้เราเลย (มันเป็นแบบไม่ได้วางไว้ให้หยิบเองน่ะค่ะ) นั่งหิวน้ำกันไป (สงสัยเราดูเด็กมั้ง เลยคิดว่าคงไม่ใช่ potential customer)

ใดๆก็ตาม สำหรับครั้งแรกที่ไปคุย คุณเซลไม่ hard sale ค่ะ คุยแบบสบายๆดี ขอไปดูห้องไหนก็ให้ดู พาเดินชมเลย ถามอะไรก็ยินดีตอบ แต่เขาจะไม่ใช่คนเสนอนะคะ ดังนั้นเราชอบห้องไหน ยังไง ต้องดูรีวิวไปก่อนล่วงหน้าค่ะ เพราะโรงแรมนี้ห้องจัดเลี้ยงสวยๆเยอะมาก มีศาลาไทย บ้านไทย มีสวน สวยๆทั้งนั้นเลย ต้องทำการบ้านไปก่อนแล้วจะได้สิ่งที่ดีที่สุดค่ะ

นัดครั้งแรกยังไม่มีการคุยรายละเอียดนะคะ เน้นพาชมสถานที่รัวๆ
ยังไม่มีการต่อรองหรือยื่นข้อเสนอค่ะ คุณเซลบอกให้เรากลับไปตัดสินใจก่อนได้ ไม่ว่ากัน
และให้แฟ้มสวยๆมาคนละ 1 เล่ม ภายในบรรจุเอกสารข้อมูลการจัดเลี้ยง

- แผนผังห้องต่างๆ/ จุได้กี่คน/ กี่โต๊ะ
- ราคาต่อหัวถ้าจัดเป็น buffet, cocktail, หรือ โต๊ะจีน ซึ่งเมนูก็มีหลากหลายแบบให้เลือกอีก
- list ของแถมที่เราจะได้
- ราคาสิ่งที่ซื้อเพิ่มได้ เช่น เพิ่มดอกไม้, ซุ้มอาหาร, เค้ก, ดนตรีสด
- ราคาค่านำเข้า ของตกแต่ง, ดอกไม้สด, แสงเสียง
- ราคาจัดเลี้ยงพิธีอื่นๆเพิ่มเติม ได้แก่ พิธีเลี้ยงพระ+ขั้นหมาก และพิธีรดน้ำสังข์

ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ จะต่างออกไปในแต่ละปี เราสามารถเข้าไปใน website ของโรงแรม แล้วโหลดมาก็ได้ค่ะ แต่ถือว่า The Sukosol ใส่ใจเรามากเลย เตรียมไว้ให้ครบแบบนี้ สบายค่ะ เอากลับมาเปรียบเทียบและแพลนต่อที่บ้านได้





ต่อมาเมื่อเราตัดสินใจเลือกที่นี่แล้ว ก็นัดคุยกันครั้งที่ 2 ค่ะ
ครั้งนี้วางมัดจำ 50,000บาท และคุยรายละเอียดเบื้องต้น

- สรุปแขกคร่าวๆกี่คน (ต้อง confirm ตัวเลขแน่นอน 1 อาทิตย์ก่อนวันงาน) ของเรายังยืนยันที่ 500++ คนค่ะ
- วันที่และเวลาจัดงาน
- มีพิธีอะไรบ้าง (ของเรามีเลี้ยงพระ 07.00น. หมั้น 9.09น. ฉลอง 11.00น.)
- งานฉลองจัดแบบไหน (ของเราเป็น buffet เพราะแฟนมาประชุมที่นี่บ่อย และประทับใจบุฟเฟ่ต์ที่นี่มากก)
- ทางโรงแรมมีป้ายโฟมบนเวทีให้ (แบบที่ไม่ซับซ้อนมาก เพราะช่างแกะด้วยมือค่ะ)
- ทางโรงแรมมี backdrop ถ่ายรูป จัดดอกไม้สดให้
- ทางโรงแรมมี โครงไม้คลุมผ้า และโต๊ะ4-5 ตัว วางเป็นแกลลอรี่ให้ แต่เราต้องนำกรอบรูปมาจัดเอง
- ทางโรงแรมมีจัดแกกันวางบนโต๊ะแขกในงานให้
- มีห้องแต่งตัวให้ ใช้ได้ 6 ชม.
- มาถ่าย pre wedding ในโรงแรมได้ฟรีค่ะ
- การจ่ายเงินต้องทำหลังจบงาน เช่น งานเราเสร็จบ่าย2 ต้องชำระภายใน 5โมงเย็น
- มัดจำเก็บแค่ 50,000 ก้อนนี้ ก้อนเดียว (บางโรงแรมมีเก็บมัดจำ 2 ก้อนค่ะ)
- สุดท้ายก็ไปเดินเลือกห้องจัดเลี้ยง คุณเซลจะพาเดินพร้อมอธิบายจุดเด่นของห้องต่างๆ จุได้กี่ท่าน
  วางเวทีแบบไหนได้บ้าง วางเค้กตรงไหน มีผ้าปูโต๊ะ ผ้าคลุมเก้าอี้สีอะไรบ้าง เป็นต้น

วันนั้นรายละเอียดเบื้องต้นเราค่อนข้างนิ่งแล้ว ยกเว้นจำนวนแขก ส่วนห้องก็เลือกไว้ก่อนรอตัดสินใจ เพราะเราชอบอยู่ 2 ห้อง สำหรับพิธีเช้า คือ "ห้องรัตนโกสินทร์" ที่ดูเป็นทางการ มีเพดานสูง อยู่ด้านหน้าโรงแรม และ "ห้องกมลพร" ที่เป็นตึกยาว โซนสวนด้านหลัง คุณเซลบอกว่าปกติรับจัดงานแต่งแค่วันละงาน ฉะนั้นใช้สถานที่ได้เต็มที่ เราก็เลยสบายใจ ขอกลับไปตัดสินใจก่อนค่ะ

หลังจากเจรจาเสร็จ ก็ปิดจ๊อบด้วยการพาเราลงไปจ่ายค่ามัดจำที่เคาเตอร์ข้างล่าง มีใบเสร็จพร้อมลายเซ็นกำกับเรียบร้อยค่ะ






หลังจากจองไปไม่นาน ทางโรงแรมก็จัด wedding fair เราเลยลงทะเบียนไปด้วยค่ะ อยากเห็นว่าถ้าจัดออกมาจริงๆแล้วจะเป็นอย่างไร

บรรยากาศงานวันนั้น โอโห....สวยมากค่ะ จัดดอกไม้ตั้งแต่ทางเข้าเลย พอเข้าประตูไปก็มีคนมาต้อนรับอย่างดี น่าจะเป็นระดับหัวหน้าหรือฝ่ายบริหารของโรงแรมนะคะเพราะมีออร่ามาก มาเชิญเราไปลงทะเบียน รับของที่ระลึก แล้วก็จะมีเซลมาพาเดินชมสถานที่ ซึ่งของเราได้พี่เซลเป็นผู้หญิง สุภาพ น่ารักมากๆค่ะ เสียดายไม่ได้จองกับพี่คนนี้ > < พาเราเดินชมทั่วเลย (เซลที่นี่น่ารักทุกคนเลยค่ะ ไม่ hard sale)


_{***ภาพจากเวปของโรงแรม บรรยากาศงาน wedding fair}

บรรยากาศ showcase ของเขาดีเลยค่ะ มีดนตรีสดของโรงแรมมาเล่น มีจัด backdrop แบบต่างๆ เค้กแบบต่างๆ มีซุ้มถ่ายภาพฟรี แล้วพิมพ์ออกมาเป็นบัตรพลาสติกแข็ง 2 ใบ + ภาพสี 1 ใบ จนสุดท้ายพี่เซลก็พาเราชมห้อง ballroom และกระซิบว่าทางโรงแรมเพิ่งเปลี่ยนพรมใหม่เป็นสีเทาอ่อน โอ้โห...สวยอีกแล้ว เข้ากับธีมเรามากกว่าเดิมเพราะพรมเดิมสีเข้มมาก เราไม่ชอบสีเข้มอ่ะค่ะ โชคดีไปอีก

จากนั้นพี่เค้าพาเราไปที่ห้องรับรองลูกค้าที่ทำไว้เป็นเหมือนเล้านจ์ มีพนักงานมาเสิร์ฟชา กาแฟ ขนมเล็กๆน้อยๆ (อ่า.. คราวนี้ได้กินแล้ว ^^) ให้นั่งดู presentation งานเลี้ยงของโรงแรมไปเพลินๆ รอคุณเซลคนแรกที่เราจองไว้ เพราะหลังจากเดินชมงาน เราเลือกได้แล้วล่ะ ว่าจะจัดพิธีเช้าที่ไหน ^____^





เราเลือกจัดพิธีเลี้ยงพระเช้าที่ “ห้องบ้านไทย1” ชั้นล่าง อยู่ข้างใน เป็นส่วนตัว ทางเข้าเป็นสวนและน้ำพุของโรงแรม



และจัดพิธีหมั้นที่ “ห้องบ้านไทย2” ชั้นบน




จัดเลี้ยงฉลองกลางวันที่ห้อง Ballroom ซึ่งตอนหลังต้องเพิ่มห้องเล็กข้างๆอีก 1 ห้อง
เนื่องจากแขกเยอะมาก เลยย้ายเพื่อนๆมาห้องเล็ก (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ)

_{*** ภาพจากงาน wedding fair ใน Facebook ของโรงแรม}



ตรงนี้แอบเจ็บค่ะ เพราะคุณเซลบอกมาว่า มีอีกคู่นึงเพิ่งจะจองจัดงานข้างห้องเราในพิธีเช้า (อ้าวววว....) หมายความว่าต้องแชร์พื้นที่สวนด้วยกัน (อ้าวววว....) พอเราจะย้ายไปจัดห้องศาลารัตนโกสินทร์โซนหน้าโรงแรม คุณเซลบอกว่า “ไม่ได้ครับ ตรงนั้นก็มีอีกงาน” (อ้าวววว....)

แต่เราก็วางมัดจำไปแล้ว พิมพ์การ์ดไปแล้ว แจกไปแล้วด้วย ก็ต้องยินยอมไปอย่างเสียมิได้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยก่อนวันงานไม่นานคุณเซลก็ได้โทรมาสอบถามว่าพิธีเช้าข้างล่างเราจะเสร็จกี่โมง (เราก็ไม่แน่ใจนะคะว่าจะให้อีกคู่มาใช้สถานที่ต่อหรือไม่ อย่างไร) แต่ตามสิทธิ์ในสัญญาเราใช้ได้ถึง 11 โมง ดังนั้น เราตอบว่าใช้เต็มเวลาค่ะ และคุณเซลขอตั้งกระถางต้นไม้กันโซนไม่ให้แขกสองงานมาปนกัน เราก็แอบแปลกใจ เพราะตอนแรกบอกว่าจะแชร์พื้นที่สวนด้วยกัน (แต่ตอนหลังเราขอจัดวางกระถางแบบใหม่เอง คุณเซลก็ยินดีเปลี่ยนให้ค่ะ ^^) เข้าใจเขาค่ะว่าต้องเอาใจลูกค้าทุกคน แต่เราต้องรักษาสิทธิ์ตัวเองเช่นกัน ก็เราจองที่นี่เพราะสวนสวยๆติดห้องจัดเลี้ยงนี่นา